“เสือ” รับตนและครอบครัวโดนหลอกจากการลงทุนฟอเร็กซ์ ทำให้ตอนนี้ตนไม่เชื่อใจใคร แม้แต่คนใกล้ตัว กับเรื่องนี้ทำตนรู้สึกเศร้า เครียดและโกรธ “เสก” ก็รู้สึกโกรธเหมือนกัน ยันไม่คิดย้ายไปอยู่อเมริกา ขอปักหลักทำงานที่เมืองไทย ยันเพจโลโซ เสกเป็นคนเล่นเป็นหลัก
มีคดีฟ้องร้องให้ขึ้นศาลกันเรื่อยสำหรับครอบครัว “ศุขพิมาย” ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือว่า “เสือ เสฏกานต์ ศุขพิมาย” ลูกชายของ “เสก โลโซ” เสกสรร ศุขพิมาย ถูกหลอกให้ลงทุนฟอเร็กซ์ ซึ่งต่อมา “กานต์ วิภากร ศุขพิมาย” ก็ได้โพสต์ตามทวงหนี้ แถมยังบอกจะย้ายไปใช้ชีวิตที่สหรัฐอเมริกา ล่าสุดเสือได้ไปร่วมงานแถลงข่าวของ AIC คลินิก จึงเปิดใจเรื่องนี้กับผู้สื่อข่าวว่า…
“ก็ยังไม่ค่อยมีอะไรคืบหน้าครับ แต่ว่าผมก็ไม่ได้รู้อะไรมากว่าเขาแจ้งอะไรไป ดำเนินไปถึงไหนแล้ว แต่ว่าเขาก็จะเดินต่อไปเรื่องคดี ฝั่งคู่กรณีก็มาบอกจะคืนเงินแต่ว่าทางแม่ผมก็ไม่ได้เชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็ต้องฟ้องต่อไป เงินที่เขาเอาไปมันเป็นเงินในส่วนของผม ไม่พูดดีกว่า แต่ก็เยอะอยู่ (5 ล้าน?) ไม่ถึงครับแต่ว่าก็เยอะจำนวนนึงครับ(หัวเราะ) แต่ว่าส่วนมากเป็นของแม่กับครอบครัวครับ คือรวมกัน”
ก่อนหน้านี้ผมก็รู้ว่าแม่จะเอาไปลงทุน เทรดหุ้นพวกฟอเร็กซ์ เขาก็รู้อยู่แล้วว่ามีความเสี่ยง แต่ว่าเราก็รู้ว่าคืออะไรเหตุอะไรประมาณนี้แต่ว่าก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอาไปทำเทรดจริงหรือเปล่า เพราะว่าเราแทบไม่เห็นอะไรเลย ที่เขาทำกับเงินที่เราลงทุน เลยไม่รู้ว่าเขาเอาไปทำโน่นทำนี่จริงหรือเปล่า ตามที่เขาพูดหรือเปล่า”
เครียดและโกรธ แต่ไม่ถึงขั้นซึมเศร้า
“ผมก็เครียดครับ มันเป็นเงินของผมด้วย แต่ผมไม่ถึงขั้นซึมเศร้า แต่ก็แบบ เศร้าแบบโกรธๆ เพราะว่าเงินที่เราหามามันก็เป็นเวลาที่เราใช้ทำงาน เวลานี้เราเสียไปก็รู้สึกโกรธมาก ทำไมเขาต้องทำกับเราแบบนี้ เป็นเงินก้อนใหญ่ก้อนแรกๆ ที่ลงทุนแบบนี้ ตัวผมก็เคยลงทุน อันนี้ก็เป็นก้อนใหญ่ก้อนนึง”
บอกเจอเรื่องนี้ทำให้ตนไม่ไว้ใจใครเลยแม้แต่คนใกล้ตัว
“คือผมไม่รู้ว่าพูดได้มากเท่าไหร่ว่าดีเทลพวกนี้มันอยู่ในคดี ตอนนี้กำลังดำเนินคดีอยู่ก็ยังไม่รู้ว่าพูดได้ถึงไหน ผมก็เสียใจเพราะว่าตังค์เราเสียใจช่วงนี้ก็หางานยากขึ้นด้วย ทุกคนก็ได้รายได้น้อย ยิ่งเป็นอะไรที่เป็นปัญหาของครอบครัวที่เราก็ต้องนึกถึงตลอด เพราะว่าเป็นเงินที่เราต้องใช้ มันก็มีความเสี่ยง เรารู้ความเสี่ยงอยู่แล้วแต่ว่าคือเราไม่รู้ว่าเขาเอาไปทำอะไรกับเงินเรา เราก็ต้องยอมรับ ตอนนี้ผมแทบจะไม่เชื่อใจใครแล้วครับ มันทำให้ผมกลัวคนที่จะเข้าหาไปเลย ไม่ว่าคนไกลคนใกล้เริ่มกังวลใจมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ผมไม่มีใครมาชักชวนเล่นเทรดหุ้น คนที่มาชวนเขาบอกว่ารู้จักกับทางคุณแม่ ผมก็เลยน่าจะเชื่อใจได้เพราะรู้จักกันมานานประมาณนี้ครับ นี่คือเหตุผลที่เชื่อแต่แรก”
