xs
xsm
sm
md
lg

มุมมองวงการเพลงที่เปลี่ยนไปของ “แอม-แหม่ม-ปุ้ม” กับยุคที่ต้องจัดคอนเสิร์ตผ่านโซเชียล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตื่นขึ้น นั่งอยู่ หลับไป “แอม-แหม่ม-ปุ้ม” 2 ปีกว่าแล้วที่ไม่ได้ร้องเพลง ลั่นแต่ละนาทีต้องเรียนรู้โควิด รายได้หดต้องเปลี่ยนอาชีพหารายได้เสริม ปลงและทำใจ จากคนโลว์เทคต้องเปลี่ยนมุมมองวงการเพลงใหม่ กับยุคที่ต้องจัดคอนเสิร์ตผ่านโซเชียล ทางเลือกใหม่

น่าจะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เริ่มสร้างความคุ้นเคยกันมาระยะหนึ่งแล้ว กับการโชว์คอนเสิร์ตของศิลปินผ่านระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ก แบบที่ไม่ต้องมีคนดูมานั่งชมหน้าเวทีกันอีกต่อไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าศิลปินทุกคนจะคุ้นเคยกับระบบใหม่ไฮเทคแบบนี้ อย่างศิลปินวงในตำนานยุค 80 อย่างวง สาวสาวสาว นำโดย แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร, ปุ้ม อรวรรณ เย็นพูนสุข และ แหม่ม พัชริดา วัฒนา ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนความคิดและการทำงานในยุคใหม่นี้เช่นกัน

กับคอนเสิร์ต “The Nightclub Concert Ep.4 สาว สาว สาว Threegether” (เดอะ ไนต์คลับ คอนเสิร์ต อีพี สี่ สาว สาว สาว ทรีเกเตอร์) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2564 นี้ ถือเป็นการรวมตัวกันอีกครั้งของศิลปินในตำนาน ที่วันนี้ บันเทิง MGR ได้มีโอกาสพูดคุยอัปเดตชีวิตในช่วงมรสุมโควิดกว่า 2 ปีที่ผ่านมาในวันซ้อมก่อนคอนเสิร์ตจริงจะมาถึงช่วงสิ้นเดือนนี้กัน

แอม : “จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็พอมีงานอยู่บ้าง แต่ปัจจุบัน ตื่นขึ้น นั่งอยู่ หลับไป (หัวเราะ) 2 ปีกว่าแล้วที่ไม่ได้ร้องเพลง ไม่ได้เล่นคอนเสิร์ต ก็คล้ายๆ เกษียณกลายๆ”

แหม่ม : “เอาจริงๆ ทุกอย่างแต่ละวัน แต่ละนาทีมันทำให้เราค่อยๆ เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน อย่างตอนแรกก็ตกใจ แหม่มเองเปิดร้านกาแฟ คนหายไปเลย ก็ต้องมองในแง่ว่าจะทำยังไงเพื่อให้ชีวิตเราอยู่ได้ เขาให้ทำอะไร ป้องกันยังไงเราทำหมด ฉีดวัคซีนเราทำหมด จากนั้นก็ค่อยๆ เรียนรู้ว่าจะต้องทำยังไง เพื่อให้อยู่รอด และไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น คิดว่าวันนี้เราอยู่กับมันได้แล้วแหละ แต่เราไม่รู้ว่าที่บอกว่าเราต้องชนะ เราไม่รู้ว่าชนะคืออะไร แต่เอาเป็นว่าทุกวันนี้เรามีชีวิตอยู่ ก็โกออนไป”

ปุ้ม : “ทุกคนต้องปรับตัวไปตามสถานการณ์รายวัน”

แอม : “แอมคิดว่าเหมือนเรามองไปรอบๆ นั่งรถไปแล้วมองไปรอบถนน ก็คิดว่าเหมือนอยู่ในหนังไซไฟ แต่คราวนี้ไม่ใช่หนังแต่มันเป็นเรื่องจริง แค่ยังไม่มีใครเป็นซอมบี้ ก็แค่อดทน ไม่ได้บอกคนอื่นนะ บอกตัวเอง (หัวเราะ) เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”

แหม่ม : “ไม่ได้บอกว่าให้คิดบวกนะ เพราะคิดบวกไม่ได้เลย”

