xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “GDH” ยอมรับ “ร่างทรง” ดังไกล เพราะเกาะผ้าเหลือง “นาฮงจิน” แจ้งจับ 5 เคส ปล่อยหนังลงเว็บเถื่อน กระทบรายได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“GDH” แจ้งจับ 5 เคส ละเมิดลิขสิทธิ์ “ร่างทรง” โอดกระทบรายได้หนัก ตั้งแต่ไม่ได้ฉายใกล้ๆ กับในเกาหลี ลุ้นฟีดแบ็กคนไทย ปังเหมือนต่างชาติ คว้าอันดับ 1 ในเกาหลี จ่อฉายอีกหลายประเทศ สร้างมิติใหม่หลอนจนต้องเปิดไฟดู ตอกย้ำความแรง หนังผีไทยยังขายได้อยู่ เหมือนได้เกาะชายผ้าเหลือง ไป World Wide ได้ต้องขอบคุณ “นาฮงจิน”



หลังต้องเลื่อนฉายมาหลายเดือน ในที่สุดหนังผีแห่งยุค “ร่างทรง”จากฝีมือการกำกับของ “โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล”ที่มี “นาฮงจิน” ผู้กำกับภาพยนตร์สยองขวัญชาวเกาหลีใต้ มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ ก็ได้ฤกษ์ฉายเรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 28 ตุลาคม

โดยล่าสุดวันนี้ (27 ต.ค.) ในการฉายรอบกาล่า พรีเมียร์ “จีน่า จินา โอสถศิลป์” CEO ของบริษัท GDH พร้อมกับผู้กำกับของเรื่อง ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงความสำเร็จในครั้งนี้ และอัปเดตความคืบหน้า หลังโดนเจิมหนัก คนละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา ดูดหนังไปปล่อยเว็บเถื่อน

โต้ง : “ฉายที่แรกที่เกาหลี ก็ได้รางวัล Best of Bucheon จากเทศกาลภาพยนตร์ 25th Bucheon International Fantastic Film Festival (BIFAN) แล้วก็มีไปเทศกาลที่ยุโรปหลายที่ อังกฤษ เวียนนา สเปน ลอนดอน แต่ถ้าฉายในวงกว้าง ก็จะมีที่เกาหลีเป็นที่แรก ตอนแรกเราก็ตื่นเต้นกันมากตอนเปิดตัว ผมรู้สึกว่า น่าจะเป็นก้าวที่สำคัญมาก เพราะว่าหนังพูดภาษาไทย ได้ฉายวงกว้างขนาดนั้น เปิดตัวอันดับ 1 ก็รู้สึกเกินคาดครับ หลังจากนั้นก็จะมาเป็นสิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง อินโดนีเซีย แล้วก็ไทย”

จีน่า : “ไทยเป็นประเทศที่ 6 ค่ะ แล้วก็รอว่า เวียดนามและประเทศถัดๆ ไปที่กำลังจะมา”

เผยตอนสร้าง คาดหวังไว้สูงมาก แล้วก็ทำได้จริงๆ
จีน่า : “ฝีมือพี่โต้ง บรรจง เราคาดหวังสูงมากค่ะ แล้วฟีดแบ็กก็ดีมากจริงๆ ซึ่งอันนี้ภูมิใจแทนเขาจริงๆ

ภูมิใจมาก ขึ้นอันดับ 1 หนังทำรายได้ที่เกาหลี
จีน่า : “จริงๆ ตอนที่ทำกับเกาหลี ก็ต้องขอบคุณทางเกาหลีจริงๆ ที่เขาให้เกียรติและเชื่อใจ ร่วมสร้างสรรค์ไปด้วยกัน วันที่เราขึ้นอันดับ 1 ครั้งแรกที่เกาหลี ก็ภูมิใจในความเป็นคนไทย เป็นคนทำงานหนังไทย ประเทศไทยเราไปที่เกาหลีได้ นอกจากนี้ยังไปสิงคโปร์ ไต้หวันก็ดีมาก แล้วยังมีฮ่องกง อินโดนีเซีย ก็ภูมิใจค่ะ เงินเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากได้ แต่เราคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุด คือคนชอบงานของเรา แล้วเราคิดว่าโต้งเขาได้สิ่งนั้นแล้ว”

