ไม่ใช่ประเภทมาช้าดีกว่าไม่มา ทว่า Fast & Furious 9 เมื่อมาแล้วต้องพูดแบบเต็มปากเต็มคำเลยทีเดียวว่ามาอย่างชนิดเร็ว แรง ทะลุนรกแล้วหลุดไกลไปถึงสุดขอบระบบสุริยะจักรวาลแห่งจินตนาการอย่างนั้นทีเดียว
โอย ! หนังอะไรกันนี่ อุแม่เจ้า ทำไมจึงระเบิดระเบ้อเบอร์ตองปานนี้ก็ไม่รู้
ภาคนี้ยังขนมาทีมใหญ่ไฟกะพริบทั้งนักแสดง อาวุธยุทโธปกรณ์ เทคนิคการตัดต่ออันเนียนสนิทจนหยิบปากกาวงไม่เจอ สอดแทรกด้วยอารมณ์ขัน แซะนิดตอดหน่อยของเหล่าดาราทั้งฝ่ายดีกับฝ่ายร้ายที่หยอดไว้เกือบทั้งเรื่อง
อีกอันที่เซอร์ไพรส์คือการปรากฏกายของนักแสดง หรือตัวละครอันเป็นภาพจำของคนดูทั่วโลกผู้เหมือนจะเสียชีวิตไปแล้วจากบางภาค
ฉากนี้ก็โกยความอิ่มใจไปจากแฟนคลับแบบเอาเข่งมารับแทบไม่หวาดไม่ไหวแน่นอน
แล้วที่ยิ่งไปกว่าทั้งหมดทั้งมวลตั้งแต่ภาคแรกมาจนถึงภาคนี้ Fast & Furious 9 ยังคงใส่ประเด็นความผูกพันของ ‘ครอบครัว’ หรือ ‘ทีม’ เพื่อให้แก่นแกนของหนังมีชีวิตชีวาอย่างตราตรึงใจ ซึ่งประเด็นนี้เองที่ผู้เขียนคิดว่าน่าจะเป็นพลังสำคัญที่ผูกหัวใจให้ผู้ชมทั้งโลกตกหลุมรักเร็ว แรง ทะลุนรก ในทุกภาคที่จะต่อเนื่องตามมา
สำหรับ Fast & Furious 9 ต้องบอกว่าปูเรื่องด้วยดรามาก่อนจะลากพาไปยังฉากมันส์ระทึกขวัญ ที่สำคัญคือขยักมุมซ่อนไว้ จากนั้นจึงเผยอีกมุม หักมุม แถมเปิดความจริงออกมาด้วยลูกล่อลูกชนเกินประมาณกว่าจะคาดคะเนได้
เช่นเดียวกับฉากแอคชั่นซึ่งต้องอธิบายว่าเป็นหนังที่หลุดทะลวงมิติอย่างมโหฬารตระการตา ไอ้ที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ก็เป็นไปแล้ว ไอ้ที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นในจอก็มีตั้งแต่ต้นจนจบ
บ้าไปแล้วจริงๆ
เท่านี้ยังไม่พอ Fast & Furious 9 ยังนำเสนอการปะทะกันระหว่าง ‘สมองกล’ VS ‘สมองคน’ บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ไว้ในหลากหลายฉาก พูดง่ายๆ คือเพื่ออธิบายต่อความสงสัยซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในความคิดของคนดู
เกือบลืม ทั้งผู้สร้าง ผู้กำกับและทีมงานยังนำเสนอโลเกชั่นงดงามจากหลายสถานที่มาฝากแฟนคลับด้วย
ใครไม่มีตังค์ไปดูในโรง แต่มีเพื่อนหรือคนที่พอจะหยิบยืมได้ ต้องหักใจขอรบกวนหยิบยืมไปก่อน ยกเว้นว่ามุ่งหน้าไปทางธรรม นั่นก็อีกเรื่อง