โควิดรายได้หด ต้องเปลี่ยนอาชีพ หารายได้เสริม
แหม่ม : “ของแหม่มโชคดี ยังมีงานมีรายการทีวีให้ทำ และมีร้านกาแฟ ช่วงโควิดก็คิดหาวิธีจากที่คนไม่มาร้าน ก็เข้าไปขายออนไลน์ เข้าแอปพลิเคชั่นต่างๆ ทำขนมเอง เราไม่นั่งท้อไปกับมัน ทำทุกอย่างเพื่อให้ร้านอยู่รอด ให้พนักงานร้านอยู่รอด อย่างที่บอกค่อยๆ เรียนรู้ ช่วงโควิดก็ผ่านมาได้ถึงจุดนี้ พูดได้ว่าถ้าพ้นโควิดไปได้แล้วเรายังไม่ตาย แหม่มไม่กลัวแล้วจริงๆ (หัวเราะ) เพราะรู้สึกว่ายากกว่านี้ก็รอดมาแล้ว ในขณะเดียวกันถ้ากลัวเกินไป หรือกังวลมากเกินไป ยิ่งไปทับถมตัวเองนะ ก็ต้องสู้”

แอม : “ปกติแอมเป็นคนอยู่บ้านอยู่แล้ว เป็นมนุษย์ผีบ้านผีเรือน ถ้ายกเว้นเรื่องของรายได้ หรือเศรษฐกิจครอบครัว มันย่ำแย่ แน่นอนเป็นทุกคนทุกบ้าน แต่เรื่องการอยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ แอมหยุดก่อนมีเชื้อแล้ว (หัวเราะ) ก็โชคดีที่เป็นคนชอบอยู่บ้าน เป็นคนไม่ไปไหนอยู่แล้ว ถ้าเทียบกับใครที่ชอบไปไหน ความอึดอัดก็จะน้อยกว่าเขา ก็ดีไม่มีใครไปมาหาสู่ ก็ดีสงบ แต่ก็ขายกระถาง เกิดอาชีพใหม่ขึ้น”

แหม่ม : “หลายคนไม่รู้ว่าพี่แอมเป็นคนวาดรูปสวย เขาวาดสวยมาแต่เด็ก คืออยู่บ้านเบื่อ เลยวาดกระถางขาย”

แอม : “มีคนถามเข้ามา มีคนเห็นกระถาง เห็นบอร์ด ก็เริ่มถามถึงว่าเพ้นต์กระเบื้องไหม เพ้นต์แก้วกาแฟได้ไหม ล่าสุดเมื่อวานถามว่าเพ้นต์ป้ายบ้านเลขที่ให้หน่อย (หัวเราะ) ก็เป็นช่างเขียนกระถางขาย จะเรียกว่าอาชีพก็ไม่เชิง ก็หาอะไรทำเพื่อไม่ให้เราเป็นบ้า ฟุ้งซ่านไปด้วย อยากจะพูดว่าเหมือนชิล แต่ลึกๆ ทุกคนวิตกกังวลกันอยู่เหมือนกัน พวกเราทุกคนนี่แหละ ว่าเอ๊ะจะยังไง เราจะไหวไหม จะพอกินพอใช้ไหม เราจะติดเชื้อหรือเปล่า ทุกคนกังวลทั้งนั้น

ก็หาวิธีทำอะไรที่ให้ความรู้สึก เอาจิตใจออกจากเรื่องนี้บ้าง ไม่อย่างนั้นก็คิดกันตลอดเวลาว่า กูติดยัง ตายยัง ทีแรกก็วาดลงเฟรมนี่แหละ แต่มีคนถามว่าทำไมไม่วาดลงภาชนะจะได้เอาไปใช้ได้จริง แอมเป็นคนชอบปลูกต้นไม้ก็เลยนึกถึงกระถาง ก็เริ่มจากเพ้นต์กระถางตัวเอง ทีนี้ก็มีคนมาถามว่าขายไหม อีกอย่างเวลาใครมาก็จะมายกไป เราก็จะสั่งหยุด ไม่ให้ เดี๋ยวทำให้ ก็ต้องขออภัยลูกค้าทุกท่าน คือจะมีถามมาว่าจะได้เดือนไหนคะ ตอนหลังๆ นี้ทำเร็วขึ้นค่ะ”

ปุ้ม : “ของปุ้มผลกระทบค่อนข้างรุนแรง ก่อนหน้านี้เราทำงานในส่วนของพัฒนาศิลปิน พอศิลปินไม่มีงานเขาก็ยุบแผนก ก็อ้าวตายแล้วฉันจะทำยังไงดี ก็เคว้งคว้างอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็คล้ายๆ แอม คือเราชอบทำขนมปัง ชอบทำขนมนั่นนี่ แล้วเราก็โพสต์ลงเฟซบุ๊ก ทีแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะขาย แต่ก็มีคนมาถามว่าทำขายไหม ก็ตอบขายสิ สุดท้ายก็กลายมาเป็นงานเสริมได้ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน

