xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อความบันเทิงจากญี่ปุ่นถูกทำให้เป็นสากล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ฟ้าธานี



เซนต์เซย่าคือการ์ตูนเรื่องล่าสุดที่กำลังจะถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์คนแสดงโดยฮอลลีวูด โดยนักแสดงเชื้อสายญี่ปุ่นผสมนักแสดงชาวอเมริกัน และเป็นผลงานการสร้างของฮอลลีวูดแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งก็น่าหวั่นใจแทน แฟนๆ ของผลงานต้นฉบับเหมือนกัน เพราะหนังที่ออกมาจะเป็นยังไงกันบ้าง

เซนต์เซย่าคือหนึ่งในการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดมาตั้งแต่ยุค 80 ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก็มีความพยายามที่จะดัดแปลงการ์ตูนเรื่องนี้ให้มีความสากลมากกว่าเดิม

แม้เรื่องเดิมจะมีแฟนๆ ให้ความนิยมทั่วโลกอยู่แล้ว แต่ทางญี่ปุ่นเองก็ยังพยายามที่จะสร้าง เซนต์เซย่า ในเวอร์ชั่นใหม่ๆ ออกมา ซึ่งส่วนใหญ่จะออกไปทางล้มเหลวมากกว่าประสบความสำเร็จ ทั้งเวอร์ชั่นหนัง เมื่อไม่กี่ปีก่อน หรือ เซนต์เซย่า ฉบับเน็ตฟลิกซ์ ที่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดหลายอย่าง มีถึงขั้นเปลี่ยนเพศตัวละครจนทำให้มีแฟนๆ แอนตี้ การ์ตูนเรื่องนี้กันมาก

จริงๆ แล้วการพยายามทำให้ผลงานของญี่ปุ่นมีความเป็นสากลมากขึ้นนั้นเป็นเรื่องปกติที่ทำกันมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยหนัง "ก็อดซิลล่า" ภาคแรกที่เวอร์ชันสำหรับฉายในอเมริกามีการถ่ายทำฉากนักข่าวชาวอเมริกัน มารายงานข่าวเรื่องการบุกเมืองของก๊อตซิลล่าเข้าไปด้วย เพื่อให้ชาวอเมริกันในตอนนั้นดูหนังเรื่องนี้แล้วไม่รู้สึกว่านี่คือหนังญี่ปุ่นมากเกินไป

ส่วนการ์ตูนเอนิเมชั่นในยุคแรกๆ ที่ไปฉายอเมริกา นอกจากจะพากย์เสียง เป็นภาษาอังกฤษแล้วก็ยังมีการเปลี่ยนชื่อตัวละครกลายเป็นฝรั่ง เพื่อให้เด็กๆ ชาวอเมริกันคุ้นเคยกับตัวละครเหล่านี้มากขึ้นด้วย อย่างการ์ตูนระดับอมตะของญี่ปุ่นอย่าง Space Battleship Yamato ก็ถูกตั้งชื่อซะใหม่เป็น Star Blazers

ที่เป็นเคสระดับตำนานอีกเรื่อง ก็คือการ์ตูนหุ่นยนต์ Macross ที่ถูกไปฉายอเมริกาภายใต้ชื่อ Robotech แต่ไม่รู้ญี่ปุ่นไปเจรจาหละหลวมอีท่าไหนก็เลยเสียลิขสิทธิ์ของการ์ตูนชุดนี้ในการฉายที่อเมริกาให้กับบริษัทของที่นั่นไปเลย

ทำให้ Macross มีปัญหาในการเผยแพร่ในต่างประเทศมาตลอด ขณะที่บริษัทในอเมริกาก็ทำแฟรนไชน์ Robotech เป็นเรื่องเป็นราว เมื่อขายไม่ได้แล้วก็เลยอาศัยซื้อการ์ตูนเรื่องอื่นของญี่ปุ่นมาตั้งชื่อเป็นภาคต่อของ Macross แถมเขียนเรื่องใหม่ลงไปแทน

