หลังวงการบันเทิงต้องสูญเสียคนคุณภาพไปอีกหนึ่งคน เมื่อ “เสนาโค้ก” สมชาย เปรมประภาพงษ์อดีตพิธีกรรายการดังในตำนาน “ยุทธการขยับเหงือก” เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา โดยครอบครัวได้นำร่างมาประกอบพิธีทางศาสนาที่ศาลาจารุมิลินท วัดชลประทานรังสฤษดิ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และทำพิธีฌาปนกิจ วันนี้ (21 ก.ย.)
สำหรับกำหนดการสำคัญต่างๆ ภายในงาน เวลาประมาณ 12.30 น. ครอบครัวได้เคลื่อนศพของพิธีกรผู้ล่วงลับจากศาลาจารุมิลินท มายังเมรุเพื่อทำพิธีประชุมเพลิง เวลา 14.00 น. โดย “น้องสมาย” รสธร เปรมประภาพงษ์ ลูกสาวของเสนาโค้กเป็นผู้ถือภาพถ่ายของผู้เป็นพ่อเดินนำ โดยมี “เบญจรัตน์ เปรมประภาพงษ์"ภรรยาของเสนาโค้กเดินเคียงข้าง ส่วนลูกชายคนเล็ก “มาวิน เปรมประภาพงษ์” ไม่สามารถมาร่วมงานได้เนื่องจากเรียนหนังสืออยู่ที่อเมริกา
นอกจากนี้ยังมีเพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิงมาร่วมส่งดวงวิญญาณเป็นครั้งสุดท้าย อาทิ หนูแหม่ม สุริวิภา กุลตังวัฒนา และสามี, ติ๊ก กลิ่นสี, เปิ้ล นาคร ศิลาชัย, เสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร, เจี๊ยบ วัชระ ปานเอี่ยม, อั๋น วัชระ แวววุฒินันท์, ซูโม่ตุ๋ย อรุณ ภาวิไล ฯลฯโดยทีมเสนาทุกคนได้พร้อมใจกันใส่ชุดยูนิฟอร์มของพิธีกรรายการยุทธการขยับเหงือก เมื่อ 25 ปีที่แล้ว มาร่วมย้อนวันวานและไว้อาลัย พร้อมเปิดใจว่า
หนูแหม่ม : “เรื่องชุดนี่เป็นไอเดียของพี่เพชรก่อนคนแรก แล้วก็บอกให้เรามารอที่นี่ เดี๋ยวเอาชุดมาให้ใส่มาส่งพี่โค้ก”
ติ๊ก : “เสนาเพชรไปเอาชุดมาจากเจเอสแอลมาให้ใส่กัน เขาบอกยังใส่สบายอยู่เลยเนอะ สบายอะไรล่ะ แน่นมาก”
ตุ๋ย : “ไม่ได้รวมตัวกันกี่ปีแล้วน่ะเหรอ ประมาณ 24-25 ปี”
หนูแหม่ม : “ได้ใส่ชุดแบบนี้และกลับมารวมตัวกันอีกทีก็วันนี้เลย 20 กว่าปี”
เปิ้ล : “มันเป็นเหมือนยูนิฟอร์มแห่งความสำเร็จนะ เป็นชุดตั้งแต่ที่เรายังเป็นเด็กๆ กัน และเราก็ได้โอกาสมาทำกิจกรรมร่วมกัน คนไทยทั้งประเทศตอนนั้นมีความสุขมากๆ ภายใต้ชื่อยุทธการขยับเหงือก ซึ่งมีพวกเราเป็นเด็ก เป็นนักศึกษาที่จบมาใหม่ๆ มารวมตัวกัน เรียกว่าเป็นงานชิ้นแรกๆ ในวงการบันเทิงที่พวกเราได้มีโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัวกันจนมาถึงทุกวันนี้ ก็คือชุดเสนาของยุทธการขยับเหงือกของพวกเรานี่แหละ จริงๆ เรายังมีอีกหลายคนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเสนาหอย, เสนาโน้ส อุดมหรือพระโน้ส, เสนาลิง, พี่กิ๊ก เกียรติ กิจเจริญ”
ตุ๋ย : “วันนี้ก็มาส่งพี่โค้กนะครับ เขาหมดกรรมไปแล้ว แต่พวกที่เหลือคือยังมีกรรมอยู่ ต้องอยู่ชดใช้กรรมกันต่อไปเนอะ ก็มาส่งเขา เขาไปดีแล้ว”
แหม่ม : “ถามว่าความน่ารักของพี่โค้กมีอะไรบ้าง ความจริงพี่โค้กเป็นพี่ใหญ่ เป็นคนที่คอยช่วยดูทุกอย่าง เวลาที่มีใครด่าเราหรือตำหนิเรา พี่โค้กจะออกหน้าให้ตลอด ก็คือรับผิด รับชอบทุกอย่างของพวกเรา ดูคิวให้ ดูแลน้องๆ ตบๆ ให้มันเป็นไปในทิศทางนี้ คือเป็นรุ่นพี่ผู้ใหญ่ที่คอยดูแลพวกเราตลอด เพราะฉะนั้นวันนี้ก็จะเป็นวันที่เรามาส่งพี่เขาเป็นวันสุดท้าย ก็บอกว่าเราส่งพี่ได้แค่นี้นะ เดี๋ยวก็เจอกัน แต่ว่าเจอพี่ติ๊กก่อน (หัวเราะ)”
ตุ๋ย : “จริงๆ แล้วพี่โค้กเขาไปเคลียร์ที่ให้พี่ติ๊กใช่ไหม”
หนูแหม่ม : “ใช่ (หัวเราะ) ก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้เรารู้สึกระลึกถึงพี่ได้นอกจาก คือหลายคนอาจจะมองว่าแค่นี้เหรอ แต่มันคืออย่างที่พี่เปิ้ลพูดไปหมดแล้ว คือยูนิฟอร์มแห่งความสำเร็จของพวกเรา พวกเราเกิดมาจากตรงนี้ด้วยกัน เพราะฉะนั้นวันนี้เราทำสิ่งที่สามารถทำได้ดีที่สุดก็คือมาส่งพี่ด้วยชุดนี้กันค่ะ ช่วงเวลานั้นเรามีความสุขในการทำงานกันมาก มีครบรสเลยค่ะ”
จากนั้นเหล่าเสนาร่วมร้องเพลงยุทธการขยับเหงือก และหนูแหม่มก็ตะโกนหันไปที่เมรุว่า “โชคดีค่ะพี่โค้ก”