ไม่รู้ “กานต์” โมโหเรื่องนี้จนจะย้ายครอบครัวไปอยู่อเมริกา ยันตนไม่คิดไปไหน ขอใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทย
“อันนี้ผมไม่รู้เลยครับ เขาพูดเล่นหรือเปล่า ไม่ใช่ครับ ผมบอกว่ามันไม่จริง (หัวเราะ) เขาแค่พูดตามภาษาเขา คุณแม่กำลังโกรธ (แม่เขียนในไอจีบอกดำเนินการจะเช่าบ้านที่นั่นแล้ว?) ไม่มี ไม่ๆ ตัวผมมีคิดว่าอยากไปเรียนต่อ ไปฝึกงานที่นั่นแต่ว่าตอนนี้เราก็อยู่ที่ไทย ยังไม่มีแพลนว่าจะไปเซ็ตอัปมีบ้านอยู่ที่นั่นครอบครัวอยู่ที่นั่น ตอนนี้ก็อยากทำงานอยู่ที่นี่ก่อน ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ก่อน ไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น ยืนยันว่าครอบครัวเราปักหลักอยู่ที่นี่ครับ ไม่ได้คิดว่าจะไปกันทั้งครอบครัว อันนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแม่ถึงโพสต์แบบนั้น ตัวผมไม่ได้คิดครับ ตัวผมไม่ได้ติดตามโพสต์เขา ไม่ได้ติดตามครอบครัวเท่าไหร่(ยิ้ม) คุณแม่เขาคงเครียด”
เผย “เสก” ก็รู้สึกโกรธเรื่องนี้เช่นกัน
“เขาก็รู้สึกโกรธเหมือนกันครับ รู้สึกไม่ดีเลยที่เราโดนเพราะว่าเงินนี้ก็เป็นเงินกลางของครอบครัวเรา ใช้เงินแบ่งกัน คุณพ่อคุณแม่เขาก็ใช้เลี้ยงน้อง 2 คน แต่ของผมก็เป็นของผมเองด้วยแต่คุณพ่อบอกว่าโกรธ ผมเป็นลูกเขา มันก็เป็นเรื่องใหญ่กับครอบครัว”
ยันเพจโลโซ “เสก”เป็นคนเล่นเอง “กานต์” ไม่ได้เป็นแอดมินคอยตามโพสต์ข้อความ
“อันนี้ผมไม่รู้เรื่อง เพราะว่าผมไม่ได้ติดตามพวกเฟซของพ่อแม่ (แต่เขาก็บอกว่าลักษณะการโพสต์ มีการเปลี่ยนไปแล้วหลังๆ กลายเป็นว่าเปลี่ยนเพจเสกโลโซมาทวงหนี้ ให้คุณแม่ด้วย เขาเชื่อว่าไม่ใช่คุณพ่อเล่นเอง?) เรื่องทวงหนี้เขาก็บอกแล้วว่าคุณแม่เป็นคนโพสต์เอง ส่วนมากคุณพ่อเล่นเอง ตามที่ผมรู้เพราะว่าผมไม่ได้เป็นแอดมิน ไม่ได้เช็กในเพจ”
แพลนต่อไปในชีวิตคือทำงานทั้งการแสดงและงานเพลงที่เมืองไทย
“เรื่องงานผมก็ทำงานต่อไปที่นี่ครับ มีเพลงที่จะออก ตอนนี้ก็กำลังเปิดกล้องถ่ายละคร กับค่ายพี่เอ็มมี่ (เอ็มมี่ แม็กซิม)น่าจะภายในเดือนหน้า เป็นพระเอก ส่วนงานเพลงเดี๋ยวจะมีออกเพลงฟีเจอริ่งกับแรปเปอร์ Younggu พี่พีท Younggu เขาเชิญผมไปฟีเจอริ่งผมกับคุณพ่อ ในเพลงนึงในอัลบั้มของเขา ติดตามกันได้ครับ ส่วนซิงเกิ้ลของผมน่าจะออกไม่เดือนนี้ก็เดือนหน้า เพราะตอนนี้ก็เริ่มทำไประดับหนึ่งแล้ว เป็นแนวแรป
คือผมวางไว้หลายเพลงอยู่ ที่แพลนไว้ที่เขียนไว้ ว่างๆ เขียนไว้ในโทรศัพท์ จด ใส่โน้ตไว้ ผมเป็นคนที่ชอบฟังเพลงหลายแนวมาก แนวรับแนวป๊อป เกาหลีก็ฟัง ผมก็อยากจะทำหลายๆ แนวที่เราความชอบแล้วก็เป็นอะไรที่ ผมคิดว่าศิลปินสามารถที่จะเปิดกว้างได้ สามารถที่จะเปิดแนวของเราได้ ไม่ต้องล็อกตัวเองไว้ในแนวเดียว ผมก็คิดว่าผมอยากทำแบบนั้นอยากจะมีเพลงออกมาแนวก็อาจจะไม่เหมือนกัน คนละฟีล”