“ปิ๋ม ซีโฟร์” สุดทน โดนแฟนเด็ก อาศัยชื่อเสียงพาผู้หญิงคนใหม่ไปขายของให้กับเหล่าคนดังซ้ำยังมีเรื่องนอกใจเป็นประจำ
ถึงขั้นจับได้คาหนังคาเขามีคลิปเด็ด1 ชม.45
นาที แฉผู้หญิงคนใหม่คดีเพียบ
เจ้าตัวประกาศเลิกเด็ดขาด ยันไม่มีส่วนรู้เห็น อย่าทำให้เสียชื่อเสียง
อวสานรักต่างวัยส่งท้ายสิ้นปีเลยทีเดียวสำหรับ “ปิ๋ม ซีโฟร์”ดารานักร้องนักแสดง กับ “น้องเงิน”อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย วัย 25 ปี ที่อายุห่างกันถึง 23 ปี ล่าสุดปิ๋มก็ออกมาประกาศตัดความสัมพันธ์กับแฟนรุ่นน้องเรียบร้อยแล้ว เพราะฝ่ายชายอาศัยคอนเนคชั่นของปิ๋มไปโพสต์ขายของในกลุ่มของเหล่าคนดัง ซึ่งสินค้าดังกล่าวเป็นของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งสนิทกับน้องเงิน แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ผิดปกติที่ทำให้ต้องเช็คประวัติของผู้หญิงคนดังกล่าว จนกระทั่งไปทราบว่า โดนหมายหลายคดีเป็นบุคคลอันตรายให้ระมัดระวังในการซื้อขาย งานนี้ปิ๋มเลยโดนหางเลขไปเต็มๆ ว่ารู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่ จนเจ้าตัวต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และเหลืออดกับการกระทำของแฟนหนุ่มเป็นอย่างมากที่ทำให้เสียชื่อเสียง ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์
พร้อมกับเผยถึงความสัมพันธ์ที่ผ่านมาว่า ฝ่ายชายมักจะมีเรื่องผู้หญิงมาโดยตลอดแต่ตนเองไม่สนใจเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย เคยโดนจับได้คาหนังคาเขามีคลิปความสัมพันธ์ความยาวถึง 1 ชม. 45 นาที
“มันไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับเรื่องผู้หญิง อันนี้เราถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะเขาอายุยังน้อย 20 กว่า ต่อให้เราคบกันต่อไปก็จะต้องมีเรื่องผู้หญิงมาเรื่อยๆ เราก็ต้องทำใจมันเป็นเรื่องปกติของเด็กน้อยวัยขบเผาะที่มันจะต้องมีเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาบ้างที่เราทำใจ”
“แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ยากจะให้อภัย เราแนะนำให้น้องรู้จักกับนักบอลกลุ่มนี้ที่มีชื่อเสียงกับดารานักร้องกลุ่มนี้ เราเป็นคนไปฝากน้องเขาไว้เอง น้องไปไหนจะต้องแบกหน้าเราไปด้วย เขารู้จักน้องในฐานะที่เป็นแฟนพี่ปิ๋มไปฝากไว้ไปเป็นตัวแทนเรา แต่จู่ๆ น้องไปโพสต์ขายของเป็นการทำโดยพละการโดยที่ไม่บอกเราเลย”
“เขาไปโพสต์ขายรถไฟฟ้า มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งนำเบอร์ของน้องผู้หญิงซึ่งเป็นคนที่เอามาให้น้องขายอีกที เอาเบอร์ไปเซิร์จใน Google แล้วขึ้นชื่อเป็นบุคคลอันตรายมีหมายอะไรเยอะแยะ ตามที่เราได้อ่านข้อมูลก็ตกใจว่าน้องไปเจอะเจอไปรู้จักคนประเภทนี้ได้อย่างไร ที่เสียใจไม่ได้เสียใจที่เราต้องแยกหรือห่างกันเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติมาก วันใดที่หมดบุญต่อกันเราก็ต้องแยกย้ายกันไป แต่ที่เสียใจคือว่าได้บอกน้องแล้วว่าอย่าทำแบบนี้และนำคนแบบนี้เข้าไปในกลุ่มที่เป็นพี่ๆ ดารานักร้อง ทุกคนสั่งซื้อไม่ได้สั่งซื้อเพราะน้อง แต่เขาสั่งเพราะน้องเป็นแฟนพี่ปิ๋มและคิดว่า ปิ๋มเป็นคนให้มาขาย” “แต่พอเกิดปัญหาทุกคนไม่กล้าโทรถามเรา เขาเซิร์จชื่อแล้วมันขึ้นเป็นบุคคลอันตรายเป็นผู้ขายที่น่ากลัวขายสิ่งนี้ๆ แล้วโปรไฟร์ผู้หญิงคนนี้คือโป๊เปลือย น้องไปรู้จักได้ยังไง แล้วเอาคนแบบนี้ไปให้รู้จักกับพี่น้องๆ ที่เขาเป็นกลุ่มบุญสายบุญที่เขาตั้งไว้เพื่อเตะบอลการกุศล แล้วเอาคนไม่มีศีลธรรมแบบนี้เข้าไปในกลุ่มแบบนี้ได้ไง อันนี้เราเสียใจ และอันนี้ได้ขอโทษทุกคนแล้ว ขอโทษที่ไปแนะนำน้องทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจทุกคน”
