xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) หวิดถูกข่มขืน! “ป้าแมว ดาวพระศุกร์” แฉนาทีระทึก ถูกแท็กซี่คุกคามกลางดึก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แฉนาทีระทึก! “ป้าแมว ดาวพระศุกร์” หวิดถูกข่มขืนหลังขึ้นแท็กซี่กลางดึก เจ้าตัวแจงไม่ไว้ใจ หลังจากคนขับทำเสียงฮึดฮัดใส่ จึงสั่งให้หยุดทันที วิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิต ปัดขาบวมจนต้องตัดขา แค่เส้นเลือดขอดเท่านั้น แต่ยันไม่ผ่าตัด เพราะกลัวเอฟเฟกต์ขณะผ่า



กลายเป็นเรื่องราว เมื่อ “ป้าแมว ดาวพระศุกร์” ดาราอาวุโสได้เปิดเผยความในใจว่าทำไมตนเองไปไหนมาไหน ต้องมีแท็กซี่ขาประจำ เพราะนอกจากจะสะดวกสบายด้วยอายุที่มากขึ้นแล้ว ในส่วนของความปลอดภัยนั้น การันตีได้ 100% เพราะครั้งหนึ่งเจ้าตัวเคยโดยสารแท็กซี่ไปไหนมาไหน แต่ถูกคุกคามด้วยการใช้เสียง และหวิดจะโดนข่มขืน จนเจ้าตัวต้องสั่งให้หยุดแล้ววิ่งหนีแทบไม่คิดชีวิตเลย รวมไปถึงอัปเดตเรื่องขาที่อยู่ดีๆ ก็บวมขึ้นมาเหมือนคนเป็นโรคเบาหวาน จนหลายคนเป็นห่วงว่าต้องถึงขั้นตัดขาเลยเหรอ?

“ช่วงนี้อาการบวมลดลงแล้ว รักษาด้วยการนวด นวดตามจุด เกือบจะเป็นปกติแหละ ที่แรกขามันบวมใหญ่ขึ้น น้ำหนักตัวก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 80 กก. และเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี้ไปหาหมอชั่งก็เหลือ 76 กก. แหละ ที่มันบวมเพราะว่าเราไม่ได้เดิน หมอบอกว่าเลือดลมเดินไม่สะดวก สาเหตุจากที่คนเราลองนั่งอยู่ที่เดิมๆ นานๆ หรือนอนเฉยๆ มันก็เลยเกิดอาการบวม หมอสันนิษฐานว่าเส้นเลือดดำจะขอด แต่ไม่รู้ว่าขอดตรงไหน ก็ต้องเข้าอุโมงค์และฉีดสี เข้าอุโมงค์เข้าบ่อยเพราะเราเป็นหอบหืด แต่การฉีดสีนี่ จะเจ็บ ป้าก็กลัว แต่พอคุณหมอนัดไปเช็กอาการทีไร ขาจะเริ่มลดลง หมอบอกดีขึ้นก็ให้ลดยา

ตอนที่มันบวม บวมคือบวมมากเลย ขาข้างที่บวมประมาณ 10 กว่าโล แต่ตอนนั้นเราก็พยายามเดิน มันก็เดินได้ แต่เดินไปไกลๆ ไม่ได้ ซึ่งตอนบวมไม่ปวด แต่ตอนที่มันยุบ มันเริ่มปวด ถามว่าเรากังวลไหม ป้าแมวไม่กังวล เป็นได้ก็ต้องหายได้ และก็เล่นละครได้ เดี๋ยวนี้ละครเขาไม่ให้ป้าแมวเดินนะ เพราะส่วนมากฉากที่เราได้รับเล่นก็อาจจะนั่งตำน้ำพริกในครัว ไม่ได้เดินไปไหนมาต่อไหนเหมือนแต่ก่อน

