“รัศมีแข” ปลงชีวิต สูญเสียพ่อ ย่า และคุณน้าติดๆ กัน ไม่มีโอกาสร่ำลา มองเป็นวัฏจักร มีเงินมีแรงก็สู้ความตายไม่ได้ ประกาศลดแบรนด์เนม ฟุ่มเฟือย เอาเงินไปซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว เตรียมซื้อทองรับขวัญ “น้องทะเล” หลังถูก “แม่ก้อย” วางยาจนหลงหลาน หวนร่วมงาน “น้ำหวาน เดอะเฟซ” อีกครั้ง
เป็นปีแห่งความสูญเสียเลยทีเดียว สำหรับ “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น”หลังสูญเสียคุณพ่อ ที่อุตส่าห์หากันจนเจอ แต่ไม่ทันได้เจอหน้าก็ต้องจากไป รวมไปถึงคุณน้า คุณย่า ทำเอาเจ้าตัวยอมรับว่ามึนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ก็ทำใจยอมรับได้ เพราะถึงมีเงิน มีแรง แต่ก็สู้ความตายไม่ได้ เป็นวัฏจักรชีวิต
“ก็ตกใจนิดหนึ่ง เป็นจังหวะช่วงที่มัน คือคนเราโตขึ้นความตายมันใกล้เข้ามา มันเป็นวัฏจักรของมนุษย์อยู่แล้ว ก็จะเริ่มเข้ามา ก็จะมีน้า คุณพ่อ ย่า ตอนนี้ก็จะมึนๆ มากกว่า แต่ว่าเราไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเกิดติดต่อกันขนาดนี้ แต่ก็ไม่มีเวลาจะมานั่งฟูมฟายมากกว่าก็ต้องรีบตั้งสติเพราะว่าอย่างแรกเราอยู่ไทยคนเดียว ครอบครัวเราอยู่สวีเดนหมดเลย เราเลยต้องตั้งสติให้ได้ก่อน ไหนจะงาน บ้าน ความรับผิดชอบที่ต้องดูแล บวกกับการเดินทางที่เราไม่สามารถเดินทางไปได้ เพราะกลับมาเราต้องกักตัว มันมีผลกระทบกับงาน
ถามว่าเสียใจไหมที่ไปลาไม่ได้ ทุกวันนี้ก็รับงานปกติ สิ่งที่แขได้คือทำงานเยอะ สิ่งที่แขเสียไปแขได้เงินกลับมา แต่มันก็ไม่มีมูลค่ามากพอที่จะไปดูใจน้าย่าหรือคุณพ่อได้ เพราะฉะนั้นมันเลยยังต้องเมเนจว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญมากกว่าตอนนี้ ไม่รู้ว่าเงินหรืองานที่สำคัญกว่า มีเงินแต่ไม่สามารถซื้อครอบครัวได้ ก็คือมันยังอยู่ในโหมดงงๆ อยู่
ตอนนี้ยังเคว้งๆ อยู่นิดนึงแต่เดี๋ยวต้องเคลียร์แล้ว เพราะจะบินกลับไปหาครอบครัวช่วงสิ้นปี เพราะเราไม่ได้กลับมา 2 ปีแล้วด้วยสถานการณ์โควิด จริงๆ จะกลับตั้งหลายครั้งแล้วแต่กลัวประเด็นการที่ไปต่างประเทศแล้วเขาค่อนข้างเปิดโดยเฉพาะสวีเดน ไม่ได้ใส่มาสก์ กลัวว่าไปตรงโน้นแล้วกลับมา พอเรามาเริ่มทำงาน หรือใครที่มาเห็นเราจะกังวลว่าไปตรงโน้นมาจะเป็นโควิดหรือเปล่า มันก็เลยคิดหนักที่จะกลับไป น้าอยู่ที่เชียงราย ส่วนคุณพ่อที่เซเนกัล คุณย่าอยู่สวีเดน