“เขานึกว่าเรามีส่วนร่วม คิดว่าเรารู้เรื่อง แต่พี่ต๋อง ชวนชื่น สนิทกับเราก็เลยตัดสินใจถามรู้จักผู้หญิงคนนี้ไหม เกิดเรื่องแบบนี้รู้เรื่องไหม ซึ่งเราไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้เลย เราไม่รู้เขาไปรู้จักกันตอนไหน แล้วก็ไม่ได้ไปถามเรื่องชู้สาว เพราะมันเป็นเรื่องปกติของน้อง แต่ที่คิดคือไปเอาคนแบบนี้มาให้พี่เสียชื่อได้ไง”
ฝ่ายชายนอกใจเป็นประจำจนเป็นเรื่องปกติ
“ทางน้องก็บอกว่าเป็นเพื่อนของเพื่อน จะบอกว่าไอ้เรื่องหึงหวงมันเลยคำนี้มานานแล้ว เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ปีใหม่ที่ผ่านมา โทรศัพท์ของน้องมันเหมือนรับอัตโนมัติทำให้เราได้ยินเสียง 1 ชั่วโมง 45 นาที ทั้งหมดกับผู้หญิง เสียงทุกอย่าง(เสียงกำลังมีอะไรกันนี่เหรอ) ทุกอย่าง พูดอะไรกัน อะไรกันทุกอย่าง เราก็ให้อภัยเพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชายน้องยังเด็กและให้โอกาส เขาไม่แก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่มีสิทธิ์แก้ตัว เพราะคลิปมันชัดเจน เห็นรูปทั้งหมด”
“สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในตัวนี้แน่นอนจริงๆ ทุกครั้งที่มีเรื่องราวพวกนี้จะต้องมีเหตุให้รู้ คือเรื่องพวกนี้มันเลยตรงนั้นมามากแล้ว เราโตมากแล้ว เรามีครอบครัวที่จะต้องดูแลมีสิ่งให้โฟกัสมากกว่าสิ่งนั้น วันหนึ่งเมื่อชดใช้กรรมต่อกันเมื่อหมดก็ต้องไป อย่างวันนี้เรื่องชู้สาวเป็นเรื่องรอง แต่เรื่องเครดิตเรื่องทำลายชื่อเสียงมันคือเรื่องราวที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราต้องแยกกัน ก็บอกน้องว่าให้ไปซะ ที่ผ่านมาที่เขามีโน่นนี่นั่นระหว่างทางไปซะน้อง น้องต้องไป แต่น้องไม่ไป เราก็ไม่รู้จะว่ายังไงเราก็เฉยๆ ไม่ได้ยึดติด”
“คบกันมาประมาณ 6 ปี เราคิดว่าเขาเป็นครอบครัว แต่เขาจะคิดว่าเป็นครอบครัวหรือไม่อันนั้นเราไม่รู้ ครอบครัวในที่นี้ไม่ใช่ชู้สาวผัวเมีย แต่คิดว่าเขาเป็นพี่น้องเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง อะไรบอกได้ในฐานะที่เราเป็นพี่เราก็บอกแนะนำตรงได้เราก็แนะนำได้ จะให้พาไปอยู่สโมสรไหนก็ไปกราบกรานผู้หลักผู้ใหญ่ไปฝากน้อง อันนี้ปิ๋มขอโทษจริงๆ นะคะ ขอโทษผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยไปการันตีตัวน้อง อันนี้ขออนุญาตถอนค่ะ”
งานนี้ฝ่ายชายอาจโดนข้อหาสมรู้ร่วมคิด
“ถ้ามีผู้เสียหายไปแจ้งความหรือไปเอาผิดก็อาจจะโดนเรื่องสมรู้เรื่องคิดเพราะเขาเป็นคนแนะนำ เราก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้เพราะเราไม่รู้เห็นจริงๆ ถ้าโดนรังแกเอารัดเอาเปรียบเราช่วยในฐานะที่เคยช่วยมาโดยตลอด แต่รอบนี้มันช่วยไม่ได้ ทุกคนพูดเป็นเรื่องเสียงเดียวกันนึกว่าปิ๋มรู้ก็เลยซื้อ มันเหมือนเราไปมีส่วนเลยป่าวประกาศเลยว่า ไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้เลย”
ไม่กลับไปคืนดีอีกแล้ว
“เรายึดถือเรื่องบาปบุญคุณโทษที่สุดเลย คือถ้าเรายังมีเวลามีกรรมต่อใครมันก็ยังจะเจอแบบนี้อยู่ดี ต่อให้พูดว่าไม่เอาแล้วถ้าคนมันมีเวรมีกรรมมีบุญต่อกันเดี๋ยวมันก็มา มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนน้องคงไม่กล้ากลับมาแล้วล่ะเพราะมันหลายครั้งแล้ว น้องรู้จักนิสัยเราดีว่า อะไรที่เป็นแบบนี้พี่ปิ๋มไม่เอาด้วยแน่นอน วันก่อนที่เขามาหาเรา เราก็ไม่คุยกับเขา ไม่มองหน้าเขา เราบอกว่าอย่ามาใกล้”
“ตอนที่เราเลือกเขา เพราะเขารักลูกเรา ดูแลลูกเราพ่อแม่เราในตอนแรก เราไม่ได้ต้องการเงินทองจากใครเพราะเราหาเงินได้ เงินทองลำบากหน่อยแต่ก็ภาคภูมิใจที่หาเองได้ แต่คนที่จะมาดูแลลูกดูแลพ่อแม่มันหายากนะ แต่เขาผ่านตรงนี้ ทุกคนรอบข้างเราพูดเหมือนกันหมดว่าน้องโอเค เราชอบทำบุญเหมือนกันถึงได้เลือกน้อง แต่ระยะเวลาที่ผ่านไปมันเห็นกันว่าเป็นยังไง ทุกคนจะต้องมีนิสัยดั้งเดิมออกมาในที่สุด เราก็เห็นแต่แอบหลับหูหลับตา แต่เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่กว่าการที่เขาแอบมีกุ๊กกิ๊กตามทาง”