ย้อยรอยดรามานางงามสายอวบ

การออกมา Call Out เรื่อง Real Size Beauty ของ แอนชิลี สก็อต เคมมิส มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์คนล่าสุด กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจที่ถูกพูดถึงอย่างมากจากการที่เธอมีหุ่นอวบเกินมาตรฐานสาวงามเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา แต่สุดท้ายเธอกลับเป็นผู้คว้ามงกุฎเพชรไปครอง ฉีกกฏเกณฑ์บรรทัดฐานเดิมๆของการประกวดสาวงามในไทยทิ้งอย่างสิ้นเชิง ส่งให้กระแสการรักรูปร่างในแบบที่ตนเองเป็น กลับมาฮือฮาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามการรณรงค์เรื่อง Real Size Beauty นับว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีสาวงามหลายคนจากหลายประเทศที่เจอบูลลี่เรื่องรูปร่างจากการที่มีหุ่นอวบจนต้องมาเรียกร้องให้เคารพในความสวยของรูปร่างที่แตกต่าง

ก่อนหน้านี้ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส ของเกาะกวม ก็เคยมีสาวงามถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงหุ่นที่เกินมาตรฐานมาแล้วเช่นกัน


แชลีน นิโคล ปรุยเน่ ซาลาส เคยเป็นผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส กวม ปี 2018 ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดคนหนึ่ง แต่เพราะความมั่นใจของเธอจึงส่งให้เธอได้เป็นผู้เข้าประกวด 13 คนสุดท้ายที่เข้าสู่การตัดสินบนเวที อย่างไรก็ตามด้วยไซส์ของเธอที่ดูอวบอัดแตกต่างจากผู้เข้าประกวดรายอื่นๆ ส่งให้เธอโดนแซวว่าน่าจะมาประกวดผิดเวที และควรไปประกวดเวทีสำหรับคนอ้วน หรือเวทีประกวดนมแม่มากกว่า

ซึ่งเธอก็ได้เผยความรู้สึกถึงการเข้าไปประกวดบนเวทีที่มีแต่สาวงามผอมสวย โดยกล่าวว่า “ในเมื่อเวทียอมรับสาวประเภทสองให้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สได้ ก็ควรมีคนอ้วนเข้าประกวดได้เหมือนกัน จริงไหม?”

อย่างไรก็ตามตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์ส กวม ปี 2018 ตกเป็นของ อาเธนา แมคนิช สาวงามลูกครึ่ง กวม – ไต้หวัน


นอกจากการประกวดในประเทศจะมีดรามาเรื่องหุ่นแล้ว พอถึงเวทีใหญ่ของมิสยูนิเวิร์ส ที่สาวงามตัวแทนจากประเทศต่างๆทั่วโลกต้องมาแข่งขันกัน ก็ยังคงมีดราม่าหุ่นอวบตามมาให้เป็นประเด็น

เซียร่า แบร์เชล มิสยูนิเวิร์ส แคนาดา ปี 2016 เคยโดนวิจารณ์หนักเมื่อเธอเปิดตัวบนเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส ในฐานะตัวแทนสาวงามจาก แคนาดา ด้วยรูปร่างที่อวบอัดขึ้น ในตอนนั้นเธอโดนตั้งคำถามมากมายว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเธอ? ทำไมถึงปล่อยตัวอ้วนขนาดนี้? เธอเสียจุดยืนไปนะ” ซึ่งตอนนั้นเธอได้ตอบว่า “ก่อนอื่นฉันไม่ได้มีหุ่นลีนเหมือนกับสมัยที่ฉันอายุ 16,20 หรือแม้แต่ปีที่แล้ว แต่ฉันมีความมั่นใจมากกว่าเดิม, มีความสามารถ, ฉลาด, ถ่อมตน และมีความหลงใหลมากกว่าเมื่อก่อน”

“พูดตามจริงคือ ฉันเคยคุมอาหารอย่างเข้มงวดในการประกวดครั้งก่อนๆ แต่ฉันรู้สึกเศร้า, หม่นหมอง แล้วก็รู้สึกว่าไม่เคยดีพอ ไม่ว่าฉันจะกินน้อยแค่ไหนและน้ำหนักลดลงเท่าไหร่ ฉันก็คอยเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นตลอด และรู้สึกว่าฉันยังลดได้อีก การรับรู้ทางใจมันสวนทางกับร่างกายที่ฉันเห็นในกระจก ฉันกินโปรตีนบาร์หลายวัน ออกกำลังกายวันละหลายชั่วโมง ก่อนตามมาด้วยการนอนไม่หลับเพราะหิวมาก”

