“เมย์ บัณฑิตา” เผยน้ำท่วมบ้านลดลงแล้ว แต่ยังกังวลหนักกลัวกลับมาอีก ห่วงยายกับพ่อป่วยติดเตียง วางแผนรับมือการอพยพ เตรียมพร้อมไว้ทั้งรถทั้งเรือ เชิดใส่คำครหา เป็นดาราไม่ดัง โต้ทำหน้าหนัก จนไม่มีงานละคร ทุกวันนี้แฮปปี้ดีกับชีวิตที่ไร้หนี้ จะไม่ตายไปกับวงการบันเทิง บอกคงไม่แต่งงานเพราะเปลืองเงิน 40 แล้ว ขอทำอะไรที่มีความสุข อยู่แบบชิลๆ เป็นเศรษฐีนีชัยภูมิ
หลังจากไปลงพื้นช่วยน้ำท่วม ในจังหวัดบ้านเกิดชัยภูมิ ล่าสุดนักแสดงสาว “เมย์ บัณฑิตา ฐานวิเศษ” ก็ได้กลับกรุงเทพฯ มาสร้างบุญเพิ่ม โดยการมามอบเงินจากโปรเจกต์ 10 ปี Generation-S ให้กับ มูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวก ในพระราชินูปถัมภ์ เป็นจำนวนเงิน 1 แสนบาท งานนี้ก็เลยถือโอกาสขออัปเดตเรื่องราวชีวิตของเจ้าตัว
“ตอนนี้น้ำลดแล้ว ที่กลับมากรุงเทพคือวันที่น้ำลดวันแรก น้ำลดปุ๊บก็เปลี่ยนรถเลย เป็นรถหนีน้ำ รถยกสูงเลย ก็ยังมีความหลอนๆ อยู่ จะกลับชัยภูมิก็กลัวไปติดเกาะน้ำท่วมอีกรอบหนึ่ง ที่ชัยภูมิก็ยังมี 6-7 อำเภอ แต่แถวบ้านยังไม่หนักเท่าตอนพายุเตี้ยนหมู่ แต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้วนะ เพราะมีเรือแล้ว เรือมีมอเตอร์ด้วย มีรถยกสูงด้วยก็โอเค ที่บ้านยังสต๊อกอาหารไว้ เพราะยังท่วมอยู่ แค่ลุ้นว่าจะเข้าบ้านหรือไม่ ก็ดูสถานการณ์และอัปเดตกัน”
ถ้าท่วมถึงโรงรถเมื่อไหร่ จะอพยพคุณพ่อกับคุณยายออกมาทันที
“ยังปลอดภัยเพราะน้ำยังไม่เข้าบ้าน คุยกันไว้ว่า ถ้าน้ำเข้าถึงโรงรถเมื่อไหร่ เราจะหาอาสาสมัครมาอพยพคุณพ่อกับคุณยายออก”
ถึงจะพร้อม แต่ก็ยังเป็นกังวลอยู่ เพราะคุณพ่อเป็นผู้ติดเตียง
“กังวลค่ะ หลักๆ ตอนนี้ก็สต๊อกอาหารไว้ เผื่อติดในนั้น คือเรามีการเตรียมพร้อมขึ้น มีรถยกสูงอยู่ในมือ มีเรืออยู่ในมือ คุณพ่อกับคุณยายก็กังวล มีคุยกับคุณแม่ไว้ ถ้าน้ำเข้าปุ๊บจะเรื่องใหญ่มาก เพราะเป็นผู้ป่วยติดเตียง การอพยพเขาลำบาก ผ้าอ้อม อาหารผงของผู้ป่วย คุณพ่อต้องให้อาหารทางสายยาง มีเครื่องดูดเสมหะ เครื่องออกซิเจน เยอะมาก ก็ไม่รู้ว่าจะอพยพยังไงเลย ภาวนาให้ครั้งนี้อย่าหนักกว่าเดิม
กังวลเรื่องที่บ้าน เราเป็นกู้ภัยด้วย แล้วกลับมาอยู่กรุงเทพฯ ถ้าน้ำเข้าบ้าน แล้วชอบมาแบบวูบเดียวด้วย พอเราไม่อยู่เรื่องฟืนไฟหรือไฟช็อต เรื่องอพยพจะต้องคิดต่อประสานใคร ถ้าเราอยู่เราจะรู้ระบบต่างๆ แต่ก็เลยเปลี่ยนเป็นรถยกสูงเพื่อจะได้พร้อมกลับบ้านตลอดเวลา
คุณแม่ พี่ชายเป็นหมออยู่แล้ว และมีพยาบาล แต่ถ้าเรื่องกู้ภัยคือเราถนัดที่สุดในบ้าน พี่ชายมีหน้าที่รักษาไป ส่วนเรื่องมีภัย อุบัติเหตุ เราจะเป็นคนประสานงาน ก็มีการเตรียมพร้อมกันแล้วล่ะ อะไรที่เตรียมได้ก็เตรียมไว้หมดแล้ว”
ลุ้นหนักวันต่อวัน ถ้าพายุเข้าอีก ก็คงต้องอพยพไปรอบนอก หรือไปอยู่รพ.
