แค่ “สามีแห่งชาติ” อาจจะไม่เพียงพอ
เพราะนาทีนี้ “ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล” ได้รับการอวยยศว่าเป็น “สามีแห่งจักรวาล” ไปเรียบร้อยแล้ว
ด้วยอานิสงส์แห่งความโรแมนติก ละมุนละไม มีลูกอ้อน ลูกหยอด และรอยยิ้มพิมพ์ใจของ “อำพน” แห่งละคร “กระเช้าสีดา” ทาง ช่องวัน ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงไม่แพ้บทแซ่บๆ ของ “รำนำ” ที่แสดงโดย “กรีน-อัษฎาพร” แต่อย่างใด
กรีน ย้ายมาจากช่อง 7
ขณะที่ ก๊อต โผบินออกมาจากช่อง 3
และควงคู่กันมาฉายแสงในละครเรื่องนี้ จากสายตา และมุมมองที่เฉียบคม หมายรวมถึงฝีมือการเจียระไนของ “ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุลฯ” หัวเรือใหญ่แห่งค่าย Change2561 ซึ่งเพลานี้ต้องถือเป็นแหล่งพิงพักแห่งสำคัญของบรรดานักแสดงที่ผันตัวออกมารับงานอิสระ
ก่อนหน้านี้ก็เลยขัดสีฉวีวรรณจน “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก” จากตำแหน่งนางเอกที่ถูกลืมในช่องเก่า จนขยับขึ้นมาเป็นนางเอกแถวหน้าได้อย่างสง่างาม จากละคร “หลงไฟ” ต่อด้วย “ใบไม้ที่ปลิดปลิว”
แม้กระทั่ง “อาร์ต-พศุตม์” ที่อยู่ช่อง 3 มานานวัน ก็ถูกนำมาผลักดันจนกระทั่งสามารถคว้ารางวัลโทรทัศน์ทองคำดาราสนับสนุนชายดีเด่นจากละคร “เนื้อใน” หลังจากที่เคยได้รับรางวัลเดียวกันมาแล้วจากละคร “บางระจัน” เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งยังอยู่ในสังกัดช่อง 3 แต่กลับไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควรจะเป็น
อารมณ์เฉกเช่นเดียวกับ ก๊อต-จิรายุ
ที่หลายคนยอมรับในฝีไม้ลายมือทางการแสดงที่เฉียบคม เพราะทุกครั้งที่รับละครแต่ละเรื่องเขาต้องทำการบ้านอย่างหนัก ทั้งการตีความ สร้างคาแรกเตอร์ และจะต้องมีการจดโน้ตไว้ในบทละครของตัวเองเสมอ เรียกว่าทำการบ้านอย่างละเอียดมาพร้อมก่อนจะมาถึงหน้าเซ็ต
การแสดงของเขาจึงไม่ใช่การท่องจำไปตามบท โดยปราศจากความเข้าใจถึงเหตุ และผล รวมถึงความต้องการ ตลอดจน Passion ของตัวละครที่เขาสวมบทบาท แต่เขาถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดผ่านทั้งสำเนียงการพูด กิริยาท่าทาง รวมถึงสายตา จนคนดูทุกคนเชื่อว่าเขาคือตัวละครนั้นๆ จริงๆ
ในส่วนคาแรกเตอร์ของ อำพน นั้น ก๊อต ให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการ “เกลือวันเด้อ” เมื่อวันเสาร์ที่แล้วว่า เขานำต้นแบบบางส่วนมาจากประธานาธิบดี “บารัก โอบามา” เพราะในบทวางไว้ว่า อำพน จบทางด้านการทูตมา จึงต้องมีบุคลิกลักษณะแบบคนชั้นสูง มีมาด มีจังหวะในการคิด ทุกคำที่พูดจะผ่านการประมวลผลก่อนเสมอ
เรียกว่าเก็บรายละเอียดทุกเม็ด !! เพื่อจะเป็นตัวละครที่สมบูรณ์แบบที่สุด
