“หมิว” ฟ้องเกรียนคีย์บอร์ดด่าดอก เรียกเงินหลักแสน เหลืออดถูกไล่ไปล้างของลับ คุกคามทางเพศ ถูกด้อยค่า จวกความคิดต่ำๆ ของสลิ่ม ฟ้องหมิ่นให้เห็นเป็นตัวอย่าง ว่าดาราไม่ใช่กระโถนรองรับอารมณ์ ฟ้องเรื่อยๆ อีก 20 คน เย้ยใครลบเมนต์เป็นหมา ได้เงินเมื่อไหร่จะพาเด็กด้อยโอกาสไปดูปลาโลมา
เดินหน้าขึ้นศาลแล้วสำหรับสาว “หมิว สิริลภัส กองตระการ” ที่วันนี้ (18 ต.ค.) เจ้าตัวเดินทางมาที่ศาลอาญา รัชดาตั้งแต่เวลา 7.00 น. ในคดีที่ฟ้อง “นายสินชัย จิตชาญวิฑิต” ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่ง หมิว เผยว่าตั้งใจจะทำให้ดูเป็นบทเรียนกับคนที่คอมเมนต์หยาบคาย ด่าทอเหล่าดาราศิลปิน
“อันนี้เป็นคดีการฟ้องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณานะคะ จริงๆ มันมีหลายคดีมาก แต่ว่าหมิวปรึกษากับทีมทนายแล้วว่ามันต้องหยิบยกสักหนึ่งคนขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นบทเรียนให้กับคนที่พยายามคอมเมนต์ด้อยค่า ดูถูก หรือว่าหมิ่นประมาทคนอื่นๆ ให้ดูเป็นบทเรียน และวันนี้หลังจากที่ได้ดำเนินการส่งฟ้องเรียบร้อยแล้ว จริงๆ มันมีทั้งส่งฟ้องทางตำรวจไปแล้ว 20 คน แต่อันนี้คือเราเลือกที่จะส่งฟ้องตรงกับทางศาลเอง หมิวก็ให้ทนายเป็นคนจัดการ และวันนี้เป็นวันที่ศาลนัดมาไต่สวนซักพยานว่าตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ถามว่าแตกต่างกันยังไงระหว่างส่งศาลกับส่งตำรวจ คือส่งตำรวจเขาก็อาจจะมีหมายเรียกมาคุยไกล่เกลี่ยกันก่อนว่าจะขึ้นศาลทำคดีไหม หรือว่าจะจ่ายค่าปรับ แต่ถ้าเป็นกรณีนี้เราขึ้นตรงต่อศาลเลย เพราะข้อความมันค่อนข้างที่จะรุนแรง คือเขาคอมเมนต์ว่า อีด-ก กลับไปล้างหอยดูก่อนดีเปล่าว่าสะอาดหรือเปล่า จะได้ตรวจดูว่าสะอาดหรือเปล่า เวลาลูกค้ากินจะมีกลิ่นโคลนมันไม่อร่อยนะ จะหาแสงใช้วิธีอื่นดีกว่า ใช้สมองคิดบ้างนะ อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน ว่าแต่มันขายหอยอะไร หอยลายหรือเปล่า อยากกินเลย
นี่คือเมนต์เดียวค่ะ แต่จริงๆ มีเยอะกว่านี้อีกมาก แต่ว่าหมิวให้ทางทีมทนายคัดเลือกมาว่ามันเป็นเฟซที่สามารถตามตัวได้ มีตัวตนจริง และเขามีความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊กจริง แต่หมิวไม่ได้เข้าไปดูเองนะคะ หมิวให้ทางทนายจัดการให้ทั้งหมดเลย วันนี้ก็มาของคนนี้คนเดียวเลย และพอเสร็จจากนี้หมิวก็จะฟ้องต่อเรื่อยๆ จะให้ทนายดูต่อไปเรื่อยๆ ว่ามีคอมเมนต์ไหนที่เป็นการลดทอนคุณค่า ด้อยค่า หมิ่นประมาท หรือเป็นการทำให้หมิวเสื่อมเสียชื่อเสียงอีก ก็จะฟ้องไปเรื่อยๆ ค่ะ”
ยันไม่คิดยอมความ เพราะดาราที่ไม่ที่รองรับอารมณ์ใคร
“ฟ้องหลักแสนค่ะ ถามว่าประมาณกี่ราย ก็ต้องให้ทีมทนายเขาดูค่ะว่าจะสามารถตามตัวได้กี่คน สามารถดูว่าคนนี้ฟ้องได้หรือไม่ แต่ 20 คนหมิวส่งตำรวจไปแล้ว อันนั้นเป็นผู้โชคดีไปแล้ว ก็เตรียมโดนหมายเรียกมาไกล่เกลี่ยกัน แต่ขึ้นในชั้นศาลมันค่อนข้างต้องใช้เอกสารเยอะ ต้องใช้มูลฟ้องเยอะค่ะ ก็ต้องทำงานหนักกว่าเก่า