เป็นหนังสยองขวัญไทยแท้
จีน่า : “ไทยแท้ค่ะ เป็นเรื่องเป็นราวความเชื่อของคนไทยและร่างทรง ไทยแท้หมด เพราะว่าทีมงานทุกคนตั้งแต่คนเขียนบท คนทำงานจนถึงถ่ายทำเสร็จ เป็นคนไทยหมด”

เกาหลีหลอนมากจนสร้างมิติใหม่ เปิดไฟดูในโรง
โต้ง : “ผมฟังครั้งแรกแล้วรู้สึกว่า เออ มันดีว่ะ จริงๆ แล้วมันเป็นกระแสที่พอมีคนดูแล้วบอกน่ากลัว เขาก็เลยหยิบมาเป็นลูกเล่นทางการตลาด มองว่าน่ารักดีนะครับ อยากเห็นเหมือนกัน ว่าเปิดไฟแล้วจะดูกันยังไง”

จีน่า : “เสียดายเหมือนกัน เพราะเมื่อกี้รอบ 4 โมงเย็น เป็นรอบทีมงาน แว๊บเข้าไปดูประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนมาแถลงข่าว เห็นคนสะดุ้งหลายคน ซึ่งช่วงกลางๆ หนังไปจนถึงปลายหนัง จะน่าสนใจค่ะ”

หลายประเทศซื้อแล้วแต่ยังไม่ได้ฉาย เพราะมีโควิด
จีน่า : “จริงๆ เวียดนาม ลาว ทุกคนรอเราอยู่เลยนะคะ และอีกหลายๆ ประเทศค่ะ แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด ก็เลยต้องรอนิดหนึ่งค่ะ”

โต้ง : “จริงๆ มันขายไปหมดแล้วนะครับ แค่รอวันฉาย อย่างอเมริกาก็ฉายแล้วนะครับ บางประเทศก็เป็นสตรีมมิ่ง อย่างอเมริกาจะเป็นเจ้าใหญ่เลย”

ต้นฉบับเดียวกันหมดทุกประเทศ พูดไทยแล้วใส่ซับ
จีน่า : “ใช้ภาษาไทย แล้วก็ใส่ซับไตเติ้ล ต้นฉบับเหมือนกันทุกประเทศค่ะ เครดิตทุกอย่างก็เหมือนกันหมดเลย”

ยอมรับการร่วมงานกับเกาหลี ทำให้เวิลด์ไวด์มากขึ้นเหมือนเกาะชายผ้าเหลือง นาฮงจิน
โต้ง : “มีผลแน่นอนครับ ผมว่าความที่เขาเล็งเห็นอะไรบางอย่างในเรา ผมก็รู้สึกเซอร์ไพรส์ครับ ตอนนี้ก็ถือว่าเราเกาะชายผ้าเหลืองคุณนาฮงจิน อย่างน้อยคนก็เพ่งเล็งมาที่พวกเรามากขึ้น

ฟีดแบ็กในไทยยังไม่รู้ แต่ในต่างประเทศถือว่าประสบความสำเร็จมาก
จีน่า : “ถ้าเป็นต่างประเทศเดี๋ยวต้องพี่โต้ง แต่เดี๋ยวคนไทยเนี่ย เสร็จจากแถลงข่าว ต้องเข้าไปดู ปกติรอบแรกพวกเราต้องอยู่ดูฟีดแบ็กเลย แต่เมื่อกี้ดูมาครึ่งชั่วโมง ก็รู้สึกดีมากค่ะ”

