“ฟองเบียร์” รีวิวชีวิตสุดขนลุก อยู่บนความเสี่ยงกับ “เส้นทางงูผ่าน” 3 วันจับได้ 14 ตัว รวมๆ เจอมาแล้วกว่า 30 ตัว ตั้งแต่งูเห่า งูสิงห์ งูเหลือม งูหลาม งูสามเหลี่ยม งูเขียวหางไหม้ ยอมรับคิดจะย้าย ขายบ้านทิ้ง
ในภาวะน้ำมามากกว่าปกติในช่วงเวลานี้ นอกจากทุกบ้านจะต้องเตรียมความพร้อมว่าน้องน้ำ จะเดินทางมาถึงบ้านเราเมื่อไหร่ อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องระวังก็คือบรรดาสัตว์ที่ต่างก็ต้องวิ่งหนีน้ำเช่นกัน ตรงไหนแห้ง ตรงไหนชื้น ตรงนั้นแหละคือที่พักพิงที่ใหม่ แต่สำหรับบ้านของนักแต่งเพลงชื่อดัง “ฟองเบียร์ ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม” ที่แม้จะมีเนื้อที่กว่า 150 ตารางวา ตั้งอยู่ในย่านราชพฤกษ์ แต่ต้อง “ระวัง”จน “ระแวง”ไม่รู้ว่าจะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญ จะมาเยือนเมื่อไหร่?
และแขกที่ว่านี้ก็คือเหล่าบรรดาสัตว์เลื้อยคลานตั้งแต่งูตัวน้อยอย่าง “งูเขียวหางไหม้” จนลุกลามใหญ่โตไปถึง “งูเหลือม”ยาว 4 เมตร หรือจะเป็น “งูเห่า” ที่โตเต็มวัยพร้อมฉกทุกสิ่งอย่างที่ขวางทางมัน ภายใน 1 ปีเจ้าของบ้านต้องต่อสู้กับการรุกรานของแขกไม่ได้รับเชิญกว่า 30 ตัว ซึ่งแรกๆ ก็เริ่มจากการเข้ามาในบ้าน แต่พักหลังๆ ก็ตระเวนไปทั่วบริเวณบ้าน
“ปัญหานี้เกิดขึ้นมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิด เกิดมาร่วมๆ 1 ปีแล้ว เริ่มจากครั้งแรกที่เราเจองูคืออยู่ในรางผ้าม่าน ตรงโต๊ะกินข้าว มันก็เลี้ยวเข้าไปในหลอดไฟดาวไลท์บนเพดาน ต้องรื้อเพดานหางูกันจนต้องทำฝ้าใหม่หมดไปครึ่งแสน ซึ่งก็หาไม่เจอ เราก็คิดว่ามันยากมากที่จะมีงูอยู่ในบ้าน เวลาก็ผ่านไปหลายเดือน เราก็มีประชุมทีมกันที่บ้าน และเราก็เห็นว่าข้างหลังลูกน้องเรามีจิ้งจกอยู่ตัวนึง ทำไมจิ้งจกตัวนี้เราเห็นแค่ครึ่งตัว ทำไมมันตัวตรงจัง เราก็เลยเดินไปดูใกล้ๆ คืออีกครึ่งตัวมันอยู่ในปากงู เราเริ่มเอะใจว่ามาอยู่ในบ้านได้ไง