ถามว่าใจอยากจะยอมความหรือไกล่เกลี่ยไหม ไม่ค่ะ ถ้าเกิดว่าคิดยอมความคงไม่ฟ้องตั้งแต่แรกค่ะ สิ่งที่ทำให้เหลืออดกับคอมเมนต์ด้านลบก็คือหมิวรู้สึกว่าเราควรจะทำให้มันเป็นบรรทัดฐานว่าดาราเป็นคนของประชาชนก็จริง แต่เราไม่ใช่สนามอารมณ์ของใคร เราไม่ใช่กระโถนของใคร ไม่ใช่ว่าเขาจะมาคอมเมนต์อะไรก็ได้ ไม่ใช่ว่าเขาจะมาวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องอะไรก็ได้ ถ้าเราทำผิดเขาวิจารณ์เรื่องที่เราทำผิด เรายอมรับผิด จะไม่ว่าอะไรเลย แต่อันนี้เขามานั่งวิจารณ์ในเรื่องที่หมิวไม่ได้ทำ เขามาพูดถึงการซื้อบริการทางเพศ เรื่องขายหอย เรื่องต่ำๆ ที่สลิ่มคนนึงจะคิดได้น่ะค่ะ
ถ้าเขามาคอมเมนต์เรื่องการเมือง หมิวสามารถเปิดใจคุยได้ทางการเมืองในรูปแบบของคนที่มีหลักการและเหตุผล ว่าทำไมคุณถึงคิดแบบนี้ ทำไมเราเชื่อแบบนี้ เราพูดคุยกันได้ค่ะ เราอยู่ร่วมสังคมกันได้ด้วยเหตุผล ด้วยความมีอารยะ แต่ถ้าเกิดคุณมาเมนต์ในเรื่องอื่นๆ แบบนี้มันไม่ถูกต้อง หมิวว่ามันไม่แฟร์ และหมิวรู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้วที่ควรจะมีตัวอย่างให้เห็นสักทีนึงว่าการที่คุณมาคอมเมนต์คุกคามทางเพศแบบนี้มันไม่ถูกต้อง”
เผยอยากเอาเงินพาเด็กด้อยโอกาสไปดูปลาโลมา
“ขั้นต่ำที่ทนายบอกจะเรียกก็คือหลักแสนค่ะ ถ้าได้เงินมาหมิวตั้งโปรเจกต์ไว้ว่าหมิวจะพาน้องๆ ที่ด้อยโอกาสไปดูโลมาที่โอเอซิส ซีเวิลด์ เพราะที่นี่เป็นธุรกิจที่ใกล้จะล้มแล้วจากสถานการณ์โควิด น้องๆ บางคนเขาไม่เคยมีโอกาสได้ไปเที่ยวดูทะเล ดูปลาโลมาแบบนี้เลย และหมิวเคยไปเที่ยวที่นี่ เขาน่ารักมาก พนักงานก็น่ารัก ดูแลดีมาก หมิวก็ไม่อยากให้ที่นี่ต้องปิดกิจการลงไป หมิวก็เลยอยากจะให้น้องๆ ได้มีโอกาสไปมีความสุขอย่างที่หมิวมีบ้าง
ซึ่งเงินที่ฟ้องถามว่าทำไมจะเอาเข้ากระเป๋าหมิวเองไม่ได้ เขาคอมเมนต์ทำให้หมิวเสียชื่อเสียง เสียสุขภาพจิต เสียหน้าที่การงาน ทำไมถึงจะเอาเข้ากระเป๋าหมิวไม่ได้คะ และนั่นก็เป็นสิทธิของหมิว นั่นคือค่าเสียหายของหมิว หมิวจะเอาเงินในส่วนนี้ไปใช้ทำอะไรก็ได้
ถามว่าพอมีข่าวว่าเราจะฟ้อง คอมเมนต์พวกนี้มันลดลงไปบ้างไหม บางเพจหมิวก็ไปคอมเมนต์ว่าบำนาญยังมีใช้กันอยู่นะ เก็บไว้ดีๆ เนอะ ใครลบคอมเมนต์เป็นลูกหมานะ คอมเมนต์ก็หายไปเยอะพอสมควร (หัวเราะ) ถ้าวันนี้เขามีปฏิกิริยาน่าสงสาร เราจะใจอ่อนไหม ถ้าหมิวใจอ่อนหมิวคงไม่คิดจะฟ้องตั้งแต่แรกค่ะ มันจะต้องมีบทเรียนบ้าง ไม่ว่าเขาจะมาในสภาพไหน จะมาขอร้องอะไรก็แล้วแต่ หมิวพูดเลยว่าหมิวเป็นคนใจอ่อน เป็นคนขี้สงสารนะ แต่ถ้าไม่ถึงขีดสุดหมิวไม่ทำหรอก และถ้าทำก็จะทำให้สุด และหมิวจะไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น จุดมุ่งหมายคือจะเอาผิดเขาจนถึงที่สุด เขาจะได้จำไว้ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันไม่ถูกต้อง และคนอื่นจะได้เห็นว่าสิ่งนี้มันไม่ถูกต้อง เขาไม่ควรทำแบบนี้กับคนอื่น”