xs
xsm
sm
md
lg

“ป๊อด โมเดิร์นด็อก” เผยเส้นทางชีวิตสายใหม่ หวนทำงานศิลปะ ตื่นเต้นเปิดโลกใหม่ขายงานในตลาดโลก NFT art

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ป๊อด โมเดิร์นด็อก” เล่าชีวิตในเส้นทางสายใหม่ กลับมาเอาดีกับงานศิลปะ เขียนภาพขายตลาดศิลปะออนไลน์ NFT art จัดนิทรรศการภาพ เปิดสอนวาดภาพ ควบคู่กับการทดลองทำเพลงแนวใหม่ในร่างอวตารที่ไม่ใช่ “โมเดิร์นด็อก” รับโลกเปลี่ยนไปเร็วมากจนแทบตามไม่ทันแต่วงโมเดิร์นด็อกก็จะยังอยู่

ในช่วงโควิด-19 ทำให้ประชากรโลกบางกลุ่มตกงานกันก็เพียบ และบางกลุ่มเมื่อถึงเวลาทำงานกลับเลือกลาออก และออกมาตามหาอาชีพใหม่ๆ ที่ตรงกับความหลงใหลของตนเอง จนกลายเป็นเทรนด์โลกที่ผู้คนตั้งคำถามกับอาชีพ และ การทำงาน เช่นเดียวกับนักร้องดัง “ป๊อด โมเดิร์นด็อก” หรือ “ธนชัย อุชชิน” ที่ใช้ช่วงเวลาโควิด-19 เลือกกลับมาสู่งานที่ชอบ ที่เคยร่ำเรียนมา และเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทดลองทำเพลงในสไตล์ใหม่ๆ หลังต้องพักวง “โมเดิร์นด็อก” ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด

“ช่วงโควิด-19 ผมมีโอกาสได้กลับมาทำงานศิลปะ เป็นผลงานภาพเขียนแอปสแตค(ศิลปะเชิงนามธรรม) ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา 5-6 ปีหลังนี้ ได้กลับมาทำงานศิลปะถือเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งนอกเหนือจากเพลง เป็นความชอบของผมตั้งแต่ดั้งเดิม คือจริงๆ ผมจบมาทางด้านศิลปะ แต่กลับได้มาเป็นนักร้องอาชีพมาถึงจุดนึงก็ได้กลับมาทำสิ่งที่รักอีกครั้งนึง ช่วงโควิดที่ผ่านมาก็ได้มาเข้มข้นตรงนี้ครับ เริ่มกลับมาเพ้นต์รูป คือไม่ได้ตั้งใจจะเพ้นต์ขาย แต่ตั้งต้นเพราะชอบวาด จากนั้นเริ่มมีแกลเลอรี่ติดต่อมาให้มาจัดแสดงผลงาน ก็เริ่มมีการขายงาน หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนมาให้สอน มีเวิร์กช็อปทุกวันอาทิตย์ ซึ่งช่วงโควิดนี้ก็หยุดไป คือผมเองเรียนครุศาสตร์ เป็นครูศิลปะ ก็เลยเหมือนได้กลับมาทำในสิ่งที่ชอบ ที่ได้ร่ำเรียนมากครับ”

เอ่ยปากต้องรีดวิญญาณเก่าในการกลับมาจับงานศิลปะอีกครั้ง
ก็เหมือนต้องไปรีดวิญญาณเก่าออกมา เพราะว่าจิตใจเราเป็นคนชอบแชร์ ชอบแบ่งปันความรู้ ไม่ถึงกับสอนหรอก เรียกว่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์สิ่งที่เราเรียนรู้มา สิ่งที่เราไปเห็นเวลาเราเดินทางไปต่างประเทศ ได้ไปดูพิพิธภัณฑ์ เราเห็นงานศิลปินของโลกเป็นยังไง เราก็เอามาแบ่งปันพ่อแม่พี่น้อง รวมถึงโซเชียลด้วย เวลาเราวาดรูปก็จะแชร์ลงโซเชียลของเราครับ”