อันนี้ตัวที่สองแล้วนะ เป็นงูเขียวหางไหม้ ซึ่งเราก็เริ่มคิดแล้วว่าเราต้องอุดรูต่างๆ ที่มันจะเข้ามาในบ้าน และมีอยู่วันนึงคนขับรถของเราก็บอกว่า นายครับ ผมเจอไข่อะไรก็ไม่รู้อยู่ตรงทางเดินเข้าบ้านนาย เจอ 1 ฟองฟักเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วยครับ และเราก็บอกว่าดูดีๆ นะ แล้วก็กวาดดินแถวๆ นั้นเจออีกฟอง และตรงนั้นก็มีรูปูนอยู่ ก็เอามือเข้าควานในรูนั้น ก็เจออีกฟอง ตอนนี้เป็น 3 ฟองแล้วนะ แต่ทุกฟองคือฟักออกไปหมดแล้ว และเราก็ไปเสิร์ชหาว่าเป็นไข่อะไร แต่ภาวนาว่าไม่ให้เป็นไข่งู สรุปเป็นไข่งู คือเหมือนกับที่เราเจอเลย คือมันไม่ได้แค่หลงมา มันมาเป็นแฟมิลี่เลย และเราเคยดูรายการอสรพิษวิทยา ของคุณนิค นิรุทธ์ เลยตัดสินใจเปิดดูยูทิวบ์เขา และส่งอีเมลไปเล่าให้เขาฟัง ก็ขอความช่วยเหลือให้เขามาดูหน่อย
พอเขามาดู เขาก็บอกว่าสบายใจได้มันเป็นไข่ตัวเงินตัวทองทั้งสามฟอง เราก็ดีใจ เดินออกไปโทรศัพท์บอกภรรยาว่าเป็นไข่ตัวเงินตัวทอง แต่พอวางหูเสร็จและเดินกลับเข้ามา นิคบอกว่าพลิกดูด้านในแล้วมันเป็นไข่งู (หัวเราะ) อ้าว...ไหนบอกว่าไข่ตัวเงินตัวทอง เขาบอกว่าใช่มันเหมือนกัน แต่นี่เป็นไข่งูเหลือม ระบุชนิดให้เราไปอีก (หัวเราะ)คือเขาอธิบายว่าถ้าเป็นไข่ตัวเงินตัวทองมันจะทะลุออกมาเลย แต่ถ้าเป็นไข่งู มันจะใช้เขี้ยวกรีดออกมา สรุปมันคือรังงูเหลือม เราก็เลยตัดสินใจโทร.หา SCG ขอให้ช่างปูนมาโบกปิดทุกรูที่คาดว่างูมันจะเข้ามาได้
แต่ระหว่างที่รอช่างมานั้น ทีมอสรพิษก็บอกว่าจะวางตาข่ายดักเอาไว้ให้ เพราะผู้อาศัยร่วมที่อยู่ใต้บ้าน ภายใน 1 อาทิตย์มันต้องออกมาหาอาหารกินแน่นอน และพอผ่านไป 10 วันทั้งคิวช่างก็ยังไม่ได้ และงูก็ไมได้ออกติดกับเลย เราก็เลยถามนิคว่ามันไม่มีงูอะไรออกมาเลย และนิคบอกว่าไข่ที่เอากลับไป น่าจะออกมาปีกว่าแล้ว และครอบครัวนี้น่าจะไปเจริญเติบโตที่อื่นแล้ว
แต่ตอนที่ส่องไฟไปใต้บ้าน ดินบริเวณนั้นมันมีความเหลือบ ซึ่งก็แปลว่ายังมีบางสิ่งเข้าออกอยู่ แต่ตอบไม่ได้ว่าเป็นสัตว์ชนิดใด นิคเลยขอให้ยังไม่ปิดรู เพราะเขาไม่อยากฆ่าสัตว์ และพอครบ 14 วันมันก็ยังไม่มีอะไรออกมา นิคก็ขับรถมาจากบ้านโป่ง ผมก็เลยบอกว่าขอลองให้เอาเหยื่อมาล่อได้ไหม ซึ่งนิคไม่อยากฆ่าสัตว์ เขาก็เลยแนะนำให้เอาถาดอาหารที่มีอาหารและเหยื่อของหนูแฮมเตอร์มาล่อ เพราะงูมันจะได้กลิ่นเร็วมาก