รวมถึงเรื่องของการสอนร้องเพลง พอโควิดมาทางการเขาสั่งว่าให้ปิดทุกอย่าง ก็สอนไม่ได้อีก จริงๆ กระทบเยอะมาก แต่ก็พยายามช่างมัน ปุ้มเป็นคนช่างมัน เดี๋ยวมันก็ต้องมีทางอื่น ต้องมีทางไปจนได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เราเป็นคนรอเก่ง เดี๋ยวเมื่อไหร่ทางมันมาก็จะเห็นเอง แล้วมันก็มาจริงๆ แต่อาจจะไม่ได้ตูมตามใหญ่โต แต่ก็ทำให้เราไม่ได้ทุกข์จนอยู่ไม่ได้ เข้าไปดูได้ในเพจ kitchen Poom เข้าไปดูได้ค่ะ ไม่ได้ขายทุกอาทิตย์นะคะ อินดี้พอสมควร (หัวเราะ) แล้วแต่ความสะดวกของแม่ค้า”

แอม : “สองคนนี้ เขาไปแนวทำของกิน เขาทำเป็น แต่แอมทำได้ แต่กินไม่ได้ (หัวเราะ)”

ปุ้ม : “ก็เป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง จดจ่อกับเรื่องขนมหรือวาดรูปก็ตาม ไม่อย่างนั้นจะเครียดเนอะ”

แอม : “จริงๆ มีช่วงหนึ่งที่เราจำเป็นต้องติดตามข่าวทุกวัน และมีช่วงหนึ่งที่รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ก็ปิดไปเลยไม่อยากดูแล้ว ก็เข้าสู่โลกของเรา วาดอะไรไป ลูกค้าสั่งแบบนี้ก็จะบอกไม่ อยากวาดแบบนี้ (หัวเราะ)”

เมื่อโรคภัยเริ่มใกล้ตัวมากขึ้น ก็ได้แต่ปลงทำใจ
แหม่ม : “เจอหมด อยู่ดีๆ คนใกล้ตัวเป็น บางทีคิดว่าคนนี้ใกล้แล้ว เจอใกล้อีก ล่าสุดข่าวครูฉีดวัคซีนแล้ว เพิ่งเป็นแล้วเสียชีวิตเพราะมีโรคประจำตัว สำหรับแหม่มเป็นคนปลงอะไรเร็ว คือตัวเราเองก็ไม่รู้นะ อย่างที่พี่แอมบอกว่าวันไหนเราจะเป็น แต่ก็ไม่ได้สนใจที่จะไปโฟกัสเรื่องนั้น คือระวังเต็มที่แล้วจะเป็นก็เป็น ถ้าระวังเต็มที่แล้วไม่เป็นก็ถือว่าโชคดี อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่เอามาใส่ไว้เยอะๆ เพราะทุกคนพร้อมจะแพนิคอยู่แล้ว”

แอม : “ก็มีแม่ที่ต้องวิ่งไล่จับด้วย เพราะตั้งแต่โควิดมา เชื่อว่าผู้ใหญ่ทุกๆ บ้าน ก็จะยังงงกับการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตตรงนี้ คือเขาเคยออกไปโน่นไปนี่ แล้วอยู่ดีๆ เฉาอยู่บ้าน บางทีก็โมโหลงที่ลูก หงุดหงิด ก็เป็นธรรมดาที่ต้องดูแล และต้องคอยไล่จับกัน วันนี้บอกแล้วว่าเป็นแบบนี้ๆ นะแม่ อยู่บ้านก่อนนะ อยากได้อะไรเราก็ซื้อไปให้ แต่อย่าเผลอนะ เผลอแล้วแม่หาย (หัวเราะ) แต่ตอนนี้คุณฉันทนาเบาลงแล้วเพราะว่าลูกขู่ ขู่ว่าอันนี้ตายเดี่ยวนะ ไม่เหมือนเป็นโรคอื่น เป็นมะเร็งยังจับมือข้างเตียงได้ แต่อันนี้ต่างคนต่างตายเลยนะ ไม่ได้บอกลา ไม่ได้บ๊ายบายกันด้วย”

ปุ้ม : “ที่ยากสุดคือการดีลกับผู้ใหญ่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ เพราะเขาไม่เคยเจอมาก่อน แล้วเขาเคยชินกับการใช้ชีวิต และมีความดื้อถ้าเราบอก แต่ถ้าเป็นคนอื่นบอกจะเชื่อนะ (หัวเราะ)”