โต้ง : “ในต่างประเทศ ตัวผมว่าเองและคุณนาฮงจิน ฟินมากนะครับ เพราะหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่อ่านบทออริจินัล มันเป็นเรื่องเกาหลีก่อน แล้วเขาให้เราแปลงเป็นบริบทไทย ผมก็รู้สึกว่าเรื่องมันเข้มข้นแล้วก็แรงมาก แล้วพอออกฉายก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ คือมันเป็นหนังที่ทุกคนมาดูเพื่อถกเถียงกัน ว่าคุณเชื่ออะไร คุณคิดว่าฉากนี้คืออะไร คุณกลัวหรือไม่กลัว ซึ่งสำหรับผม ณ ตอนนี้ มันคือคำนั้นเลย The most debated movie of the year ซึ่งสำหรับผมคือฟินครับ

เหมือนเป็นกานตอกย้ำ ว่าหนังสยองขวัญของไทย ยังส่งออกได้อยู่
โต้ง : “จริงๆ คำว่า Thai Horror เนี่ย เป็นทีเด็ดของประเทศเรานะครับ แต่ว่าความต่อเนื่องในยุคหลัง อาจจะน้อยลงนิดหนึ่ง มันอาจจะยากนิดหนึ่ง จริงๆ มันทั่วโลกแหละครับ การพยายามทำหนังสยองขวัญ ให้ยังสดใหม่อยู่ มันจะยากขึ้นทุกวัน”

ไม่ได้คิดว่าต้องทำยังไง ให้คนต่างชาติเข้าใจในบริบท แค่เห็นอะไรน่ากลัว จับมาทำได้ก็ใส่เลย
โต้ง : “ถ้าถามผมเอง ตอนทำผมไม่คิดเรื่องนั้นเลย ไม่ต้องคิดเลย เราคิดแค่ว่า เราเห็นอะไร แล้วน่ากลัวในแบบของไทยเรานี่แหละ แต่โชคดีที่โปรดิวเซอร์เป็นคุณนาฮงจิน เวลาคอมเมนต์ทุกครั้งเขาจะพูดว่า เขาจะเป็นคอมเมนต์ของคนดู World Cinema เขาจะให้ความเห็นเราว่า อะไรเวิร์กก็ไม่เวิร์กในมุมเขา ก็ถกเถียงกัน”

หวังกระแสในไทย จะดีไม่แพ้ต่างประเทศ
จีน่า : “หวังเยอะเลยค่ะ เพราะร่างทรงมันเป็นเรื่องความเชื่อของคนไทยจริงๆ เรารู้สึกว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำ เชื่อว่าคนไทยจะตอบรับ ยิ่งเป็นของโต้ง ซึ่งตอนที่เราดูคัตติ้งแรกที่ออกมา ก็บอกเลยว่าโต้งเก่งมาก ทำได้ยังไงเนี่ย เชื่อหมดเลย ในความรู้เราคือสุดยอดมากค่ะ”

โดนเจิมหนักตั้งแต่ยังไม่ฉาย มือดีปล่อยหนังซูมดูฟรี ละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งเรื่อง แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 5 จาก 800 เคส
จีน่า : “ก็เป็นวิถีที่เกิดขึ้นค่ะ แต่อยู่ที่ว่าเราจะรับมือกันยังไง เพราะวันแรกก็ตกใจ แต่เดิมหนังเรื่องนี้เราต้องฉายตั้งแต่กรกฎาคม หลังเกาหลี 1 อาทิตย์ แต่สถานการณ์โควิดเข้ามา พอโรงหนังปิดมันฉายไม่ได้ จนวันที่เราเปิดโรงหนัง 1 ตุลาคม เราก็ยังลุ้นๆ แต่ก็รู้สึกว่าเออ เมื่อโรงหนังมีความตั้งใจ พวกเรามีความตั้งใจที่อยากจะฉาย เราก็ต้องดูความปลอดภัยให้มากที่สุด ก็เลยปักวันที่ 28 ตุลาคม ถึงวันนี้ก็สบายใจ เพราะคิดว่ามาตรการที่กำลังทำอยู่เนี่ย ดีขึ้นมากๆ ค่ะ แล้วการที่เราไม่ทานอะไรกันในโรงหนัง ก็ต้องอดทนอีกนิดหนึ่ง