เวลานั้นเธอจึงได้ตระหนักรู้ถึงการต่อสู้เพื่อรูปร่างที่แท้จริงของตนเองและเปลี่ยนเป็นการนำเสนอความเป็นเรียลไซส์ออกมา

“ร่างกายของฉันไม่ใช่พวกรูปร่างลีนไขมันน้อยโดยธรรมชาติ ซึ่งมันก็โอเค ฉันสุขภาพแข็งแรงดี ฉันฟิต ฉันมั่นใจ นี่คือฉัน นี่คือสิ่งที่ฉันเป็นและมันก็โอเค คุณก็ควรจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน”


ส่วนสาวงามอีกคนที่เคยเป็นที่ฮือฮาในไทยอย่าง แคทรีโอนา เกรย์ นางงามลูกครึ่งเชื้อสาย ออสเตรเลีย – ฟิลิปปินส์ สาวงามผู้เข้าประกวดตัวแทนจากฟิลิปปินส์ และคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2018ที่จัดขึ้นในประเทศไทยไปครอง ก็เคยโดน สาวงามจากเวทีอื่นอย่าง มิสแกรนด์ วิจารณ์รูปร่างหน้าตาจนแฟนนางงามเดือดไปตามๆกัน

ในเวลานั้น โกโก้ อารยะ ศุภฤกษ์ สาวลูกครึ่งไทย – ออสเตรีย เป็นมิสแกรนด์นครพนม และคว้ามงกุฎมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2019 และรองอันดับ 2 จากเวทีมิสแกรนด์อินเทอร์เนชันแนล 2019 ก็เคยโพสต์สตอรี่ในอินสตาแกรมเทียบรูป คลารา โซซา มิสแกรนด์ อินเทอร์เนชันแนล 2018กับรูปของ แคทรีโอนา เกรย์ มิสยูนิเวิร์ส 2018 พร้อมกับข้อความบรรยารูปว่า “ฟิต” กับ “อ้วน”

แม้ว่า โกโก้ จะรีบลบสตอรี่ดังกล่าวออกไปอย่างรวดเร็วหลังโดนชาวเน็ตรุมต่อว่าอย่างหนัก แต่สื่อโซเชียลต่างๆก็ได้แคปภาพพร้อมรายงานข่าวประเด็นร้อนนี้กันอย่างเร่งด่วน นอกจากนั้นแฟนนางงามชาวไทยก็เคยวิจารณ์ แคทรีโอนา ก่อนคว้ามงกุฎไปครองโดยนำภาพชุดว่ายน้ำที่เธอใส่ที่เกาะล้าน พัทยา มาวิจารณ์รูปร่างเธอกันอย่างสนุกสนาน

จากเหตุการณ์ดังกล่าว แคทรีโอนา เกรย์ ก็ได้ตอบกลับแบบสวยๆ “การล้อเลียนรูปร่างเป็นเรื่องที่เจ็บปวด และไม่ควรได้รับการยอมรับ ใครก็ตามที่ได้เข้ามาอ่านข้อความนี้และเคยถูกล้อเลียนรูปร่างมาก่อนเหมือนกัน ฉันรู้ว่ามันรู้สึกยังไงค่ะ ฉันเสียใจที่คุณต้องมาเจอประสบการณ์เลวร้ายแบบนั้น แต่จงรู้ไว้ว่าคุณมีอะไรมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก คุณมีความสามารถ, มีเอกลักษณ์ และเป็นคนที่มีคุณค่า และคุณไม่ได้โดดเดี่ยวลำพังค่ะ”

นอกจากนั้นเธอยังเคยตอบคำถามแฟนคลับในทวิตเตอร์ว่าเธอรับมือกับการถูกบูลลี่เรื่องรูปร่างอย่างไร ซึ่งเธอระบุว่า “แน่นอนว่าฉันขอยืนกรานที่จะต่อต้านการบูลลี่ทุกรูปแบบทั้งออนไลน์และออฟไลน์ มันไม่เคยโอเคอยู่แล้วที่จะกดคนอื่นให้ต่ำลงด้วยการบอกว่า นี่คือความเห็นของฉัน คำพูดมันทรงพลังและเราควรจะใช้คำพูดเหล่านั้นให้กำลังใจคนฉุดเขาขึ้นมาไม่ใช่ดึงเขาให้ต่ำลง”


นอกจากสาวงามจากเวทีมิสแกรนด์จะเคยมีประเด็นเรื่องล้อเลียนรูปร่างคนอื่นแล้ว ทางเจ้าของเวทีประกวดอย่าง ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ก็เคยเป็นข่าวระดับโลกเมื่อ อาร์นา อีร์ โยนสโดตตีร์ สาวงามมิสแกรนด์ 2016 จาก ไอซ์แลนด์ เคยต้องขอออกจากการประกวดบนเวทีใหญ่กลางครัน หลังโดน ณวัฒน์ สั่งให้ลดความอ้วนหากจะเดินรอบสุดท้ายบนเวที