“ก็ลุ้น แน่หรือไม่แน่ เพราะอำเภอรอบข้างก็ท่วมอยู่ เรียกว่าขนาบข้าง แต่ยังไงก็ต้องระวังไว้ก่อน เพราะความที่บ้านมีคนป่วย (อพยพไปอยู่ตรงไหน วางแผนไว้ยังไง?) อพยพก็น่าจะไปอยู่รอบนอกหรือไม่ก็จะไปอยู่ที่โรงพยาบาลไปเลย”
โอดห่วงมาก ยายอายุ 96 ปี พ่อป่วยติดเตียง
“คุณยายชรามาก อายุ 96 ปี ส่วนคุณพ่อเป็นผู้ป่วยติดเตียงตั้งแต่เมย์อายุ 15-16 ปี 25 ปีแล้ว ที่บ้านเป็นคนดูแลผู้ป่วยติดเตียงดีมาก ไม่เจ็บไม่ป่วยไม่ไข้อะไรเลย”
อัปเดตชีวิตโอเคเยอะ
“โอเคเลย ตอนนี้ก็ให้คิวกองถ่าย เพราะถ้ามีเหตุต้องกลับบ้าน ก็เลยต้องขออนุญาตไว้ อัดคิวให้หนักเลย”
ถูกแซวว่าสวยขึ้น ชอบเก็บเงินไปทำหน้า
“ว้าย ร้าย ไม่มีเลย จะบอกว่าเวอร์ไป แต่ตื่นมาแต่งหน้าตั้งแต่ 9 โมง จะให้ดูตั้งแต่น้ำท่วมสีไม่เท่ากันเลย ผิวไหม้ ขาสองสีเลย แซวตลอด”
ไม่สนคำครหา ทำหน้าหนัก จนไม่มีงานละคร
“ไม่เลยค่ะ ไม่ค่อยยึดติดอะไร ชิลมาก แล้วอีกอย่างหนึ่งคือ ถ่ายละครตลอด คนอาจจะไม่รู้แต่ถ่ายละครตลอด แต่จะโผล่ช่องโน่นนี่ น่าสนใจ ที่หายไปก็จะมีไปสิงสถิตอยู่ต่างประเทศ เราเป็นคนชิลจริงๆ ไม่ได้ยึดติด วันนี้มีละคร วันพรุ่งนี้ไม่มีละคร ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะเรารู้สึกว่า เราอิ่มตัวในหลายๆ อย่างแล้ว แล้วเราก็ไม่เคยคิดนะ ว่าจะให้ตัวเองเล่นละครเป็นปู่ย่าตายาย ที่จริงคิดว่าจะเล่นละครแค่ 4 ปี แต่นี่ถือว่าเลยมาไกลมาก มันเกินเป้าที่เราตั้งแล้ว”
งานแสดงสอนให้ไม่ยึดติดกับบท วันไหนพอแล้วก็จะกลับไปอยู่ชัยภูมิ
“ไม่ผลค่ะ บางทีเปลี่ยนผู้บริหารที ก็ลดที แต่เราถือว่าเรามาที่นี่ตั้งเป้าหมายไว้เท่านี้ เป้าหมายมันไปไกลแล้ว งานการแสดงสอนว่า เราต้องไม่ยึดติดบทนางเอก บทตัวท็อป เราทำเพราะว่าเราอยากทำ เราทำแล้วแฮปปี้ ไม่ได้คิดว่าจะต้องตายกับชีวิตบันเทิง เรามองไว้แล้ว ว่าบั้นปลายเราจะกลับไปใช้ชีวิตที่ชัยภูมิ ไปอยู่กับพ่อแม่ วันไหนที่เรารู้สึกว่าพอแล้ว เราก็จะกลับไปชัยภูมิ”