แล้วพอเราได้ฉายหนัง สิ่งที่เกิดในการทำลิขสิทธิ์ตอนนั้น เราคิดว่ามันเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ต้องยอมรับก่อน ว่าเวลาเราฉายในประเทศอื่นก่อน มันมีระยะห่าง ก็อาจจะเกิดสิ่งนี้ได้ แล้ววันที่เกิดขึ้น ก็เฝ้าระวังกัน ตอนแรกก็ตกใจ รู้สึกว่าโอ้โห ทำไมมันเกิดสิ่งนี้ พอเราได้เข้าไปคุย 800 กว่าเคสเนี่ย เด็กเขาไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าสิ่งนี้ทำไม่ได้ สิ่งนี้เป็นการละเมิด เป็นการเอาของคนอื่นไปทำ คุยไปแล้ว 600-700 เคส ที่พอพูดปุ๊บเขาลบเลย เขาไม่แชร์แล้ว เขาพยายามบอกเพื่อนว่าอันนี้มันไม่ถูก

แต่ก็ยังมีอยู่ส่วนใหญ่ ที่คิดว่าตั้งใจ แล้วก็รู้สึกว่า ก็ฉันจะทำ เราเจรจาเยอะมาก แต่ก็ไม่สำเร็จ ก็เลยต้องใช้กฎหมายเข้าช่วย ซึ่งเราก็แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว ประมาณ 10 กว่าเคส มี 5 เคสที่ตอนนี้แจ้งความแล้ว หลังจากที่คุยกัน 6-7 ครั้งแล้วไม่เข้าใจ บางคนปิดอันนี้เปิดอันนั้น แล้วทีมงานทุกคนก็เต็มที่มาก ในการที่จะคุยกันด้วยความเอาใจใส่ ด้วยความระมัดระวัง เพราะก็คนไทยด้วยกัน การเกิดเหตุการณ์นี้ อย่างน้อยเราก็รู้สึกว่า ทำให้คนที่ยังไม่รู้เรื่องลิขสิทธิ์ทางปัญญา เริ่มเข้าใจ เริ่มใส่ใจกันมากขึ้น ก็อาจจะต้องพยายามกันต่อไปค่ะ”

5 เคสนี้เป็นคนเผยแพร่ คุยแล้วแต่ก็ไม่เป็นผล
จีน่า : “เป็นคนเผยแพร่ค่ะ ตั้งใจเผยแพร่ คนส่งต่อเนี่ย โดยส่วนใหญ่ไม่รู้ค่ะ แต่คนตั้งใจเนี่ย ก็คือตั้งใจค่ะ แล้วเราก็เชื่อว่า คนเหล่านี้ไม่ดูหนังในโรงภาพยนตร์ แต่หลายท่านที่ได้รับการส่งต่อ พอเราอธิบายเขาบอกเขาตกใจมากเลย เขาไม่รู้ เพราะตอนแรกเขาเข้าใจว่า หนังเรื่องนี้ยังไม่รู้ว่าจะฉายเมื่อไหร่ จะฉายในโรงหนังแน่นอนไหม จนเราก็เลยตัดสินใจประกาศ ว่าโอเค วันไหนที่โรงหนังเปิดเจอกันนะ”

ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะเรื่องลิขสิทธิ์ทางปัญญา มันสำคัญมาก ต้องจัดการให้เด็ดขาด
จีน่า : “ก็น่าจะไปถึงสิ้นสุดของกฎหมายค่ะ ถ้าเขาไม่เชื่อ หรือว่าไม่ยอมรับ เราก็คงต้องจัดการในเชิงของกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะเรื่องลิขสิทธิ์ทางปัญญา มันเป็นการให้เกียรติคนทำงาน อันนี้มันสำคัญมาก คนทำงานทุกคน ต้องทำงานด้วยความรู้สึกที่แบบ ควรได้รับความสนับสนุนให้ได้ทำงานที่ดี ในเมื่อเราทำหนังฉายโรงภาพยนตร์ ก็ควรจะมาดูในโรงภาพยนตร์”