ระหว่างนั้นก็มี รปภ. เดินมาบอกว่ามีงูอยู่กลางถนน นิคเขาก็บอกว่าไหนๆ มาแล้วเดี๋ยวผมไปจับให้ และพอจับงูเสร็จ เขาก็มาส่งเราที่บ้าน เราก็เลยบอกว่าไหนลองไปดูที่กับดักสิว่ามีอะไรเกิดขึ้นไหม พอขยับกับดัก งูเห่า มันอยู่ในกรงแล้ว ซึ่ง 14 วันไม่มีงูมาเลย แต่แค่วนรถไปจับงูในหมู่บ้าน และกลับมาก็เจอเลย และอันนี้เท่าที่เดาคือ 14 วันที่มันไม่ออกมา มันก็ทนหิว และท้ายที่สุดมันก็ทนไม่ได้ เป็นงูเห่าไซส์วัยรุ่น เป็นไซส์ที่พิษกำลังกัดตายเลย
หลังจากนั้นก็ตัดสินใจให้ช่าง SCG มาปิดเลย ปิดทุกรูที่คาดว่ามันจะเข้ามาได้ และบ้านเราประมาณ 150 วา บางทีเราก็ไม่ได้สังเกตหมดว่าตรงไหนบ้าง หลังจากเขาปิดเสร็จ 2 วันก็ไม่มีงูมาเลย แต่มันมีต้นมะยมต้นนึง ขณะที่เรากำลังนั่งกินกาแฟอยู่ เราเห็นหัวงูเห่าแผ่แม่เบี้ยอยู่ที่ต้นมะยม ปรากฏว่าใต้ต้นมะยมมันเหลือรูเล็กๆ อยู่รูนึง เราก็โทร.หานิค นิคก็บ้าจี้ขับรถมาจากราชบุรี แล้วบอกให้เรานั่งเฝ้าไว้ ก็ให้คนขับรถกางเก้าอี้นั่งเฝ้าไม่ให้มันไปไหน พอนิคมาถึงนั่งเฝ้าไป 5 ชม. มันก็ไม่ออก เอาไม้เขี่ยเข้าไปคือโดนตัวมันแน่นอน แต่มันก็ไม่ออก ยืนยันว่าไม่ใช่รากมะยมแน่นอน ซึ่งเราก็ตัดสินใจว่าจะเอาปูนมาโบกปิดรูนั้น ซึ่งถามว่าบาปไหม ก็คือบาป แต่เราจะมานั่งลุ้นว่ามันจะออกมากัดเราเมื่อไร นี่มันงูเห่าไม่ใช่งูเขียว ตอนนี้มันคงเป็นฟอสซิสอยู่ในนั้นแล้วล่ะ”
และเมื่อตัดสินใจอีเมล์หา “นิค นิรุทธ์ ชมงาม” ผู้เชี่ยวชาญเรื่องงูของประเทศไทยพร้อม “ทีมอสรพิษวิทยา” จากนั้นบ้านหลังนี้ก็เปิดฉากรับแขกไม่เว้นแต่ละวัน และแขกแต่ละตัวที่แวะเวียนมานั้น พูดเลยว่าไม่ธรรมดา ไม่ใช่งูตามท้องตลาด แต่เป็นงูในอันดับท็อปไฟว์ของประเทศก็ว่าได้
“หลายคนก็เริ่มพูดว่าบ้านเรางูเยอะ นิคก็บอกว่างูมันไม่มีหู เราพูดอะไรมันไม่รู้สึก แต่จุดสัมผัสของมันใต้ท้อง การที่เราเดินไปไหนบนพื้น นั่นแหละมันคือแรงสั่นสะเทือนทำให้มันรู้สึก เอาจริงๆ งูมันก็ไม่อยากปะทะมนุษย์นะ และถ้าเราใช้สนาม กินข้าวกัน งูมันไม่ออกมาหรอก หลังจากกลายเป็นว่าเราจัดปาร์ตี้ หมูกระทะที่สนามทุกวัน และตั้งแต่จัดปาร์ตี้ไม่เคยเจองูเลย จนวันที่เอ๊ะ จิรากรมาบ้าน นั่งกินไปสักพักนึง เราก็บอกว่าทุกคนนั่งนิ่งๆ ก่อนนะบอกพี่เอ๊ะว่าข้างหลังพี่มันโคตรเหมือนงูเลย (หัวเราะ) และบอกว่าอย่าขยับนะ ตัวใหญ่มากยาวเกือบ 3 เมตร มองไกลๆ มันเหมือนท่อนพีวีซียาวๆ เราเลยตัดสินใจเอาไฟฉายไปส่อง มันคืองูเหลือมไซส์แบบพ่อพันธุ์เลย และพองูมันเห็นว่ามีคนเห็นมันแล้ว มันก็เลื้อยหนี