ความรักแฮปปี้ แต่งหรือไม่แต่งตอนนี้ก็ไม่ต่าง แต่ไม่แต่งหรอกเปลืองตังค์ แก่แล้ว ทำอะไรที่มีความสุข
“ถ้ามีแฟนก็จะเอาแฟนกลับบ้านไปด้วย (หัวเราะ) (หัวใจตอนนี้เป็นยังไง?) หัวใจตอนนี้แฮปปี้ดี ตามนั้นแหละ (ถูกขอแต่งงานเหรอ?) นางโม้ไป ตอนนี้รู้สึกว่าแต่งงานกับไม่แต่งงาน ตอนนี้ไม่ต่างกันแล้ว อายุเลข 4 แล้ว แก่แล้ว เหลือเวลาอีกไม่รู้กี่ปี อะไรมีความสุขก็ทำไป ไม่เดือดร้อนคนอื่นก็โอเคแล้ว แต่ไม่แต่งหรอกเปลืองตังค์ ถามว่าเขาคิดเหมือนเราไหม เราคิดก่อน”
ไม่ยึดติดอะไรแล้วตอนนี้ ไม่มีหนี้สินด้วย
“รู้สึกว่าความสุขของเรา ณ วันนี้รู้สึกว่าใช้ชีวิตไม่กดดันอะไร ไม่กดดันว่าปีนี้ต้องมีละคร 5 เรื่อง ปีนี้ต้องผ่อนรถ ต้องผ่อนบ้าน คือเป็นคนไม่มีหนี้สินแล้ว ก็สบาย และปูทางไว้แล้วว่าไม่ได้จะเล่นละครจนแก่ เจ็บ ตาย คือเอาเงินจากการทำงานไปลงทุนที่ชัยภูมิ ก็เลยค่อนข้างที่จะชิล”
ใครว่าไม่ดังก็เรื่องของคุณ แต่ฉันแฮปปี้มาก
“ไม่ได้ยึดติดเรื่องชื่อเสียง บางคนบอกว่าเราไม่ดัง เออเรื่องของคุณ การที่คุณวิจารณ์มันคือเรื่องของคุณ ปัญหาของฉันคือ ฉันตื่นมาแฮปปี้ ดูสวน เดินเล่น ช็อปปิ้ง แฮปปี้แล้ว คนคอมเมนต์แบบนี้ก็ไม่ติดใจเลย สงสารเขา”
เราแฮปปี้ เราเป็นเศรษฐีนีชัยภูมิ
“สาธุ ไม่ได้อยากเป็นเศรษฐีนะ แต่ขอแค่อยู่ได้ก็พอแล้ว บอกตัวเองตั้งแต่เด็กว่า ทำงานหรืออะไรก็ตาม คือจะต้องไม่ทำจนร่างกายทรุดโทรม ทำแค่วันหนึ่งพอมีตังค์ซื้อกิน มีที่อยู่ แก่ไปไม่นอนอยู่ในที่อนาถาก็พอ”
ที่ดินชัยภูมิเป็นของเราส่วนหนึ่ง
“ที่ดินน้ำไม่ท่วมเลย อสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุน ไม่มีน้ำท่วมสักอันหนึ่ง แค่นี้พอแล้ว บางคนบอกว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้ พอแล้วชีวิตต่างจังหวัดแค่นี้พอแล้ว รู้สึกแก่แล้ว ไม่อยากทำงานหามรุ่งหามค่ำ”
มีละครเล่นทุกปี แต่ไม่ทำงาน 7 วัน เพราะไม่ควรตายเพื่อมัน
“สงสัยอยู่ จริงๆ คือเขาให้งานเรา เรามีละครเรื่อยๆ แฮปปี้แล้วนะ แต่ให้ทำ 7 วันไม่ทำนะ ไม่ไหว ไม่ทำจนโทรม คือเราไม่ควรตายเพื่อมัน”
