กลายเป็นตลาดหนังที่ใหญ่ที่สุดเคียงคู่กับฮอลลีวูดไปแล้วสำหรับตลาดหนังจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการระบาดของ COVID-19 ที่ตลาดหนังหลายๆ ประเทศได้รับผลกระทบทว่ามีเพียงประเทศจีนเท่านั้นที่ธุรกิจวงการภาพยนตร์ยังพอไปได้
โดยตัวเลขรายรับจากหนังเรื่องต่างๆ ในตลาดหนังจีนยังคงสูงอยู่จนปีที่แล้วหนังจีนคว้าอันดับหนึ่งของหนังทำเงินสูงสุดแห่งปีและปีนี้ก็จะทำได้เป็นปีที่สองติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ด้วยการเติบโตของของตลาดก็ทำให้ผู้ผลิตต่างผลิตหนังออกมามากมายแต่ละปีสร้างหนังกันเป็นร้อยเรื่องและนั่นก็ย่อมจะส่งผลไปถึงเรื่องคุณภาพอย่างช่วยไม่ได้
หลายเรื่องเป็นหนังฟอร์มใหญ่ ใช้ทุนไม่ใช่น้อย แต่สุดท้ายนั้นกลับออกมาน่าผิดหวัง บางเรื่องวางแผนจะสร้างภาพต่อยืดยาวก็ต้องจอดอยู่เพียงภาคเดียวเท่านั้นและนี่คือ หนังห้าเรื่องที่ชาวจีนมองว่าย่ำแย่ที่สุดแล้วนับตั้งแต่ที่พวกเขาเคยดูหนังมา
อันดับ 5 Just Another Margin หรือ "ผู้กล้าเขาเหลียงซานฉบับพิสดาร" ผลงานจากฝั่งฮ่องกงแต่เน้นขายที่จีนแผ่นดินใหญ่เป็นหลัก เป็นหนังตลกล้อเลียนมีฉากล้อเลียนหนังดังหนังหลายเรื่องระดมดาราดังๆ ไว้ไม่ใช่น้อย ทั้ง เจิ้งอี้เจี้ยน แถมยังมี ซุนลี่ หลินเกิงซิน แต่ตัวหนังกลับออกมาดูไม่จืด
กลายเป็นหนังตลกฝืด ที่ดูเอาขำก็ยังแทบจะไม่ได้
ที่น่าเสียดายก็คือนี่เป็นผลงานของผู้กำกับที่เคยรุ่งเรืองเจ้าของผลงานคลาสสิกอย่าง "คนตัดเซียน" และ "มังกรหยกหยกก๋าหว่า" ที่วันนี้ต้องยอมรับว่า "มือตก" สุดๆ ขณะที่นักแสดงดังๆ เองที่มาเล่นหนังเรื่องนี้เพราะความสนิทชิดเชื้อกับตัวผู้กำกับก็ถูกคนดูอดสงสัยไม่ได้ว่าได้อ่านบทกันบ้างรึเปล่าถึงรับเล่นหนังเรื่องนี้ได้
อันดับ 4 เป็นหนังตลกแอ็กชั่น I Love Wing Chun ที่คนพลาดไปดูบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งไม่ตลกและทั้งไม่แอ็คชั่น เป็นหนังทุนไม่ค่อยสูงที่รวมดาราหน้าคุ้น แต่คนดูน่าจะจำชื่อกันไม่ได้ไว้หลายคน โปรดักชั่นก็ดู คุณภาพระดับหนังแผ่น
จุดขายจุดเดียวในหนังก็น่าจะเป็นตัวพระเอกที่คนไทยเราไม่น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาอะไร แต่สำหรับคนจีนเพราะหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเป็นฮีโร่ระดับเหรียญทองโอลิมปิกจากกีฬาว่ายน้ำ 2 สมัยนั่นเอง
อันดับ 3 เป็นอนิเมชันเรื่อง Enchanted Mirror Romance หรือ "สโนไวท์กับกระจกวิเศษ" เวอร์ชั่นจีนนั่นเอง
เนื้อหาของหนังเป็นภาคต่อของสโนว์ ที่เด็กๆและผู้ปกครองส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยกันดี และสาเหตุดังกล่าวพ่อแม่จีนหลายคนก็เลยตีตั๋วไปดูหนังเรื่องนี้แบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร สุดท้ายก็เลยต้องพบกับหนังอะนิเมชันที่ห่วยที่สุดเรื่องหนึ่งของจีน หลายคนกลับบ้านมาระดมกดคะแนนศูนย์กันเต็มเว็บไซต์ กลายเป็นรอยด่างแอนิเมชั่นจีน ในช่วงที่วงการกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นแท้ๆ
อันดับ 2 Toy War การ์ตูนอนิเมชันว่าด้วยเรื่องเมื่อด็อกเตอร์สติเฟื่องที่หวังใช้ของเล่นไฮเทคล้างสมองเด็กจีน จตุกตาหมีและผองเพื่อนก็เลยต้องลุกขึ้นมาเพื่อต่อสู้ปกป้องกับเด็กๆ
ใช่แล้วนี่ก็คือทอยสตอรีฉบับจีนแผ่นดินใหญ่นั่นเอง แถมผสมกับหมี Ted เข้าไปด้วย กลายเป็นงานที่ชาวจีนหลายคนบอกว่าอับอายเหลือเกินกับผลงานของประเทศตัวเองเรื่องนี้ ที่เหมือนเอาหนังฮอลลีวูดสองสามเรื่องมายำแบบไม่มียางอายกลายเป็นงานที่ถูกโหวตให้ห่วยที่สุดเป็นอันดับสอง
ขณะที่อันดับที่ 1 หนังห่วยสุดนั้นตกเป็นของหนังเรื่อง Pure Hearts: Into Chinese Showbiz หนังว่าด้วยการสร้างภาพยนตร์ของไอ้หนุ่มคนหนึ่งที่ใฝ่ฝันอยากเป็นคนทำหนัง โดยระบุว่าสร้างจากแรงบันดาลใจของหนุ่มจีนที่ชื่อว่า ปิ่ จื้อเฟย ที่ทั้งกำกับเองเขียนบทเองและแสดงนำเอง ด้วยทุนสร้างจากพ่อตา
โดยเจ้าตัวคุยว่าใช้เวลาสร้างหนังเรื่องนี้นานถึง 12 ปี เพื่อเผยถึงด้านมืดของวงการหนัง ให้ทุกคนได้รับรู้การ แต่งานที่ออกมากลับเรียกได้ว่าสุนัขไม่รับประทาน กลายเป็นหนังห่วยที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการหนังจีน
ไม่เพียงเท่านั้นเจ้าของหนังยังเปิดศึกเว็บไซต์ให้คะแนนหนังสไตล์ IMDB ของจีนที่ให้คะแนนหนังเรื่องนี้ต่ำแค่ 3.1 เต็ม 10 ว่ามีอคติให้คะแนนหนังของเขาต่ำเกินความเป็นจริงอีกต่างหาก