กับคุณพ่อก็เพิ่งเจอ ตอนแรกก็ไม่ได้หาหรอกเราก็เชื่อในพรหมลิขิตว่าวันนึงคงได้เจอกัน แล้วพอเราได้เจอกันจริงๆ เราได้คุยกันทั้งหมด 2 ครั้งก็เกือบ 20 นาทีที่ได้ทำความรู้จักกัน ก็เตรียมพร้อมว่าเดี๋ยวโควิดหายเราจะไปเซเนกัลไปเจอเขา แล้วพี่สาวก็ส่งข้อความมาบอกว่าเขาเสียแล้วนะ ไม่มีโอกาสได้ทำอะไรเลย ก็รู้ว่าเสียแล้ว
ถามว่าเสียดายไหมที่กว่าจะหายกันเจอก็ไม่ได้ง่าย ก็ต้องมาเสียไป ไม่เสียดาย มึนๆ งงๆ มากกว่าเพราะแขเป็นคนเชื่อในพรหมลิขิตอยู่แล้ว แขรอวันนึงจะได้เจอเขาก็รอให้พรหมลิขิตเป็นคนจัดการ สุดท้ายเราได้เจอได้คุยกัน และพรหมลิขิตก็จัดการให้เขาด้วยโรคภัยไข้เจ็บ แล้วส่วนตัวแขเองก็ได้เรียนรู้ว่าไม่ว่าจะต่อยมวยเก่งแค่ไหน จะเป็นลุงที่เก่งแค่ไหนเลี้ยงหลานมาดีแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วแขก็เป็นมนุษย์คนนึงไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ ไม่ได้มีพลังอำนาจจะไปต่อรองกับความตายหรือไปยื้ออะไรให้พ่อมีชีวิตอยู่ แขสู้ความตายไม่ได้จริงๆ มันต้องเป็นไปตามวัฏจักรของมัน แล้วแขก็มองว่าความตายคือสิ่งที่สมบูรณ์แบบของมนุษย์”
กลับมาโฟกัสที่ป้า ซึ่งมีเงินเยอะแต่ไม่มีประโยชน อยากอยู่กับครอบครัว
“ใช่ หลังจากคุณย่าเสียปุ๊บ สิ่งที่ได้เรียนรู้คือมรดกที่คุณย่าทิ้งไว้ให้เราไม่ใช่เงินทองหรืออะไรต่างๆ แต่เป็นครอบครัวของเราเป็นลูกสาวของคุณย่า คือคุณป้าที่เติบโตมากับเขาแล้วเรารักเขามาก ต่อไปนี้ป้าก็คือสิ่งที่สำคัญมากสำหรับแข แขโดนทั้งโควิดกลับบ้านไม่ได้ แขไม่ได้เจอครอบครัว ไม่ได้เจอสามีเลย คุณย่าแขเสียก็กลับไปไม่ได้ จนวันนี้แขมารู้ว่าทำเยอะเก็บเงินๆ แต่สุดท้ายแล้วมันไม่มีประโยชน์เลย สิ่งที่สุดสำหรับแขตอนนี้คืออยากทำงานได้เยอะเหมือนที่เคยเป็นเอาเงินตรงนั้นซื้อตั๋วบินกลับบ้านหรือไม่ก็ให้คนที่โน่นบินมาหาเรา เราอยากอยู่กับเขามากกว่า”
จะทำงานจนกว่าจะหมดอายุ แล้วค่อยกลับไปอยู่สวีเดน ลั่นลดแบรนด์เนม ช้อปปิ้ง ฟุ่มเฟือย เป็นค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางไปหาครอบครัว
“ตราบใดที่ยังมีคนจ้างงานแขในวงการและศักยภาพแขที่ยังทำงานได้ต่อ แขก็อยากทำงานต่อ เพราะก็รักวงการบันเทิง รักเพื่อนๆ แต่ถ้ามันหมดอายุจริงๆ ก็คงกลับไปใช้ชีวิตที่สวีเดน ความคิดแขคือไม่รู้จะเก็บเงินในธนาคารไปทำไม แขเลือกใช้ชีวิตพอมีปุ๊บแขซื้อตั๋วเครื่องบินไม่ให้แขเอง ก็ให้หลานๆ ครอบครัวบินมาตรงนี้ จากการที่ลดแบรนด์เนม ลดการช้อปปิ้งฟุ่มเฟือยทุกอย่าง ก็เอามาเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน
ทุกวันนี้แขทำงานก็ผ่อนบ้านไป คุณสามีสุดที่รักก็จะดีใจมากถ้ามีบ้านที่กรุงเทพฯ ที่เป็นบ้านของเราหลังนึง เพราะมีที่สวีเดนแล้ว ที่นี่ก็เป็นเหมือนซัมเมอร์เฮ้าส์ ทุกวันนี้ก็เลยพยายามเก็บรักษาบ้านตรงนี้ไว้”
ได้แต่โทรศัพท์ปรับทุกข์กับสามี ไม่มีโอกาสได้เจอ
“เราก็โทรศัพท์คุยกันทุกเรื่อง ให้กำลังใจมันก็ไม่เหมือนการไปเจอไปกอดกัน เวลาคุยกันเราก็เลยไม่ยื้อไม่คุยอะไรมากมาย ก็เซย์กู้ดไนท์ปกติ เพราะไม่ได้เจอตั้งแต่โดนแก้วแล้ว ตอนนั้นคือเซมากก็ไม่ได้เจอจนตอนนี้ คือเราผ่านมาหลายเรื่องมาก แต่เราไม่เคยได้เจอสามีหรือได้ไปกอดคนในครอบครัวเลย อย่างคุณย่าที่เราอยากเจอมากก็ไม่อยู่ให้กอดแล้ว
ถามว่าเจอการสูญเสียบ่อยๆ มันมีดาวน์ขนาดที่ต้องพบแพทย์ไหม ไม่นะ ถ้าจะพบจิตแพทย์ก็น่าเรื่องผู้ชาย (หัวเราะ) คือแขเป็นคนที่เข้าใจวัฏจักร ทุกคนทันมีวาระของมัน ทำหน้าที่ของตัวเอง จัดการตัวเองให้ได้ดีกว่า”
ไร้ปัญหาร่วมงานกับ “น้ำหวาน เดอะเฟซ” รักษ์ณภัค วงศ์ธนทัศน์ เพราะอีกฝ่ายไม่ใช่คนที่ทำร้ายตน
“ไม่มีปัญหาเลย เรื่องการทำงานแขทำงานกับน้ำหวาน ส่วนเรื่องอันนั้นน้ำหวานไม่ได้เป็นคนทำร้ายแข เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับน้องเลย ส่วนเรื่องที่เขาจะเป็นแฟนกันหรืออะไรก็แล้วแต่อันนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับแขอยู่แล้ว ซึ่งหน้าหายแล้วเกือบเป็นปกติ คดีอยู่ในช่วงไม่ให้ไปศาลด้วยความที่มีโควิดเลยต้องเบรกก่อน”
เตรียมซื้อทองรับขวัญ “น้องทะเล” ลูก “ตูน – ก้อย”
“เดี๋ยวต้องเตรียมตัว จริงๆ ไม่มีอะไรเลยก็คือ โอ้ย พี่ก้อย (รัชวิน วงศ์วิริยะ) คลอดลูก เราจะพิมพ์ไปอยู่แล้วเพราะค่อนข้างเซนซิทีฟ จะเป็นคุณแม่แล้วนะ จะมีความสุขมากเลยนะพี่ก้อย อันนี้เรียกว่าพี่ก้อยวางยาดีกว่า ส่งรูปน้องทะเลมา แล้วเราลงก่อนคุณแม่อีกนะ อย่างที่บอกคนไทยเวลาใครคลอดลูกก็ซื้อทองให้ถามว่ากี่บาท อย่างแข 2-3 สลึงก็พอค่ะ อย่าว่าแต่บาทเลย (หัวเราะ) ก็ไม่น่าเกลียด สมน้ำสมเนื้อ”