“มิกค์” รับบอกเลิก “โบว์ เมลดา” 5 ครั้งจริง ลั่นพยายามแล้ว แต่ไม่ดีขึ้น แถมมีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ จนตนรู้สึกเหนื่อย เหตุผลลึกๆ บอกไม่ได้ ยันพยายามปรับทุกครั้ง แต่ยิ่งปรับยิ่งหนัก เข้าใจอีกฝ่ายพูดถึงบ่อยๆ เสียใจทุกฝ่าย ต้องให้เวลาซึ่งกันและกัน ขอโทษคนเชียร์ ไม่ได้เป็นไปตามที่คิด ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมบ้านลดลงแล้ว ยังไม่สามารถตีมูลค่าความเสียหาย
หลังจากที่อดีตแฟนสาวอย่าง “โบว์ เมลดา สุศรี” ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเป็นฝ่ายที่ถูก “มิกค์ ทองระย้า”บอกเลิกถึง 5 ครั้ง พร้อมให้เหตุผลว่าเขาเหนื่อย ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เจอตัวหนุ่มมิกค์ ในงาน “shopee 11.11 Big Sale” ลดใหญ่ใส่ไม่ยั้ง ณ มูนสตาร์ สตูดิโอ (สตูดิโอ 3) ลาดพร้าว ซอย 80 เจ้าตัวก็เปิดใจถึงเรื่องนี้ รับเป็นฝ่ายบอกเลิกจริงถึง 5 ครั้ง แต่ที่ผ่านมาปรับจูนแล้วทุกครั้ง แต่ยิ่งปรับก็ยิ่งแย่
“ตอนนี้โอเคครับ เราโฟกัสเรื่องการทำงาน จิตใจตอนนี้โอเคครับ ถามว่าสาหัสไหม ผมว่าทุกคนล่ะครับ ถ้าเราเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ทุกคนก็เป็นเหมือนกัน ก็ต้องให้เวลา ก่อนหน้านี้ออกมาชี้แจงไปแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายกระแสครับ แต่ผมมองว่าผมออกมาเคลียร์ครั้งนั้นก็ค่อนข้างชัดเจน พอสมควร”
รับเป็นฝ่ายบอกเลิกโบว์ 5 ครั้งจริง ทุกครั้งพยายามแล้ว แต่ไม่ดีขึ้น แถมมีแนวโน้มแย่ลง
“อย่างที่น้องบอกครับ ว่ามีหลายๆ กระแสว่าผมเป็นคนบอกเลิก ผมว่าทุกๆ คนล่ะครับ เวลาเราคุยกับใคร เรามีความรัก ไม่มีใครอยากเลิกหรอกครับ แต่ว่าด้วยเรื่องของปัญหาที่มันเกิดขึ้น อย่างที่บอกว่าผมพูด 5 ครั้ง ครั้งแรกผมก็พยายาม ครั้งที่ 2 ผมก็พยายาม ครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 ครั้งที่ 5 แต่เมื่อเราพยายามแล้วมันไม่ดีขึ้น หรือมีแนวโน้มไปในทางที่มันแย่ลงด้วย สำหรับหลายๆ คนผมไม่ทราบนะครับ แต่สำหรับผม ผมค่อนข้างเหนื่อย ก็ยอมรับว่าเราพูดจริง มันไม่ได้พูด 5 ครั้งหรอกครับ มันคือเหตุผลในการคุยกันมากกว่าที่ผ่านมา
ส่วนเหตุผลลึกๆ มากๆ ผมอาจจะบอกไม่ได้ แต่อย่างที่บอกว่าทุกๆ ครั้งที่เราคุยกัน เวลาคนเราทะเลาะกันมีปัญหาคุยกันไม่เข้าใจเราก็พยายามปรับจูน แล้วทุกครั้งที่จูน ในเมื่อมันผ่านมาหลายครั้งแล้วเรารู้สึกว่ามันจะยิ่งหนักไปเรื่อยๆ มันก็อยู่ที่การตัดสินใจของกันและกันของสองคน ว่าโอเคเราหยุดแค่นี้แล้วความเป็นเพื่อนพี่น้องกันมันยังดีอยู่ มันยังรักกันอยู่ ผมมองในมุมนี้มันจะดีกว่า ถามว่าไม่มีสัญญาณดีๆ เกิดขึ้นเลยเหรอ อย่างที่บอกครับ พอเราพยายามให้มันดีขึ้น มันก็ไปในทิศทางที่มันแย่ลง”
ไม่มีบุคคลที่สามทำให้รักพัง
“เรื่องนี้ผมขอยืนยันอีกครั้งและชัดเจนมากๆ ในหลายๆ ครั้งว่าไม่มีบุคคลที่สามและไม่มีมือที่สามอะไรแน่นอน เป็นเรื่องของผมกับน้องสองคนที่เราคุยกัน”
