“ป้อง” เผยเพิ่งผ่าตัดเอ็นหัวเข่าขวามาได้ 2 เดือนกว่า แต่หมอยังห้ามวิ่งในระยะเวลา 4 เดือนหลังผ่า ทำใจรุ่นนี้อะไหล่หายาก กว่าจะหายต้องใช้เวลา แต่หมอการันตีกลับมาเตะบอลได้ ลั่นอยู่บ้านนานทำให้ติดซีรีส์ไปแล้ว แต่ก็ได้นำกลับมาใช้พัฒนาในการแสดงด้วย ตอนนี้กลับมาถ่ายละครอีกครั้งหลังจากหยุดยาว ต้องปรับตัวเองใหม่หมด
มีปัญหาเรื่องเอ็นหัวเข่ามานานแล้ว ล่าสุดพระเอกหนุ่ม “ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์”ก็เผยว่าได้ทำการผ่าตัดไปเป็นที่เรียบร้อยในช่วงหยุดยาวโควิดที่ผ่านมา แต่คุณหมอยังสั่งห้ามไม่ให้วิ่ง 4 เดือนหลังผ่าตัด แต่บอกถ้าหายแล้วสามารถกลับมาเตะฟุตบอลได้ปกติแน่นอน
“ไปผ่าเข่าขวามาครับ เอ็นไขว้หน้า จริงๆ เข่าซ้ายเคยผ่าแล้วเมื่อ 11 ปีก่อนเพราะเรื่องเล่นฟุตบอลครับ แล้วมาเป็นเข่าขวาด้วย ตอนแรกแพลนไว้ว่าจะถ่ายเรื่องสายรุ้งให้จบก่อนแล้วค่อยไปผ่า แต่พออยู่ในช่วงโควิดล็อกดาวน์อยู่บ้านนาน มานั่งคิดว่าไหนๆ เราก็ต้องอยู่บ้านอยู่แล้วก็เลยตัดสินใจไปผ่าเข่าซะเลย ผ่าไปเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมครับ
จริงๆ อาการนี้คนเป็นกันหลายคน นักแสดงก็เป็นหลายคน คือบางคนจะกลัวไม่อยากผ่า แต่ถ้าเอ็นมันขาดแล้วมันต้องเย็บถึงจะหาย เพราะถ้าเราทิ้งไว้นานหมอนรองกระดูกมันจะสึก แล้วถ้าผ่าแล้วการฟื้นตัวมันจะนานขึ้น สาเหตุเกิดจากการเล่นกีฬา เตะบอล ตีแบต หรือเข้าฉากแอ็กชั่นก็เกิดขึ้นได้ อย่างนักฟุตบอลมืออาชีพจะเป็นกันเยอะ เราไปผ่ามาแล้วก็ต้องกายภาพให้เคร่งครัด จะมีสเต็ปอาทิตย์แรกเดิน อาทิตย์ต่อมาค่อยๆ งอขาได้มากขึ้น ตอนนี้หมอห้ามวิ่งตั้ง 4 เดือน ตอนนี้ผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้วครับ”
เผยสามารถกลับไปเตะฟุตบาลได้ปกติ
“มันก็ยังปวดอยู่เพราะมันเพิ่งหาย กล้ามเนื้อตอนผ่ามันจะหายไปเลยเพราะว่าเราใช้ไม้เท้าประมาณ 2 สัปดาห์ ตอนนี้ก็ต้องฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ออกกำลังกาย ทำกายภาพให้มันกลับมาเหมือนเดิม กลับไปเตะบอลได้เหมือนเดิมเลย เคยถามหมอตอนที่เคยผ่าเข่าซ้ายไป ถ้าผ่าเสร็จแล้วต้องเลิกเล่นเลยไหม หมอบอกไม่ ที่ผ่าเพื่อให้กลับไปเล่น ผมแนะนำให้ไปผ่าหลายคนแล้วอย่างน้องเจษ (เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์) ก็ไปผ่า
มีโอกาสกลับมาเป็นอักเสบเหมือนเดิมไหมเหรอ ก็มีโอกาส แต่พอเถอะ (หัวเราะ ) คือมีโอกาสเป็นอีกถ้าเราโชคไม่ดีหรือไม่ระวัง ถามว่าต้องลดการเล่นกีฬาลงไหม ก็ต้องลดด้วยอายุเราด้วยเนาะ ลดความหนักหน่วงลง แต่บางทีมันอยู่ที่จังหวะด้วย ก็ต้องระวังด้วยแล้วกันรุ่นนี้อะไหล่เริ่มหายาก คือเราก็เตรียมใจไว้แล้วว่าการผ่าตัดมันต้องใช้เวลาพักฟื้น เราก็เข้าใจ”
บอกอยู่บ้านนาน ติดซีรีส์หนักมาก