น้าเอ๊ะก็กำลังได้ที่ ก็ตะโกนบอกว่าเดี๋ยวผมถ่ายวิดีโอให้เอง และมันมุดตัวไปที่ถังเก็บน้ำหลังบ้าน จนมันมุดตัวและออกไปที่ป่าหลังบ้าน ซึ่งเราก็เพิ่งเห็นว่ามีโพรงนี้ด้วย ก็เลยต้องบอก SCG ต้องมาปิดโพรงนี้ด้วย และก็บอกนิคว่ามีไอเทมใหม่แล้ว เดี๋ยวเอาคลิปที่น้าเอ๊ะถ่ายมา ส่งให้ สรุปในคลิปมีแต่พื้น และเห็นงูแว๊บเดียว (หัวเราะ)แต่น้าเอ๊ะก็ยืนยันว่าผมถ่ายให้แล้ว (หัวเราะ) แต่นิคก็คือเก่งมากเห็นงู 1 วินาทีจำลายได้ นิคก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะเฝ้าดูให้ เพราะงูมันชอบออกมาเวลาเดิมๆ งูมันเหมือน รปภ. มันมีกะเช้ากะเย็น วันแรกไม่เจอ มาเจอวันที่ 2 ยาว 3 เมตรกว่ามันอยู่ตรงรั้วหลังบ้าน นิคบอกว่ามันรอจังหวะเข้ามา
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เพียงไม่กี่เดือน นับย้อนกลับไป 10 วัน เราก็นั่งอยู่โต๊ะกินข้าว มองออกไปที่ระแนงเหล็กนอกบ้านตรงรั้ว เห็นงูเขียวหางไหม้พันที่รั้วเหล็ก ก็เรียก รปภ. มาจับแต่มันก็เลื้อยหนีไป เราก็เรียกคนสวนมาตัดต้นไม้ทิ้ง วันที่สองก็นั่งที่เดิมเจออีกตัว ทำไมรู้ว่ามันเป็นอีกตัว เพราะมันคนละไซส์ ก็โทร.บอกว่านิคว่า เทศกาลงานงู กลับมาอีกแล้ว จากนั้นวันที่ 3 ก็เจออีก แต่มันคนละไซส์ จน รปภ. ส่งรูปมาให้ดูว่าเจองูเหลือมท้องป่องเพราะเพิ่งกินแมวเข้าไป เลยส่งให้นิคดู เราก็เลยบอกว่ามึงหาเวลามาได้หรือยัง (ยิ้ม) นิคบอกว่ามะรืนเดี๋ยวแวะเข้าไป
แต่พอวันรุ่งขึ้นได้งูเหลือมที่ตัวใหญ่กว่าตัวเมื่อวานอีก จับได้ที่หน้าบ้านตรงข้ามเรา นอนอาบแดดยาว 4 เมตร และพอวันที่นิคจะมา ก็จับได้งูทางมะพร้าวโตเต็มวัย ยาว 3 เมตรพันอยู่ที่ล้อมอเตอร์ไซค์ พอนิคมาถึง ก็สรุปให้ว่าตอนนี้น้ำท่วม งูทุกสายพันธุ์หนีน้ำ ตรงไหนแห้งมันก็จะอยู่ตรงนั้น และบ้านเราคือติดป่าเป็นหลังแรกๆ ถ้าเปรียบเป็นสุวรรณภูมิ บ้านเราก็คือ ตม. ที่มันต้องมาเช็กอิน มาพักคอย เป็นทางผ่านของงูเพื่อจะไปที่อื่น (ยิ้ม) ประมาณว่ากูเลื้อยมาเหนื่อย กูขอพักแป๊บนึงให้มึงเห็นชัดๆ ไปเลย (หัวเราะ) บ้านเราพื้นที่กว้าง มีกบเขียดบ้าง ก็แวะกินสักหน่อย เหมือนบ้านเราเป็นเลานจ์บิสสิเนสคลาสเลย (หัวเราะ)”