แคปชั่นว่าStop แท็กหาผู้จัดการ แค่คอนเทนต์ช่อง ไม่ได้สื่ออะไร
“ไม่ครับ เป็นคอนเทนต์ของทางช่องครับ และหลายๆ รูปที่ผมลง ผมก็จะติดแท็กแฟนคลับกับพี่ผู้จัดการครับ ไม่เกี่ยวกับการที่เขาออกมาพูดครับ”
คุยโบว์น้อยลง เข้าใจยังพาดพิง ต้องใช้เวลา
“คุยกันน้อยครับ ต่างคนต่างทำงานด้วย เรื่องเคลียร์คงไม่มีอะไรครับ ผมว่าผมค่อนข้างคุยกันเข้าใจและชัดเจนพอสมควร ส่วนที่เขายังให้ข่าวถึงผม ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เราก็เข้าใจว่ามันต้องให้เวลาซึ่งกันและกันครับในเรื่องแบบนี้เราก็เสียใจทุกฝ่ายครับ ไม่ใช่ว่าน้องเสียใจแล้วผมไม่เสียใจ หรือผมเสียใจแล้วน้องไม่เสียใจ มันไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นหรอกครับ เราก็ต้องให้เวลาซึ่งกันและกันแล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง ส่วนที่คนให้กำลังใจน้องก็ดีครับ ให้กำลังใจกันครับ ผมโอเค”
เบรกรักไว้ก่อน ไม่เข็ด แต่อยากพักก่อน ขอโทษกองเชียร์รักไม่สมหวัง
“ตอนนี้ผมก็โฟกัสเรื่องงานเต็มที่ ความรักผมก็พักเบรกไว้ก่อน ไม่ถึงกับเข็ดหรอกครับ เราก็อยากจะพักๆ ทำงานให้เต็มที่ก่อน เรื่องรักไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ผมคนเดียวหรอก มันก็มีหลายคู่แหละ มันถึงเรียกว่าการศึกษากันครับ มันก็ต้องมีชีวิตในการเจอกับใครแล้วเราคิดว่าโอเคมันก็ต้องศึกษากัน มีปัญหาหรือไปกันไม่ได้ก็ต้องเคลียร์กันให้โอเค
ส่วนที่คนเสียดายคู่เรา ก็ขอบคุณนะครับที่เชียร์ และก็ขอโทษด้วยที่อาจจะไม่เป็นไปตามที่คิดแต่ผมเชื่อว่าเราได้เคลียร์กันโอเคแล้ว สำหรับผมทุกอย่างจบแล้ว”
สถานการณ์น้ำท่วมบ้านที่จ.สระบุรี กลับมาปกติแล้ว ยังไม่ตีมูลค่าความเสียหาย
“ตอนนี้น้ำลงหมดแล้วครับ สถานการณ์กลับมาปกติ ที่บ้านก็มีต้องเคลียร์ของ อุปกรณ์ต่างๆ ที่อาจจะโดนน้ำท่วมหรือหลายๆ อย่างที่ชิ้นใหญ่ จนเราไม่สามารถยกขึ้นได้ก็ต้องเคลียร์ออกจากบ้านและคลีนบ้านใหม่ ความเสียหายพอสมควรครับ ยังไม่ได้ตีเป็นมูลค่าครับ แต่ต้องทาสีใหม่หมดเลย คอมเพรสเซอร์แอร์ ปั้มน้ำก็พังหมดเพราะตอนที่น้ำสูงที่สุดชั้นล่างก็อยู่ประมาณคอผม ส่วนสิ่งที่เราเห็นว่าสำคัญ ผมเก็บขึ้นหมดแล้ว ถามว่าปีแรกไหมที่หนัก ปกติน้ำท่วมอยู่ตลอดอยู่แล้ว แต่มาหยุดปี 54 แล้วก็มาหยุดยาว ครั้งนี้ก็มาท่วมอีกที ครั้งนี้เท่ากับปี 54 ผมว่าจะทำหน้าบ้าน ต่อขึ้นมา 2 ชั้น ชั้น 2ไว้เก็บของ ผมพยายามพูดหลายครั้งแล้ว แม่ผมก็ไม่ขึ้นมากรุงเทพฯ แน่นอน”
เผยฉากถูกตบหน้าหันกลางกองบ่วงวิมาลา ตบทีเดียวชาทั้งวัน
“ไม่เจ็บครับแต่ชา แต่ก็มีการคุยกันก่อนแล้ว กับพี่หนิง (ปณิตา ธรรมวัฒนะ) พี่ผู้กำกับ และน้องปูเป้ เกศรินทร์ เพื่อฟีลที่เราจะได้ ก็เลยโอเคครับตบโดนได้เลย แต่เอาจริงๆ ก็ไม่คิดว่าจะแรงขนาดนั้น โอเครับ ก็เล่นไปตามบท ตบครั้งเดียวชาทั้งวันเลย เราก็กะว่าเต็มที่เป็นซีนที่เราไปด่าเขาแรงมากๆ ในขณะที่เขาท้องอยู่ด้วยเลยโดนเต็มๆ ฝากดูละครด้วยนะครับ”