ในเวลานั้น อาร์นา อยู่ที่ลาสเวกัส เพื่อเตรียมตัวเข้าแข่งขันนานหลายสัปดาห์ และเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก็จะเป็นคืนตัดสินรอบไฟนอล แต่เธอก็ได้รับสารจาก ณวัฒน์ ที่เป็นเจ้าของการจัดประกวด ที่มองว่าเธออ้วนเกินไป และให้เธองดอาหารเช้าจนกว่าจะถึงวันประกวด และให้เธอกินเฉพาะสลัดในมื้อกลางวัน และดื่มน้ำเยอะๆในมื้อค่ำ เพื่อจะได้ลดน้ำหนักสำหรับรอบไฟนอล

จากคำพูดเหล่านี้ ทำให้ อาร์นา ที่เคยภาคภูมิใจกับการฝึกกรีฑาอย่างหนัก และเป็นนักกีฬากระโดดค้ำถ่อ จนเป็นที่มาของร่างกายที่แข็งแรง ไหล่กว้าง จนเธอรู้สึกว่ามันสมบูรณ์แบบในแบบที่ควรจะเป็นแล้ว กลับรู้สึกต่อต้าน และเธอไม่อยากเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร ถ้า ณวัฒน์ ไม่ชอบผู้หญิงหุ่นแบบเธอ เขาเองก็ไม่คู่ควรจะมีเธอบนเวทีประกวดเช่นกัน เธอได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ใน Snapchat ก่อนที่ทีมงานกองประกวดมิสแกรนด์ จะติดต่อเธอและบอกว่าเป็นเพียงการเข้าใจผิด

วันต่อมาเธอตัดสินใจว่าเธอจะไม่ยอมถูกบูลลี่ จะไม่ร่วมมือทำบางสิ่งที่เธอไม่เห็นด้วย และประกาศต่อสาธารณะว่าเธอจะออกจากการแข่งขัน และการประกวดครั้งนี้จะเป็นการแขวนส้นสูง เป็นการประกวดครั้งสุดท้ายของเธอแล้ว ( อาร์นา เคยชนะคว้าตำแหน่ง มิสไอซ์แลนด์ 2015 และเป็นตัวแทนประเทศเข้าร่วมประกวดนางงาม Miss World ครั้งที่ 65 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน )

ซึ่งเธอได้เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมที่เธอพัก และจองตั๋วเครื่องบินเพื่อกลับไอซ์แลนด์ในวันต่อไปทันที พร้อมฝากข้อความถึง ณวัฒน์ ว่า

“ถ้าคุณอยากจัดประกวดนางงามในระดับนานาชาติ อย่างน้อยก็ควรจะมองเห็นความงามในระดับนานาชาติด้วยเหมือนกัน”

อาร์นา ยังได้ส่งข้อความถึงเด็กสาวชาวไอซ์แลนด์ ที่อาจชื่นชอบและหลงใหลไปกับเสน่ห์ ความเย้ายวนใจของการประกวดนางงาม เพราะพวกเขาไม่สนใจว่าแม้คุณจะสวมมงกุฎในฐานะผู้หญิงที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์แล้ว แต่คุณก็ยังคงสามารถถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับรูปลักษณ์ของคุณได้อยู่ดี และแทนที่จะฟังเสียงวิจารณ์และได้รับผลกระทบจากคำพูดเหล่านั้น เธอแนะนำว่าอย่าไปสนใจ โดยบอกว่า เราเลือกได้ว่าจะตอบโต้และชี้ให้พวกเขาเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ แม้ว่าคุณจะอยู่ในการแข่งขันที่เน้นการตัดสินเรื่องรูปร่างหน้าตาแต่ คุณก็สามารถบอกไปเลยว่าคุณไม่ยอมรับการให้คุณต้องเปลี่ยนรูปร่างบางส่วน ถ้าได้ยินความเห็นเหล่านั้นก็ให้เมินเฉย

และไม่แปลกใจเลยเมื่อเธอกลับบ้าน หุ่นนักกีฬาของเธอ ส่งให้เธอได้เป็นนางแบบของ Nike และได้รับการติดต่อมากมายจากสื่อต่างๆ

อย่างไรก็ตามแม้เธอจะเคยประกาศว่าแขวนส้นสูงแล้ว แต่ อาร์นา อีร์ โยนสโดตตีร์ ก็เข้าประกวดและคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส ไอซ์แลนด์ 2017 และเป็นตัวแทนประเทศเข้าร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์สเวทีใหญ่ด้วย