แม้จะปกป้องด้วยการอุดทุกรูรอบบ้านแล้ว ยังต้องกางตาข่ายเพื่อไม่ให้งูเข้ามาในตัวบ้าน แต่เพียงวันเดียวจับงูได้ 4 สายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น งูเห่า, งูสิงห์, งูเขียวหางไหม้ หรือจะเป็นงูหายากอย่าง “งูสามเหลี่ยม” รวมไปถึง “ตัวเงินตัวทอง” ที่ไซส์ใหญ่พอๆ กับจระเข้เลยก็ว่าได้
“เมื่อก่อนเจอในบ้านเยอะมาก แต่หลังๆ เจอตามขอบรั้ว เพราะนิคเอาตาข่ายมากันรอบบ้าน บวกกับให้ SCG มาเทปูนปิดรอบบ้านให้หมด และนิคก็เริ่มสำรวจรอบบ้าน เราก็บอกว่าถ้าเจออะไรก็วิดีโอคอลมาบอกแล้ว ในที่สุดก็เจอและที่ไม่ลงรูปก็เพราะหลายคนที่ติดตามเราในไอจีก็บอกว่า พี่เบียร์อย่าลงรูปเลย คนอื่นเขากลัว สรุปวันนั้นจับได้ 4 ตัว ได้งูสามเหลี่ยมที่โตเต็มวัย และเป็นหนึ่งในงูที่หายากมากแต่อยู่ข้างรั้วบ้านเรา จากนั้นก็จับได้งูเห่า งูสิงห์ งูเขียวหางไหม้อยู่ตำแหน่งหลังบ้าน
คือถ้าเราไม่ปิดรู มันก็เข้ามาได้แน่นอน เพราะข้างหลังเป็นป่าประมาณ 10 กว่าไร่ แต่เจ้าของเขาไม่ยอมขาย ซึ่งหมู่บ้านเรายังเป็นหมู่บ้านใหม่แม้จะ 20 ปีแล้วก็ตาม นอกจากนั้นก็มีตัวเงินตัวทองตัวใหญ่กว่าที่โพสต์ลงไปอีก นึกว่าเป็นจระเข้ คือมันมา 2 ตัว จับได้ตัวนึง อีกตัวก็กระโดดขึ้นรั้วออกไปแบบชิลๆ มากเลยแต่นิคก็บอกโชคดีที่เจอตัวเงินตัวทอง เพราะอาหารของมันก็คืองูเห่า มันชอบกินงูเห่า แต่ตัวเงินตัวทองก็จะถูกงูเหลือมกินอีกทีถ้างูเหลือมใหญ่พอ เพราะรูปล่าสุดที่โพสต์ไปคืองูเห่าที่โตเต็มวัย พิษร้ายแรง
ถามว่าเราใช้ชีวิตยังไง ส่วนใหญ่เราอยู่แต่ในบ้านไม่ค่อยได้ออกมานอกบ้านสักเท่าไหร่ คือลูกสาวก็เรียนออนไลน์อยู่ในบ้าน ภรรยาก็เป็นแม่บ้าน เราก็งานอยู่ในบ้าน อาหารเราก็โทร.สั่งมากิน หรือถ้าไปออกกำลังกายหน้าบ้านไหม คือลูกสาวเราก็เรียนเต้นแจ๊สชั่วโมงนึง เรียนบัลเล่ต์ เขาก็เหนื่อยแล้วทุกอย่างก็จบในบ้านไปหมดแล้ว
แต่ที่พีกๆ ก็คือเราจัดปาร์ตี้หน้าบ้าน 3 วันเราจับได้ 14 ตัวทั้งงูเหลือม งูหลาม งูเห่า งูสามเหลี่ยม งูเขียวหางไหม้ แทบจะโปสเตอร์การศึกษาว่าวิชานี้สัตว์เลื้อยคลานมีดังนี้นิคก็แนะนำว่าอยู่ยังไง ไม่ให้โดนงูฉก เพราะยังไงมันก็เลี่ยงไม่ได้ นิคบอกว่าเกิน 50% ของทุกบ้านมีงูอยู่แน่นอน ถ้าเห็นจิ้งจกในบ้าน อาจจะอยู่บนฝ้า ส่วนมากจะเป็นลูกเขี้ยวพระอินทร์ ซึ่งไม่มีพิษ แต่ก็สามารถกัดได้ เจ็บพอๆ เหมือนเราฉีดวัคซีน เป็นงูสามัญประจำบ้านมันมาพร้อมจิ้งจก”