เล่าช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ผู้คนสนใจศิลปะมากขึ้น รวมถึงศิลปินเองก็หันมาจับพู่กันเลี้ยงชีพอีกครั้ง
“ผมชอบรูปนามธรรม เริ่มต้นเลยมาจากการปลดปล่อยพลัง อารมณ์ ความรู้สึกจากใจ ตรงๆ ไปเลย ไม่ได้ขึ้นไปที่สมองด้วย จากใจก็ไปที่มือเลย มันเป็นเหมือนกระบวนการบำบัดอย่างหนึ่ง ทำให้เรารู้สึกว่าได้จดจ่อกับงาน เหมือนโลกทั้งโลก หรือชั่วโมงนั้นเราอยู่กับเฟรมตรงหน้า เราอยู่กับผลงาน ทำให้สิ่งแวดล้อม ความเครียดความกังวล ความคิดอะไรต่างๆมันได้หลุดไป ทำให้เราได้อยู่กับปัจจุบัน เป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข

ปัจจุบันโลกของศิลปะเปิดกว้างขึ้นมาก มีงานให้เราได้มีงานศิลปะให้เราเสพ ให้เราเข้าถึงมากขึ้น มีแกลเลอรีใหม่ๆ เปิดมากขึ้น ศิลปินมีหลากหลายขึ้น ทั้งแนวสตรีท กราฟิตี้ รูปแบบมันถูกเปิดออกแล้ว เราไถไอจีเราก็สามารถเห็นงานศิลป์ทั้งของฝรั่ง คนไทย รวมถึงกระแสในปัจจุบัน ที่มีการขายงานผ่าน NFT art (งานศิลปะต่างๆ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปวาด ภาพถ่าย ภาพมีม กราฟิกศิลปะ การ์ดเกม ฯลฯ เมื่อนำไปแปลงเป็นโทเคนเข้าสู่ NFT (สินทรัพย์ดิจิทัลศิลปะรูปแบบใหม่) จะถูกเรียกว่า Crypto Arts (งานศิลปะเข้ารหัส) กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าสามารถซื้อ-ขายได้) ก็มีสิ่งนี้ขึ้นมา ทำให้คนสนใจศิลปะขึ้นเยอะ ศิลปินก็กลับมาทำงานศิลปะกันมากขึ้นด้วย เพราะมันเลี้ยงตัวเองได้แล้ว”

ตื่นเต้นได้เข้าไปขายผลงานตัวเองในตลาดศิลปะออนไลน์ NFT art
“ช่วงโควิด-19 ทำให้ศิลปะกลับมาเป็นที่นิยมและยอมรับมากขึ้น เพราะผมก็เพิ่งก้าวเข้ามาเต็มๆ เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง มันเอื้อกันกับที่ทุกคนทำงานที่บ้าน แล้วสามารถซื้อได้ ขายได้มีรายได้ ตัวผมเองก็มีโอกาสได้ลงขายงานใน NFT รู้สึกตื่นเต้นมาก ผมก็เห็นนะที่หลายคนร้างลากับงานศิลปะไปทำอาชีพอื่นกันแล้ว แต่ก็ได้กลับมาทำในสิ่งที่ชอบ เหมือนศิลปินไทยคนหนึ่ง คอนเซ็ปต์คือผีไทย ตัวเขาเองทำงานโฆษณา แต่เขาครีเอตผีไทยขึ้นมา กลายเป็นว่าต่างชาติสนใจ มันก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งได้ จะเป็นอาชีพหลักด้วยซ้ำ ผมเองก็เรียกว่าได้เปิดโลกใหม่ๆ ให้กับตัวเองเหมือนกัน”