แหม่ม : “ถ้าเจอปัญหาแบบนี้ เราจะมองคนที่ลำบากกว่า เราเป็นนักร้องที่มีงานมีชื่อเสียง เราทำงานมานาน เรามีเงินเก็บพูดง่ายๆ แต่นักร้องอาชีพที่เล่นกลางคืน ชั่วโมงละ 500-1,000 บาท คนพวกนี้ลำบากกว่าเรามาก เขาลำบากมาเป็นปี”

ยุคสมัยของวงการเพลงที่เปลี่ยนไป แต่ความสนุกสนานกับคนดูแบบเดิมก็ยังคงจะต้องมี
แหม่ม : “เอาจริงๆ มันก็มีทุกแบบแหละ แบบเดิมที่ยังต้องฟังสด เล่นสดมันก็ยังต้องมี ในวันนึงที่สถานการณ์มันดีขึ้น อย่างตอนนี้เขาก็เริ่มให้กลับไปเล่นได้แล้ว แบบนั้นมันก็ยังมีอยู่ เพราะสุดท้ายแล้วคนเราก็ยังต้องการเสพความสุขแบบเดิมๆ มันไม่หายไปไหนจากโลกนี้แน่นอน แต่โซเชียลมันเข้ามามีบทบาทมากขึ้น มันก็ทำให้หลายคนมีทางเลือก ต่อให้ไม่ต้องมีโควิดมันก็เริ่มเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว โควิดแค่มาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เร็วขึ้นเท่านั้นเอง”

แอม : “สารภาพเลยว่านี่ก็เพิ่งใช้แบงก์ออนไลน์เป็น (หัวเราะ)”

ปุ้ม : “เพราะอย่างที่เราเคยเห็นที่ต่างประเทศเขาก็ทำแบบนี้เหมือนกัน เขาก็ให้แฟนเพลงทั่วโลกเขาดูได้ เพราะฉะนั้นมันก็จะผสมผสานกันไป เมื่อใดที่สถานการณ์มันเข้าสู่ปกติ สามารถใช้ชีวิตปกติได้ คอนเสิร์ตที่คนมาดูเรา เราก็ยังอยากได้บรรยากาศแบบนั้น”

แหม่ม : “ระบบออนไลน์มันก็คงมาควบคู่กันแหละค่ะ มันคงไม่หายไปจากโลกหรอก แค่ว่าสัดส่วนของมันอะไรจะมากจะน้อยกว่ากันเท่านั้นเอง”

ยังไม่มั่นใจกับการรับงานในช่วงนี้ที่สภาวะโควิดยังไม่นิ่ง
แหม่ม : “งานตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม (หัวเราะ) เพราะเอาจริงๆ เราก็ยังไม่มั่นใจที่จะรับด้วยซ้ำไป”

แอม : “ใช่ค่ะ ที่ติดต่อเข้ามามันก็มี แต่อยู่ที่ว่าเราจะกล้าไปหรือเปล่า เซฟตี้ของเขามันไว้ใจได้จริงๆ ไหม ไม่ใช่คนดูกลัวอย่างเดียวนะ เราก็กลัวด้วยเหมือนกัน เพราะเราก็ต้องกลับบ้านไปเจอแม่ เจอครอบครัว”

ปุ้ม : “ไม่ใช่คิดถึงตัวเองคนเดียวนะ เราคิดถึงครอบครัวด้วย”

แอม : “อย่างปัจจุบันนี้ถ้าออกมางาน พอไปถึงบ้านแม่เรายังต้องเลี่ยงไปล้างมือ อาบน้ำก่อนถึงจะเข้าไปใกล้กันได้ จากการกอดกันน่ะ ซึ่งเมื่อก่อนพวกเราชอบกอดกันมากนะ ไม่ว่าจะปลอบใจกันหรืออะไร ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดเลย เมื่อก่อนเห็นใครเป็นทุกข์อยู่เรายังเข้าไปกอดได้ แต่ตอนนี้รู้สึกมันร้าวรานเหลือเกิน กอดกันก็ไม่ได้ ทุกชีวิตก็ต้องปรับตัวไปเรื่อยๆ”

แหม่ม : “ก็เอาไว้รอให้โควิดหมดก่อนแล้วกันค่ะ เรื่องงานเราก็ค่อยๆ ไป อันไหนที่ไปได้เราก็ไป”

แอม : “ไม่รู้ว่าโควิดหรือชีวิตเราจะไปก่อนกัน (หัวเราะ)”

แหม่ม : “ไม่หรอกๆ ทุกอย่างมันกำลังจะปรับตัวไปในทางที่ต้องดีขึ้นแหละ”