ยืนยันว่าครั้งนึงคิดจะขายบ้านและย้ายออก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เจ้าตัวไม่โทษใคร และการที่งูเข้าบ้านบ่อยๆ ก็ไม่ใช่เรื่องโชคลาภ เพราะถ้าแลกกันได้ ขอให้ไม่มีโชคดีกว่างูเข้าบ้านบ่อยขนาดนี้
“ก็เคยคิดจะย้ายออกนะ ให้คนมาประเมินราคาขาย และก็จะมีคนมาซื้อแล้วด้วย แต่เอาจริงๆ เรามองว่ามันไม่ใช่ความผิดของสัตว์ ข้อที่สองอาจจะเพราะเราเป็นคนช่างสังเกตระวังจนระแวงทุกย่างก้าว ซึ่งถ้าเราไม่ไปสังเกตก็อาจจะไม่เห็นมันก็ได้นะ นิคบอกว่างูทุกชนิดมันไม่ได้อยากให้คนเห็น และกลัวคนจะตาย แต่เราเห็นจนติดตา ลูกและเมียแทบจะไม่เคยเจองูเลย นอกจากเราเรียกเขามาดู ซึ่งทางหมู่บ้านก็แซวๆ ว่าบ้านคุณเบียร์ต้องมีอะไรดีแน่ๆ เลย ซึ่งบ้านคนอื่นเขาก็ไม่เจออะไรแบบบ้านเราเลย รปภ.ยังบอกเลยว่าไม่เคยงูเลย สมาชิกในกรุ๊ปหมู่บ้านกว่า 200 กว่าคนเคยมีคนโพสต์เจองูไม่เกิน 2 ครั้ง อันนี้ไม่รวมบ้านเรานะ เพราะถ้ารวมฮิตทั้งในบ้านและนอกบ้านรวมๆ เกือบ 30 ตัว
และอุตส่าห์ซื้อเลขบ้าน ก็ไม่เคยออกเลย บางทีก็ซัดแบบเต็มๆ เลย ในวันที่น้าเอ๊ะมาแล้วเจองูที่ตัวใหญ่ที่สุดครั้งนึง เราก็เลยต้องจัด ทุกคนพูดเลยว่านี่คือเวลาของเราแล้ว เราก็จัดหนักไปเลย สรุปก็ไม่ออก กลายเป็นว่าไม่ต้องถามแล้วว่าเหตุการณ์นี้มันคือเหตุการณ์อัศจรรย์ แต่มันคือสถานที่ทางผ่านของงู ไม่ใช่สิทธิพิเศษที่เลขมันจะมา ตัดเรื่องไสยศาสตร์ออกไปเลย
และถ้าแลกกันได้ ไม่ต้องมีไสยศาสตร์เลยถ้าแลกกับการไม่มีงู และเราก็ไปถามลูกสาวว่าขายบ้านไหมลูก เพราะนิติฯ ก็บอกว่ามีคนอยากจะซื้อบ้านเหมือนกัน ลูกสาวก็บอกว่าไม่ขายของทุกอย่างที่เป็นของป๋า แต่เอาจริงๆ ใจลึกๆ ก็ไม่ได้อยากขายนะ เพราะทุกอย่างมันไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น เพราะตั้งแต่เล่ามาเนี่ยก็ยังไม่มีใครโดนฉก ไม่มีอุบัติเหตุจากงูเลย แต่ถ้าวันนึงเราโดนทำร้าย เราอาจจะขายก็ได้ และทุกครั้งนิคจับงูมาให้ และสิ่งหนึ่งที่งูทุกตัวทำคือพอเทออกมาจากถุง มันเลื้อยหนีเลยทุกครั้ง แต่เราก็ขอขอบคุณนิคและทีมอสรพิษวิทยา เพราะบางคนเขาก็กลัวจริงๆ ตอนนี้เขาก็ไปช่วยบ้านที่น้ำท่วมเพราะงูมันขึ้นบ้าน”