แต่กว่าที่เขาจะถ่องแท้เกี่ยวกับทักษะทางการแสดง การตีความ การเข้าถึงบทบาท เขาก็เริ่มต้นจากการเป็นดาราที่ไม่รู้อะไรเลย เล่นไม่เป็น จนแทบคิดจะเลิกแสดงไปแล้วด้วยซ้ำ
ไม่แปลกที่ ก๊อต จะสามารถคว้ารางวัลทางการแสดงทั้งระดับในประเทศ และต่างประเทศมาแล้ว กระนั้นหนทางการเป็นนักแสดงภายใต้ร่มเงาช่อง 3 ของเขา ก็ไม่ได้ฉุดให้เขาเจิดจรัสเมื่อเทียบกับฝีมือที่มี
จนกระทั่งได้รับโอกาสให้มารับบทเป็น อำพน ซึ่งถือเป็นบทนำฝ่ายชายอย่างเต็มตัวของเขา
ถ้าใครเคยติดตาม “กระเช้าสีดา” ในเวอร์ชันก่อนหน้านี้ อาจจะพอจำได้ว่า บทนี้นำแสดงโดย “กรรชัย กำเนิดพลอย” แต่ตอนนั้นด้วยตัวบทไม่ได้เน้นความสำคัญให้กับตัวละครตัวนี้ เพราะเทน้ำหนักไปที่ตัวละคร รำนำ ที่นำแสดงโดย “หน่อย-บุษกร” ล้วนๆ
แต่ในเวอร์ชันรีเมก กลายเป็นว่าบท อำพน กลายเป็นบทชูโรงที่ทำให้สาวๆ เคลิ้มไหวไปตามๆ กัน โดยเฉพาะซีน โรแมนติกเข้าพระเข้านางกับ “น้ำพิงค์” นำแสดงโดย “นุ่น-วรนุช” ที่ตัวบทก็มีอะไรให้เล่นมากกว่าในเวอร์ชันก่อน ที่สวมบทโดย “ตั๊ก-มยุรา” เช่นเดียวกัน
เป็นความบังเอิญที่ละคร “กระเช้าสีดา” จำต้องระงับการออกอากาศไปด้วยเหตุเพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ละครไม่สามารถถ่ายทำได้ และจำเพาะให้ต้องมาถูกตัดจบ (ชั่วคราว) ตรงที่ปมความสัมพันธ์ของ อำพน กับ น้ำพิงค์ ด้วยวรรคทองที่ว่า
“ตั้งแต่นี้ไปผมจะไม่กอดพี่ในฐานะน้องชายอีกแล้วนะ“
การถูกทิ้งให้อารมณ์ค้าง
ก็เลยทำให้คอละครนั่งนับวันรอการคัมแบ็กของละคร “กระเช้าสีดา”
อย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งที่สุดแล้ว ตอนใหม่ก็ได้ฤกษ์ออกอากาศให้ชมกันในวันพฤหัสที่21ตุลาคมที่ผ่านมา
และก็สามารถฟาดเรตติ้งไปถล่มทลายตามคาด
ขณะที่ตัวละคร รำนำ ยิ่งทวีความร้าย
ความแซ่บมากยิ่งขึ้นเท่าใด ความอบอุ่น
อ่อนโยน ของคัวละคร อำพน
ก็ขับเคลื่อนให้ละครเรื่องนี้มีมิติขึ้นไปพร้อมๆ กันเท่านั้น
เป็นการจงใจขยี้บทให้คนดูติดตามชนิดไม่ยอมละสายตา
แต่บทที่ถูกขยี้มาอย่างดี
ก็จะแลดู “ด้อยค่า” ไปในทันที หากปราศจาก “พลัง”
ทางการแสดงของนักแสดง โดยเฉพาะ ก๊อต ที่โชว์สกิลได้อย่างเหนือชั้น
ไม่ว่าจะเป็นซีนโรแมนติก กับ นุ่น หรือกระทั่งซีนที่ปะทะทั้งคารม
และอารมณ์กับพ่อ ที่แสดงโดยนักแสดงฝีมือเก๋า อย่าง “นพพล โกมารชุน”ซึ่งถ้าฝีมือไม่ถึงจริงๆ มีหวังถูกฆ่าตายกลางซีนแน่นอน
แต่งานนี้ฟาดมาฟาดกลับไม่โกง เล่นแบบไม่เกรงบารมีเลยว่างั้น
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งฉากในความทรงจำที่คนดูจะต้องโจษจันเกี่ยวกับเชิงชั้นทางการแสดงของ
ก๊อต ไปอีกนาน!!!!
งานนี้ต้องยกเครดิตเต็มๆ ให้ เจ๊ฉอด
ที่มองขาดถึงศักยภาพในตัวตนของ ก๊อต
และส่งให้เขาจรัสแสงในฐานะพระเอกเต็มตัวเสียที
ผู้จัดการ 360 องศาสุดสัปดาห์
ประจำวันที่30ตุลาคม–
5พฤศจิกายน 2564