จัดตั้งวอร์รูม ช่วยกันทั้งบริษัทกับเรื่องนี้
จีน่า : “ก็ตอนที่เรารับทราบ เราก็บอกว่าต้องมีวอร์รูม เพราะว่าโซเชียลมีเดียทุกช่องทางมันเยอะมาก เราก็ต้องขอบคุณพี่น้อง GDH และทีมของเรามาก 30-40 คน ทุกคนมาช่วยกันดู 24 ชั่วโมง เวรกลางวันเวรกลางคืน ช่วยกันเตือน ช่วยคุยกันดีๆ จริงๆ เราอยากคุยดีหมด คุยดีก็ไม่มีเรื่องอะไร คุยดีอยู่เกือบ 3 อาทิตย์ น้องๆ ก็ตาโหลกันหมด

ตอนนี้มันมีทั้งจำทั้งปรับ แล้วเราเองก็อยากจะให้น้องๆ เขา ถ้าถึงเวลาดำเนินคดี เขาสำนึกได้ เราก็คงจะให้อภัยได้ เราไกล่เกลี่ยตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ที่จำเป็นต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพราะว่าเราเชื่อว่าเขาเจตนาที่จะทำสิ่งนั้นต่อๆ ไป แม้กระทั่งเหตุเล็กๆ ถ้าเราส่งเสริม สังคมไทยจะไม่เข้าใจ”

เผยหลุดมาจากเกาหลีเป็นที่แรก แต่ไม่รู้ใครดูดมาปล่อยต่อ เพราะเป็นการแฮ็กทางอากาศ
จีน่า : “ก็หลุดมาจากเกาหลีค่ะ เพราะเกาหลีฉายก่อน พอถึงเวลาเกาหลีก็ต้องลงสตรีมมิ่ง ในแพลตฟอร์มที่เป็นวิดีโอ แต่คนที่ดูดมา ไม่รู้ว่าเป็นชาติไหน มันมาจากบนอากาศ ไม่รู้ว่าใครแฮ็กมา แต่คนเกาหลีจริงๆ เขาเป็นคนที่เคารพเรื่องลิขสิทธิ์ทางปัญญามาก เกาหลีจริงจังกับสิ่งนี้ พอเป็นแบบนี้ ทางเกาหลีก็ไม่ได้นิ่งนอนใจทุกคนก็พยายาม แต่เราไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นจากตรงไหน เท่าที่เราเช็กได้ ก็เยอะเหมือนกัน หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสุดท้ายนะคะ จริงๆ แล้วเราเชื่อว่า เดี๋ยวสถานการณ์โควิดจะค่อยๆ ดีขึ้น นั่นแปลว่าเราทุกคนก็จะรับมือกับการอยู่กับโควิดให้ได้”

มีปรึกษากันว่าจะตัดต่อใหม่ แต่สุดท้ายก็ไม่ทำ เพราะเวอร์ชั่นนี้มันดีที่สุดแล้ว
โต้ง : “จริงๆ มีการพูดคุยกันนะ แต่เรารู้สึกว่า เวอร์ชั่นที่เราทำมันดีที่สุดแล้วครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ต่างแน่นอน คือหนังเรื่องนี้มีการพูดภาษาอีสานเยอะมาก เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ จะมีบรรยายภาษากลางให้ด้วย ผมว่าคนกรุงเทพฯ หลายคนอาจจะฟังไม่รู้เรื่อง ก็มาดูในโรงกันดีกว่าครับ”

รายได้ที่ตั้งเป้าไว้ ได้รับผลกระทบหนัก ตั้งแต่ไม่ได้ฉายใกล้ๆ กับเกาหลีแล้ว
โต้ง : “มันส่งไปนานแล้ว (หัวเราะ)”

