ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่ยอมรับในแวดวงศิลปะ หลังจาก “สุขุม มีพันแสน” ได้ไปออกรายการ “โหนกระแส” ซึ่งมี “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” เป็นพิธีกร โดยศิลปินวาดภาพคนดังกล่าว ได้อ้างว่าตนเองบูชาและนำกระดูกนิ้วของ “อ.ถวัลย์ ดัชนี” ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ศิลปินผู้ล่วงลับไปแล้ว มาห้อยคอระหว่างทำงานทำให้ภาพของตนมีพลังยิ่งขึ้น และในแต่ละภาพที่ผ่านขั้นตอนวิธีที่กล่าวมาเบื้องต้นนั้น ราคาแต่ละรูปก็สูง บางรูปมีราคาสูงถึง 7 ล้าน
จึงทำให้ “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ศิลปินชื่อดัง ก็ได้มีการโพสต์ข้อความซัดไปยังนักวาดภาพคนดังกล่าวว่า "แม่งเอาดังแบบควายๆ" พร้อมฝากไปยังพิธีกร "หนุ่ม กรรชัย" โดยระบุว่าอย่าจัดรายการเพียงแค่เอามันหรือเอากระแสอย่างเดียว
ด้าน "ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี" ลูกชายอ.ถวัลย์ ก็ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นไปไม่ได้เพราะได้ลอยอังคารกระดูกพ่อไปหมดแล้ว รวมไปถึงยังโพสต์จดหมายเปิดผนึกผ่านไอตีส่วนตัว ถึง “หนุ่ม กรรชัย” พร้อมยังฝากบอกถึงศิลปินคนดังกล่าวที่อ้างว่าเอากระดูกพ่อของตนเองไปบูชานั้น ว่าให้หยุดอวดอุตริซะที เพราะถ้าเป็นจริง คนที่อยากเป็นศิลปินคงไม่ต้องฝึกงานและร่ำเรียนแล้ว
“doytibet
#จดหมายถึงพี่หนุ่มกรรชัย
#เรื่องของโหนกระแสเมื่อวาน
#งงบูชากระดูกนิ้วศิลปินดังเชื่อวาดแล้วเสริมพลัง
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวของผมในฐานะที่มีคนเอากระดูกพ่อผมไปห้อยคอแล้ววาดรูปเพราะถึงจะเป็นกระดูกจริงหรือไม่จริงก็ถือว่าผิดเพราะผมไม่ได้อนุญาต และไม่สมควรที่จะทำแบบนั้นอย่างยิ่ง
แต่นี่คือการทำลายระบบคิดของวงการศิลปะวัฒนธรรมของชาติ ในการสร้างค่านิยมที่ไม่ถูกต้อง อวดอุตริมนุสธรรม เป็นเรื่องอวิชชา เอาเรื่องไสยศาสตร์ และนำกระดูกของศิลปินมาห้อยคอแล้ววาดรูปได้ เป็นการสร้างมูลค่าทางศิลปะในทางที่ผิด
ถ้าเป็นแบบนี้จริง คนจะเป็น"ศิลปิน" คงไม่ต้องเรียนหนังสือ ไม่ต้องฝึกฝน ไม่ต้องมีสถาบันศิลปะ แล้วไปขุดเอากระดูกศิลปินดังๆมาห้อยขอแล้วก็วาดรูปได้
ศิลปวัฒนธรรมเป็นภูมิปัญญา เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ศิลปินแห่งชาติ และศิลปินชั้นนำนับร้อยนับพันคน เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า ควรต้องสงวนและรักษาไว้
ในฐานะของพิพิธภัณฑ์บ้านดำ
ในฐานะคนทำงานศิลปะ
ในฐานะลูกคนนึงที่ออกมาปกป้องพ่อ
จะไม่ยอมให้ใครคนใดคนหนึ่งมาทำแบบนี้
ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี
15/9/2564”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น หนุ่ม กรรชัยได้โทรศัพท์ไปเคลียร์กับลูกชายอ.ถวัลย์ พร้อมกราบขออภัยอีกครั้งผ่านรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ โดยยอมรับว่าตนเองก็พลาดจริงๆ จะนำไปเป็นบทเรียนครั้งต่อไป