แต่ไม่ถึงต้องตัดขานะ เพราะเราไม่ได้เป็นเบาหวาน ไม่มีการตัดขาเด็ดขาด คือถ้ารู้ว่าเส้นเลือดตรงไหนขอด ก็มีการผ่าตัด ทำเส้นเลือดให้โอเค และที่ปวดเนื่องจากหัวเข่าเสื่อมด้วยนะ ก็รักษาหัวเข่ามาเรื่อยๆ หมอบอกว่าอยากจะผ่าให้ ข้างละ 2 แสน 2 ข้างก็ 4 แสน และถ้าผ่าแล้วมันโอเค มันก็น่าผ่า แต่ตอนนี้อายุ 79 แล้ว ผ่าทำไมล่ะค่ะ ถ้าเกิดว่าผ่าแล้ววางยาสลบแล้วไม่ตื่นล่ะ จะทำยังไง”

รับกลัวตัวสั่น หวั่นแท็กซี่จะข่มขืน วิ่งหนีจนไม่คิดชีวิต
“ยอมรับว่าเคยเกือบโดนข่มขืน แต่ว่าเรื่องมันเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว ประมาณ 4-5 ปีมาแล้ว ไปถ่ายละครให้เด็ก ม.กรุงเทพ และจากนั้นเราก็มาขึ้นรถแท็กซี่กลับแถวๆ รังสิต พอเราขึ้นรถแล้ว น้องๆ ก็โทร.มาถามว่าโอเคไหม เราก็บอกว่าโอเค แต่สักพักนึงพอรถออกไป คนขับเขาก็เริ่มออกเสียง แบบกระอักกระอ่วน เราก็ถามว่าเป็นอะไร แต่เขาก็ไม่ตอบ แต่ก็ยังทำเสียงเหมือนเดิม และก็พูดว่า ‘ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว’ ตอนนั้นเราเริ่มรู้สึกกลัว และตอนแรกมันมีซอย แต่เขาไม่เลี้ยว เขาเปลี่ยนใจ เขาก็พูดว่าไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว ป้าจึงตะโกนออกไปว่าหยุด หยุดเดี๋ยวนี้ เขาก็หยุดให้นะ เพราะว่าป้าเสียงดังมาก พอเขาหยุด เราก็รีบหยิบของและเปิดประตูรถออกไปทันที วิ่งไปไกลมาก ตรงนั้นมีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ข้างทาง เราก็เล่าให้เขาฟังว่าเราเจออะไรมา

จากนั้นก็มีแท็กซี่คนขับเป็นผู้หญิงขับมาเพื่อจะกินก๋วยเตี๋ยว เขาก็เจอเรา ก็ทักเรา และเราก็เลยเล่าให้ฟังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาก็เลยอาสาพาเราไปส่ง น้องผู้หญิงเขาก็บอกว่าต้นเดือนแบบนี้ชอบมีมิจฉาชีพมาปลอมเป็นคนขับรถแท็กซี่ ป้ายังจำได้ว่าลักษณะคนขับอ้วนๆ ดำๆ น่าจะอายุประมาณ 40 กว่า บวกกับตอนนั้นประมาณจะตี 1 ซึ่งถามว่าเราทราบไหมว่าเขาจะข่มขืนเรา เราไม่ทราบขนาดนั้น แต่พอเขาทำกิริยาแบบนั้น เราก็ตกใจไง เพราะเขาไม่ไหวแล้ว แล้วมันตลกไง แก่ๆ อย่างเราจะโดนข่มขืน ซึ่งเราไม่รู้ว่าเขาจะข่มขืนหรือว่าเขาจะจี้จะปล้นเราไหม แต่ตอนนั้นเราต้องเอาชีวิตให้รอดก่อน

เลยทำให้เราต้องมีแท็กซี่เป็นเจ้าประจำ อีกอย่างเราใช้ชีวิตคนเดียว เรานั่งแท็กซี่กลับบ้าน คนขับบางทีเขาก็รู้ว่าเราคือใคร เขาก็จะถามว่าไปถ่ายอะไรมา ได้ค่าตัวมาเท่าไหร่ เราก็แกล้งๆ บอกไปว่าไม่ได้มาเล่นละคร แค่มาเสิร์ฟน้ำ ได้ 300-400 เอง นี่ก็จะเอามาจ่ายค่าแท็กซี่ไง ต้องโกหกเหมือนกัน ถ้าเขารู้ว่าเราได้ค่าตัวมาเท่าไหร่ เขาอาจจะปล้นหรือเปล่า แต่มันก็เป็นบางครั้ง”









กำลังโหลดความคิดเห็น