จีน่า : “มันส่งไปตั้งแต่วันที่เราไม่ได้ฉายใกล้ๆ กับเกาหลีแล้วค่ะ แต่จริงๆ แล้วเรื่องรายได้ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ณ เวลานี้ของเรา สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ คือยากให้คนได้ดูหนังในโรงภาพยนตร์ถูกกฎหมาย ดูกันอย่างมีความสุข กับหนังที่เราตั้งใจทำ คิดว่าตัวรายได้ตอนนี้ ถ้าจะเป็น ก็จะเป็นเกี่ยวกับเรื่องโควิดเป็นหลักมากกว่าเรื่องของการละเมิด เพราะว่าหนังมันฉายทั่วประเทศ คนต่างจังหวัด โดยเฉพาะคนอีสานรอดูมาก จองตั๋วพิเศษดีมากเลยนะคะ”

เชื่อแฟนหนังของโต้งและ GDH ต้องรอดูในโรงแน่นอน
จีน่า : “แฟนคนดูหนังของคุณโต้งและ GDH ก็เป็นคนที่ดูในโรงภาพยนตร์ เชื่อว่าเขารอที่จะดู ตอนที่เกิดเรื่องตอนแรก เราก็ตื่นเต้น แต่พอเราเช็กไปจริงๆ มันเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเราจัดการ ทุกอย่างมันก็หายไป ทุกคนรอดูการโปรโมต รอดูที่จะฉาย ก็พรุ่งนี้แล้ว (28 ต.ค.)

ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกในอนาคต จะจัดการยังไงยังไม่ได้คิด ขอสร้างเรื่องดีๆ ให้ผู้ชมดูก่อน
จีน่า : “ถ้าเกิดขึ้นเราค่อยจัดการดีไหมค่ะ เราทำหนังให้ดีๆ สร้างเรื่องดีๆ สร้างความสุขให้ผู้ชมในแบบอื่นดีกว่า อันนี้จริงๆ แล้วเครียดนะคะ สิ่งที่เราต้องพยายามคุยกับคน ในเรื่องที่จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก แต่ท้ายสุดก็ดีค่ะ ก็ได้เรียนรู้ ครั้งหน้าอีกสัก 2-3 ปี อาจจะเกิดใหม่”

โต้ง : “ไม่เกิดเลยก็ดีครับ (หัวเราะ)”

ทำใจเรื่องรายได้ไว้แล้ว
จีน่า : “คือคิดว่ารายได้ จะมาจากคนชอบหนัง เชื่อว่าคนจะชอบหนังเรื่องนี้มาก และจะบอกต่อ เพราะมาตรฐานของหนังเรื่องนี้ น่าภูมิใจมาก มันเป็นระดับโลกค่ะ แต่เป็นเรื่องความเชื่อของคนไทย คนไทยเราจะเข้าถึงได้ง่ายค่ะ”

โต้ง : “สิ่งสำคัญเลย หลังจากเกิดเรื่องราวดรามามากมาย ผมอยากขอบคุณคนที่ยังรออยู่ มีหลายคนมาก เดินมาหาผม หรือคอมเมนต์มา แม้กระทั่งในยูทิวบ์ มีแต่พูดในแง่ว่า รอสนับสนุนอย่างถูกต้อง ถูกลิขสิทธิ์ ซึ่งผมรู้สึกว่า มันทำให้ผมมีความหวังในหนังไทยอยู่นะครับ แล้วก็พร้อมจะตั้งใจทำงานดีๆ ต่อไปครับ”

จีน่า : “กำลังใจจากคนไทย ที่ยังดูหนังไทย มันทำให้ GDH เรา พยายามจะสร้างสรรค์หนัง ให้ดีขึ้นๆ ไป ก็อย่างที่บอก ขอบคุณทุกคนนะคะ แล้วก็ขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนด้วย ที่เป็นห่วงและพยายามช่วยกัน สิ่งที่ดีที่สุดคือต้องให้ทุกคนเข้าใจก่อนนะคะ ว่าการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่ควรทำ เพราะในอนาคตมันจะกระทบกับหนังไทยมากๆ”









กำลังโหลดความคิดเห็น