ตอนนี้นอกจากวาดภาพแนวแอปสแตคแล้วก็เริ่มกันมาลองวาดภาพเหมือนด้วย
“ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว เริ่มเขียนภาพคน ภาพวิว เริ่มอยากเขียนอะไรที่รู้สึกจากภาพถ่ายของตัวเอง โมเมนต์ที่เราบันทึกไว้ในมือถือ หรือถ่ายใครไว้ในความทรงจำจังหวะนั้น ผมก็อยากเอามาเป็นภาพสีน้ำมัน ตอนนี้ผมฝึกเขียนสีน้ำมันอยู่

แอปสแตคมันเป็นการปลดปล่อย พอถึงจุดหนึ่งมันก็เริ่มเบาแล้ว เอาจริงๆ ผมเริ่มมาตั้งแต่ปี 2012 ปีหน้าคือจะ 10 ปีแล้วนะ เราก็เริ่มรู้สึกว่าเราอยากนิ่ง เขียนแอปสแตคมันใช้ร่างกายมากนะ เหมือนเราเต้นบนเวทีเลย การขยับแขนขา การโยกการก้มการเงย พอถึงจุดหนึ่งก็อยากทำงานแบบมีจุดโฟกัส ให้นิ่ง ให้มีสมาธิด้วย”

โควิด-19 ที่ผ่านมานอกจากได้กลับมาทำงานศิลปะแล้ว ยังได้ทดลองทำเพลงแนวใหม่ในร่างอวตารที่ไม่ใช่ “โมเดิร์นด็อก” ด้วย
“เรากลับไปจุดเริ่มต้นของเราก็จริง แต่เราไม่ได้โฟกัสต้องอย่างนั้นอย่างนี้ เรามองรวมๆ ทำๆ ไปแล้วมันก็ค่อยๆ เจอตัวเองนะ เหมือนทำไปแล้วเจอพื้นที่ใหม่ เหมือนเราทำเพลงมา 27 ปี แต่การก้าวเข้าไปสู้งานศิลปะ ก็เหมือนมีพื้นที่ให้เราโตอีกนะ ให้เรียกว่ามือใหม่ก็แล้วกัน

ปีที่แล้วได้ทำเพลงผ่านซูมด้วยนะ ผมมีอัลบั้มออกไปหนึ่งอัลบั้ม ทุกท่านอาจจะไม่รู้ ผมเซ็ตอวตารขึ้นมาตัวหนึ่งชื่อ บอลลูนบอย ก็ทำเพลงผ่านคาแร็กเตอร์นี้ ซึ่งออกมาเป็นอัลบั้มเมื่อปลายปีที่แล้ว ช่วงเดือนพฤศจิกายน ทำเพลงในแล็บท็อป ทำผ่านซูม เราอยู่ปากช่อง เพื่อนอยู่กรุงเทพฯ ต่างคนก็ต่างปรับเสียงกัน ก็เสร็จเป็นอัลบั้มขึ้นมา ไม่ใช่ทีมโมเดิร์นด็อก เป็นทีมอื่นเลย 3 คน มีครูที่สอนผมทำโปรแกรมเพลง อีกคนหนึ่งก็คือเลขาฯ ผมเอง แล้วก็ผม เพลงเป็นแนวมินิมอล น้อยๆ ฟังสบายๆ กุ๊กกิ๊ก เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราทำคู่กับงานศิลปะ ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา เป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้เราได้เขียนเพลงที่ออกนอกตัวเรา เหมือนเราเขียนให้อวตารตัวนี้ร้อง ไม่ใช่ป๊อด โมเดิร์นด็อก”