แอม : “หมายถึงวัยของเราที่นาฬิกามันก็เดินไปเรื่อยๆ เนอะ

ปุ้ม : “ทุกวันนี้ถ้ามีงานเข้ามาเราก็จะกลั่นกรองกันก่อนว่าเขามีมาตรการป้องกันยังไง มันเข้ากับวิธีที่เราคิดไหม ถ้าทุกอย่างลงตัวกันเราก็ไปได้”

แหม่ม : “แต่เรื่องโชว์ อีเวนต์ยังไม่ต้องนะคะ เพราะว่ายังเสี่ยงสำหรับทุกคนและเราด้วย”

กับคอนเสิร์ต “The Nightclub Concert Ep.4 สาว สาว สาว Threegether” ที่กำลังจะเกิดขึ้น
แหม่ม : “ต้องบอกว่าทางผู้จัดเขาใจถึงมาก เพราะเราย้ำกับเขานะ ถามว่าจะทำไหม คือตอนแรกที่เกิดเรื่องคิดว่าเขาจะล้มโปรเจกต์ไปแล้ว ปรากฏเขานัดเราเข้าไปคุย”

ปุ้ม : “ตอนที่คุยตอนนั้นยอดผู้ติดเชื้อไม่เท่าไหร่ แล้วพอมีผู้ติดเชื้อมากขึ้นๆ ก็คิดว่าคงไม่ได้เล่นแล้ว แต่ก็ยังจัดอยู่ ก็ต้องปรับตัวกันไป”

แอม : “อย่างแอมเป็นคนโลว์เทคมาก ก็ต้องเริ่มเรียนรู้สิ่งต่างๆ ออนไลน์ คอนเสิร์ตครั้งนี้ก็เป็นรูปแบบออนไลน์ด้วย เสมือนว่ามีคนดู แต่ดูอยู่ที่บ้าน การปรับตัวของเราคือเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้ ที่จะมาเฮร้องไปด้วยกัน จับไม้จับมือกัน ทุกคนต้องปรับตัว ก็ดีกว่าไม่ได้เห็นกันเลย”

แหม่ม : “ก็เป็นการจัดคอนเสิร์ตสตรีมมิ่งครั้งแรก ที่ชื่อว่า ‘เดอะไนท์คลับ คอนเสิร์ต’ เขาอยากได้ความสนุกสนานของรุ่นนี้ และให้วัย 30 40 50 หรือ 60 70 ว่าสามารถดูคอนเสิร์ตสตรีมมิ่งได้นะ แล้วจัดเดือนพฤศจิกายนทั้งเดือน ทุกวันอาทิตย์ 4 คอนเสิร์ต อาทิตย์แรก ep1 เดอะพาเลซพาแดนซ์ อาทิตย์ที่สอง ep2 นภ พรชำนิ บายรีเควส อาทิตย์ที่สาม ep3 ตู่ นันทิดา 60s และสัปดาห์สุดท้าย ep4 สาวสาวสาว threegetther มีพี่เต๋า สมชาย เป็นแขกรับเชิญพิเศษค่ะ”

แอม : “ก็ต้องมีการรื้อการร้อง เสียงร้องพอสมควร เอาจริงๆ 2 ปีไม่ได้ทำงานเลย ไม่ได้ร้องเพลงเลย”

ปุ้ม : “ถ้าได้ไปออกรายการก็ได้ร้องแค่ 1-2 เพลง ไม่ได้รันยาวแบบนี้ ก็ถือว่าต้องรื้อฟื้นกันใหม่ และเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ทั้งของพวกเราและคนดูด้วย ในส่วนของเราจะเล่นยังไงถึงจะสร้างบรรยากาศ สร้างความรู้สึกว่าให้เหมือนมีคนดูจริงๆ เพราะว่ามันไม่มีคนดูอยู่ตรงหน้า มันก็คงจะยากมากสำหรับคนขึ้นเวที สำหรับคนร้องเพลง”

แหม่ม : “แต่เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด และก็เต็มที่ ยังไงก็ฝากเข้าชมกันด้วยนะคะ สามารถจองบัตรได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โลตัส บิ๊กซี หรือเข้าที่เว็บไซต์ พอได้โค้ดก็เอามาเข้ารหัสเพื่อชมคอนเสิร์ตในแต่ละวัน ชอบตอนไหนเลือกซื้อตอนนั้น หรือเลือกดูทั้งหมดเลย มีราคาแพ็กเกจด้วยนะคะ”





















กำลังโหลดความคิดเห็น