“ตุ้ย” เผยช่วงโควิดงานละครทุกเรื่องหายหมด ได้แต่ต้องรอให้กลับมาปกติกว่านี้ แต่โชคดีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ทำอยู่ 10 ปีกระทบไม่มาก แฮปปี้คบแฟนสาวนอกวงการที่คิดเหมือนกันไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากมีลูก ไม่พร้อมพาใครมาลำบากด้วย
เป็นอีกคนที่อาจจะโชคดีที่ช่วงโควิดแม้จะไม่มีงานแสดง แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ทำมาเป็น 10 ปีไม่กระทบมากนัก สำหรับนักแสดงหนุ่ม “ตุ้ย เกียรติกมล ล่าทา” ที่เผยว่าโชคดีที่ตนเลือกมาจับธุรกิจด้านนี้มานานแล้วตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ ผลกระทบก็มีบ้างเรื่องคนเช่าติดโควิด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
“ตั้งแต่ช่วงโควิดก็จะมีแต่พวกถ่ายรายการครับ ไม่ได้มีอะไรชัดเจนเหมือนช่วงที่ยังไม่มีโควิด ส่วนละครนี่เลิกคิดไปได้เลย เพราะมันมองหน้ากันไม่ติดหรอก เพราะถ้าถ่ายก็ต้องถอดมาสก์ ซึ่งผู้จัดเขาก็ต้องกลัวอยู่แล้วแหละ ตอนนี้เราก็ต้องระวังกันก่อน ช่วงนี้ก็ต้องรอครับ ละครที่ติดต่อไว้แล้วก็ต้องรอ ถ้าถึงเวลาที่เหมาะสมเดี๋ยวเขาก็คงจะแจ้งมาว่าเปิดเมื่อไหร่
เรื่องธุรกิจของผมยังโอเคครับ ไปได้เรื่อยๆ ก็โชคดีที่ทำมาก่อนที่จะมีเรื่องโควิด มันก็เลยไม่ได้กระทบสักเท่าไหร่ แต่ก็มีนะ แต่ก็ไม่ถึงกับลำบาก ก็เลยไม่ทรุดครับ ผมทำอสังหาริมทรัพย์ครับ ก็โชคดีหน่อยที่มาจับด้านนี้ ไม่ได้ไปจับพวกร้านอาหาร ซึ่งอย่างที่รู้กันว่ามีผลกระทบมากๆ แต่พอของเราเป็นอันนี้ก็จะมีกระทบที่ว่าคนที่เช่าอยู่ติดโควิดบ้างอะไรแบบนี้ มันก็ยังไม่ถึงกับหนักหน่วง ของผมก็มีทั้งซื้อขายและปล่อยให้เช่าครับ
อันนี้ผมทำคนเดียวเลย ทำมาตั้งแต่เริ่มเข้าวงการได้พักนึงเลยครับ ก็เป็น 10 ปีแล้วครับ เพราะผมไม่เคยไปบอกใครด้วย คนก็เลยไม่รู้ว่าผมทำธุรกิจอะไร ไม่ได้เปิดร้านอาหาร ไม่ได้เปิดร้านเหล้าเหมือนที่ดารานักแสดงคนอื่นๆ เขาทำกัน หรือขายสินค้าอะไรต่างๆ มันก็เลยเหมือนผมไม่ได้ทำธุรกิจอะไร แต่จริงๆ ผมทำมานานมากแล้วครับ แต่ถามว่าอยากจะทำอย่างอื่นบ้างไหม คงแล้วแต่จังหวะครับ แต่ถ้าช่วงโควิดแบบนี้ก็คงยังไม่ควรขยายอะไรนะครับ (หัวเราะ) ก็ต้องอยู่นิ่งๆ ไปก่อนครับ”
บอกความรักกับสาวรุ่นน้องนอกวงการยังแฮปปี้ดี ไม่มีแพลนแต่งหรือมีลูก
“ความรักก็เหมือนเดิมครับ เป็นคนนอกวงการ กับคนนี้ก็ยังไม่ได้มีแพลนอะไรครับ เพราะส่วนตัวก็ไม่ได้คิดเรื่องมีลูกหรือแต่งงานอยู่แล้ว และเจอคนประเภทเดียวกันที่คุยกันรู้เรื่อง เขาก็โอเค กับคนนี้ก็คบกันมาพอสมควรครับ แต่อย่างที่บอกพอเจอคนประเภทเดียวกัน คุยกันรู้เรื่องก็เลยไม่มีอะไรที่ติดขัด พ่อแม่เราหรือทางเขาก็ไม่ได้เร่งว่าอยากมีหลาน ทำไมไม่แต่งงาน เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นคนยังไง มันขึ้นอยู่กับคนสองคนครับ
สมัยก่อนผมเคยคิดนะว่าอยากแต่งงาน อยากมีลูกโน่นนี่ แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้แล้ว พอวันนึงอายุมากขึ้นความคิดมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนมาจบที่ความคิดแบบนี้ที่ถ้าเราจะลำบากก็ขอลำบากคนเดียวดีกว่า ถ้าจะสบายเราก็ขอให้คนข้างหลังเราสบายไปด้วย อย่างคุณพ่อคุณแม่ ถ้าเราต้องมีลูกขึ้นมาช่วงโควิดก็จะลำบากอีก แต่ถ้าเราสู้ด้วยตัวเราเองคนเดียวก็โอเคกว่า ไม่ต้องให้ใครมาลำบากกับเรา”