“ตอนนี้ต้องหัวหน้าฮง ซีรีส์ Hometown Cha-Cha-Cha จริงๆ เราก็ดูหมดนะ ทั้งของฝรั่ง เดี๋ยวนี้ซีรีส์สเปนก็สนุกหลายเรื่อง เราดูเน็ตฟลิกซ์อยู่บ้านมันก็เพลิดเพลินดี แล้วเราก็ดูในแง่การแสดงของเขาด้วย เขาเล่นยังไงกัน โปรดักชั่นเป็นยังไง ทำไมเล่นแล้วเขาดังจังเลย เราก็ดูแล้วศึกษาไว้ด้วย ถามว่าเข้าวงการดูซีรีส์มานานหรือยัง ก็ดูเรื่อยๆ ครับดูตั้งแต่เน็ตฟลิกซ์แรกๆ เลย จริงๆ พวกแอปฯ แบบนี้ผมเคยเห็นตอนไปทำงานที่เมืองจีนสมัยก่อน จะมีทีวีแบบเน็ตฟลิกซ์เหมือนเป็นทางฝั่งของจีนเขา ผมยังคิดอยู่เลยว่าธุรกิจนี้มันสะดวกดี ผ่านมาไม่กี่ปีมีเน็ตฟลิกซ์จริงๆ”
เผยที่ไปออกรายการของ “ดีเจเพชรจ้า” เคยปลอมตัวหลบคู่อริ
“ไม่มีอะไรครับ ตอนนั้นช่วงวัยรุ่นครับ ไปเที่ยวกันที่เกาะกับเพื่อนๆ มีเรื่องมีราว เราก็หลบๆ หนีๆ กันเป็นเรื่องเล่าฮาๆ มากกว่า เป็นเรื่องจะ 20 ปีแล้วมั้ง คือคอนเซ็ปต์รายการของเพชรจ้าเอาเรื่องเล่ามาแล้วจะให้ทายว่าจริงหรือไม่จริง เราก็คิดถึงเรื่องของเราที่มันเคยเกิดขึ้นที่มันดูไม่น่าจริงเลยแต่มันเป็นจริง ก็เลยเล่าเรื่องนี้แหละที่ชีวิตผจญภัย (มีใส่วิกใส่หมวกด้วย?) ไม่ใช่ใส่วิกใส่หมวกคือเพื่อนผมก็เข้าใจนะหลบตีนช่วงวัยรุ่นแล้วมันบนเกาะไม่ใช่ถิ่นเรา ทำอะไรได้ก็ทำหลบๆ กันไป มันเป็นเรื่องขำๆ ไม่ได้มีประเด็นอะไรครับ ปัจจุบันไม่ต้องพรางตัวแล้ว ไม่มีเรื่องแล้วสิ”
เผยกลับมาถ่ายละครอีกครั้งหลังหยุดไปนาน ต้องปรับตัวใหม่หมด
“ละครล่าสุด วันทอง ผ่านไปหลายเดือนได้พักช่วงโควิด ก็ได้กลับมาเล่นละครอีกครั้ง ดีใจครับ ร่วมงานกับเช้นจ์ครั้งแรกกับพี่ฉอด ,เอส (วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย) พี่โอ๋ ผู้กำกับ และทีมนักแสดงทั้งหมดที่ไม่เคยเจอใครมาก่อนเลยก็ดีครับได้พบปะผู้คนใหม่ๆ ได้เจอทีมงานใหม่ๆ เราก็ปรับตัวสนุกดีครับ
ถามว่ายากไหมในการเลือกรับบท เพราะเราผ่านมาทุกบทแล้ว ก็หลายๆ อย่าง อายุเราจะให้ไปเล่นมุ้งมิ้งมันก็คงไม่เข้าแล้วเนาะ ถามว่าเราผ่านละครฟอร์มยักษ์มาหมดแล้วหรือเปล่า ไม่หรอกครับ คือบทและการแสดงถ้ามันไม่เหมือนเดิมมันสนุกหมดแหละครับ แต่เราก็ดูให้มันเหมาะสมกับตัวเอง เล่นให้มันสนุกสนาน เจอทีมใหม่บทประพันธ์สายรุ้ง เจอพี่ฉอด ได้ยินมานานแล้วว่าเช้นจ์ละครเขาดังเยอะ เราอยากร่วมงานด้วย อย่างที่คุณเอสบอกเราก็แคล้วคลาดกันมาหลายเรื่องแล้ว ทั้งคลับฟรายเดย์ ละครยาว กับคุณเอสเพื่อนยุคเดินแบบด้วยกันสมัยวัยรุ่นนะ ดีใจครับได้มาร่วมงานกัน และมีการเวิร์กช็อป จับผมเข้าคลาสการแสดงใหม่
ซึ่งเอาจริงๆ ผมก็ห่างหายไปนาน เพราะส่วนใหญ่ก็คิดว่าป้องเล่นได้แหละ ก็ได้รู้สึกเหมือน Back to Basic ได้กลับไปเคาะสนิมการแสดงจริงๆ มันเป็นยังไง เพราะต้องยอมรับว่าบางทีเราเล่นเยอะมันเหมือนกดปุ่มเหมือนกันอันนั้นก็ได้หมด ซึ่งความต้องการจริงๆ ของตัวละครสังเกตอย่างพวกซีรีส์เกาหลีอย่างหัวหน้าฮง บทไม่มีอะไรเลยนะ เบาๆ แต่ทำไมมันถึงดูได้สนุกเพราะมันจริง ก็เรียนรู้มาปรับใช้กับงานตัวเอง คลาสแอ็กติ้งนี้ช่วยได้เยอะมาก ฝากละครสายรุ้ง บทประพันธ์ของคุณทมยันตี ทีมงานนักแสดงทุกคนเต็มที่ รอติดตามชมกันปีหน้าได้เจอกันแน่นอนครับ”