‘Squid Game’ ซีรี่ส์แนวระทึกขวัญจากเกาหลีใต้ กำลังสร้างความฮือฮาในหลายประเทศหลัง Netflix ปล่อยออกมาให้ชมกันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ในเกาหลีใต้เองกลับมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าซีรีส์เรื่องนี้อาจจะลอกการ์ตูนจากประเทศญี่ปุ่น เพราะมีเนื้อหา และองค์ประกอบในบางจุดที่คล้ายกันเกินกว่าจะเป็นความบังเอิญ
และการ์ตูนญี่ปุ่นที่ว่าก็คือผลงานฮิตเรื่อง As the Gods Will หรือ “เกมเทวดา” เคยถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์มาแล้ว โดยการ์ตูนต้นฉบับตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 2011 ส่วนเวอร์ชั่นภาพยนตร์เข้าฉายในปี 2014
แน่นอนว่าผลงานทั้งสองเรื่องมีเนื้อหาที่แตกต่างกันพอสมควร As the Gods Will เล่าเรื่องของกลุ่มเด็กนักเรียนที่ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองต้องร่วมแข่งเกมส์สุดโหด เพื่อเอาตัวรอดไปให้ได้ ขณะที่ Squid Game เล่าถึงกลุ่มคนที่มาร่วมแข่งเกมโชว์เพื่อชิงเงินรางวัล 45,600 ล้านวอน ด้วยการเอาชีวิตเข้าแลก
แต่แม้จะมีเนื้อหาที่แตกต่างกันพอสมควร ผู้ชมชาวเกาหลีใต้บางคนก็รู้สึกว่าผลงาน ของเกาหลีดูมีความใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ของ As the Gods Will มาก ทั้งลักษณะท่าทาง ของตุ๊กตาที่เป็นอุปกรณ์สำคัญในการเล่นเกม รวมถือเกมบางเกมในผลงานทั้งสองชิ้น ก็มีความใกล้เคียงกันมาก
อันที่จริงแล้วกระแสวิจารณ์ดังกล่าวมีขึ้นตั้งแต่ Squid Game ปล่อยทีเซอร์ออกมาแล้ว ซึ่งตอนนั้นผู้กำกับได้ออกมายืนยันว่าเขาไม่ได้ลอก หรือได้รับอิทธิพลมาจากผลงานจากญี่ปุ่นแต่อย่างใด อันที่จริงก็เขียนบทซีรีส์เรื่องนี้เอาไว้นานเป็นสิบปีแล้ว ความคล้ายที่เกิดขึ้นจึงเป็นเพียงความบังเอิญเท่านั้น
“หลังทำหนังเรื่องแรกในปี 2008 ผมมีโอกาสได้อ่านการ์ตูนญี่ปุ่นและการ์ตูนเกาหลีหลายเรื่อง เห็นงานแนวเอาตัวรอดมาเยอะมากก็เลยเริ่มสนใจเรื่องราวแนวนี้ขึ้นมา ได้เขียนบทภาพยนตร์เสร็จตั้งแต่ปี 2009 แล้ว แต่มีคนบอกว่าไม่น่าจะสำเร็จหรอกเพราะเรื่องโหดเกินไปและแนวเรื่องก็ไม่เป็นที่คุ้นเคยสำหรับคนดูในตอนนั้นด้วย สุดท้ายก็เลยไม่มีใครลงทุนไม่ได้มีการคัดเลือกนักแสดง ผมก็เลยหยุดการเตรียมงานเอาไว้เท่านั้น”
นอกจากนั้นผู้กำกับยังเปิดเผยว่าเขาเองรู้จักการ์ตูนเรื่อง As the Gods Will เมื่อเร็ว ๆ นี้เอง “ตอนกำลังถ่ายทำมีคนบอกว่าเนื้อเรื่องในซีรีส์ดูคล้ายกับ As the Gods Will มาก แต่ผมเขียน บทเอาไว้ตั้งแต่ปี 2009 แล้ว ความเหมือนจึงเป็นเพียงความบังเอิญ แล้วไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนั้นทั้งนั้น ผมไม่ได้ลอกงานใคร จริง ๆ แล้วของผมอาจจะถือว่ามาก่อนด้วยซ้ำไป เพราะผมเขียนบทหนังเรื่องนี้ออกมาก่อน”