ไม่เครียด ได้ลองเป็นคาแร็กเตอร์อื่นที่ไม่ใช่ “โมเดิร์นด็อก”
“ตอนโมเดิร์นด็อกเหมือนเราสร้างตึก แต่พอเรามาทำบอลลูนบอย เหมือนเราเล่นเลโก้ ก๊อกแก๊กได้ โมเดิร์นด็อกต้องมุ่งมั่นมีความเครียดผสม (แฟนๆ โมเดิร์นด็อก ยังมีโอกาสได้เห็นผลงานโมเดิร์นด็อกไหม?) อยากให้ติดตามคอนเสิร์ตใหญ่ ที่เลื่อนไปประมาณปีครึ่ง จริงๆกรกฎาคมที่ผ่านมาจะมีคอนเสิร์ตครั้งสำคัญของเรา เดอะ เวรี่ นอร์มอล ออฟ โมเดิร์นด็อก โควิดมาก็เลยตัดสินใจเลื่อนไปเป็นกรกฎาคมปี 65 เดี๋ยวเมื่อไหร่ที่เราพร้อมจะซ้อม เราก็จะมารวมกันเหมือนเดิม จริงๆ ซ้อมไปเกือบจะได้เล่นแล้ว แต่ว่าโควิดมาก็แยกย้าย เดี๋ยวพอมันซาเราก็จะกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่”

ลั่นวง “โมเดิร์นด็อก” ยังอยู่และรักกันดีไม่มีปัญหาอะไรกัน
“ไม่ครับ เราจะยังอยู่กันไปเรื่อยๆ วงดนตรีไม่ควรแยกย้ายนะครับ ถ้าเงินหมดก็จะกลับมาเล่นกันใหม่ ถ้าเกิดมีอารมณ์ขึ้นมา หรือหายโกรธกันแล้วจะอยากกลับมาเล่นกันใหม่ ก็ไม่ควรประกาศแยกย้าย เดี๋ยวจะเขินครับ โมเดิร์นด็อกไม่ได้มีปัญหากัน ยังรักกันดีครับ แต่เพลงใหม่ยังไม่มี เดี๋ยวจะมีเป็นคอนเสิร์ตก่อนมากกว่า”

ตอนนี้ต่างคนต่างไปทำงานของตัวเองทำให้กลับมาซ้อม มาเจอกันยาก รวมถึงตนที่ต้องอยู่ดูแลแม่วัย 80 ปีด้วย ทำให้ไม่กล้าออกไปเจอใคร
โควิด-19 ทำให้ไม่ได้เจอกันเลย ต่างตนต่างมีครอบครัว ผมมีคุณแม่อายุ 80 ก็ไม่กล้าที่จะออกมาเจอใครเลย ถ้าเรามาเจอใครแล้วกลับไปอยู่กับคุณแม่ ก็อันตราย ก็รอให้ทุกอย่างคลี่คลาย แล้วก็คงจะได้กลับมาซ้อมกัน เจอกัน กรกฎาคมปีหน้าครับ เลื่อนตั๋วมาแล้ว และคนที่ซื้อตั๋วแล้ว ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ขอคืน ส่วนที่ตั๋วยังเหลืออยู่ก็ยังซื้อได้ครับ”

โลกเปลี่ยนไปเร็วมากจนแทบจะตั้งรับไม่ทัน ส่วน “โมเดิร์นด็อก” จะยังคงอยู่ที่เดิม รอวันจะได้กลับมาพบแฟนๆ ในงานคอนเสิร์ต ก.ค. ปี 65
“เปลี่ยนไปเร็วมาก ไม่ใช่แค่ดนตรี แต่โลกเปลี่ยนไปเร็วมาก ตามแทบไม่ทัน แต่ละสิ่งแต่ละวันพลิกหน้าใหม่ตลอดเวลา วงการเพลงเราก็จะเหมือนศิลปินหน้าใหม่เข้ามาเยอะ เปลี่ยนยุคกันเร็วมาก ส่วนโมเดิร์นด็อกเรายังอยู่ที่เดิม เดี๋ยวเราขอเจอะเจอกันก่อน ก็ขอขอบคุณที่ถามถึงนะครับ”























กำลังโหลดความคิดเห็น