จนหลังๆ จึงได้มีการพยายามสร้าง Robotech ของตัวเองออกมาบ้างแต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่ากับสมัยเอาของญี่ปุ่นมาขายและเปลี่ยนชื่อเอา

ผลงานจากญี่ปุ่นที่พยายามอย่างจริงจังที่สุดในการดัดแปลงให้มีความสากลมากกว่าเดิมก็คงจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่สัญลักษณ์ แห่งชนชาติอาทิตย์อุทัยอย่าง อุลตร้าแมน ที่เคยลงทุน ไปร่วมมือสร้างกับต่างประเทศหลายรอบ 

เวอร์ชันที่ดังพอสมควรก็คืออุลตร้าแมนฉบับออสเตรเลีย ที่ทำออกมาได้น่าสนใจดี นอกจากสัตว์ประหลาดจะดูมีความเป็นสัตว์ประหลาดต่างดาวที่สมจริงมากกว่าญี่ปุ่นแล้ว ชุดอุลตร้าแมนก็ดูมีความแตกต่างออกไป ดูเหมือนจะสร้างมาจากผ้ายืด ไม่ได้เป็นผ้ายางที่ดูหย่อนๆ เหมือนของญี่ปุ่นแต่อย่างใด

นอกจากอุลตร้าแมนออสเตรเลียแล้วก็ยังมีอุลตร้าแมนอเมริกาเหมือนกัน ในชื่อ Ultraman: The Ultimate Hero ที่ถูกวิจารณ์หนักถึงฉากต่อสู้ที่ทำออกมาได้ไม่สนุกเหมือนอุลตร้าแมนส่วนใหญ่ โดยว่ากันว่าเพราะชุดอุลตร้าแมนในหนังเรื่องนี้ตัดเย็บได้ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่เวลา จะถ่ายทำฉากต่อสู้ก็เลยต้องเน้น เบาๆ ไว้ก่อน ผลออกมาก็เลยกลายเป็นอุลตร้าแมนที่น่าเบื่อที่สุดเรื่องหนึ่งไปเลย 

แถมที่เจ็บปวดสำหรับผู้สร้างก็คือ อุลตร้าแมนภาคนี้กลับไม่ได้ฉายในอเมริกาอย่างที่หวัง ก็เลยกลายเป็นความล้มเหลวอย่างรุนแรงของบริษัทผู้สร้าง และเข็ดกับการร่วมทุนกับต่างประเทศไปหลายปี

มีอุลตร้าแมนอีกเวอร์ชันที่ร่วมทุนกับอเมริกาอย่างบริษัทผลิตการ์ตูนชื่อดัง Hanna-Barbera Productions ในชื่อ Ultraman: The Adventure Begins ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จเท่าไหร่อีกเหมือนกัน

ส่วนหนังเวอร์ชันไลฟ์แอ๊กชัน ของอนิเมะหรือมังงะไม่ต้องพูดถึง ล้มเหลวอย่างรุนแรงมาตลอด ยังมีเวอร์ชั่นหนังที่คออนิเมชันติดเรทเรื่อง Kite ที่อุตส่าห์ไปจ้าง "ซามูเอล แจ็คสัน" มาเล่นด้วย พอฉายจริงๆ หนังได้คะแนนจากเว็บไซต์วิจารณ์ 9 แต่ไม่ได้เต็มสิบ เพราะเป็น 9 เต็ม 100 เรียกว่าทำ Dragonball: Evolution ที่ว่าแย่ๆ อายไปเลย

จนมาหลังๆ ที่ผลงานที่มีต้นทางมาจากประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มลืมตาอ้าปากได้บ้าง มีความใกล้เคียงกับงานต้นฉบับมากยิ่งขึ้น แม้จะไม่สำเร็จมากมายอะไร แต่ก็ไม่ได้ทำให้แฟนๆ ที่เคยติดตามงานดั้งเดิมรู้สึกผิดหวัง และเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าที่ผลงานเหล่านี้ประสบความสำเร็จขึ้นมาก็เพราะเสน่ห์ความเป็นญี่ปุ่นที่ไม่จำเป็นต้องไปทำให้เป็นสากลแต่อย่างใด











กำลังโหลดความคิดเห็น