การแข่งขันเพื่อชิงความเป็นสุดยอดไอดอลอย่างรายการ “Last Idol Thailand Presented by True 5G” (ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์) ทางช่อง 7 HD กลับมาอีกครั้งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงจะรู้ว่าเวทีแห่งนี้ไม่ได้มีแต่ความสมหวัง เพราะเต็มไปด้วยความฟันฝ่า การต่อสู้ และ ความผิดหวัง แต่เด็กสาวหลายคนก็ยังคงสู้เพื่อแย่งชิงโอกาสที่จะได้ยืนบนเวทีนี้
เปิดศึกด้วยผู้ท้าชิงคนที่ 14 “ก้อย กมลวรรณ ศรีสว่างเดช” สาวน้อยผิวเข้มนัยน์ตาคมวัย 18 ปี เลือกท้าชิงสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 7 “ตาล สุดารัตน์ วงษ์กล่ำ” โดย ก้อย กมลวรรณ ขอโชว์ความสดใสกับเพลง “อยากมีแฟนแล้ว” ของ ลิปตา สร้างความประทับใจให้กรรมการเป็นอย่างมาก ด้านสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 7 ตาล สุดารัตน์ มีสีหน้ากังวลตั้งแต่ก่อนเริ่มโชว์ เพราะเธอต้องแบกรับความกดดันเอาไว้ เพราะถ้าเธอสามารถเอาชนะได้ นั่นหมายความว่าเธอจะสามารถรักษาสถิติที่สมาชิกชั่วคราวไม่แพ้ต่อเนื่องเลย 10 แมทช์ ติดต่อกัน ตาล สุดารัตน์ หยิบเพลง “มิวสิค เลิฟเวอร์” ของ “มาช่า วัฒนพานิช” มาโชว์ ฟาดกลับผู้ท้าชิงคนที่ 14 ด้วยท่วงท่าเล่นหูเล่นตาชวนเซ็กซี่ แต่ทันทีที่โชว์จบลง ตาลก็ถึงกับร่ำไห้ทันทีจนก้อยต้องเข้าไปกอดปลอบใจ
และแล้วก็มาถึงวินาทีที่สำคัญว่ากรรมการหมายเลขใดจะต้องทำหน้าที่ตัดสินอนาคตของเด็กสาวทั้ง 2 คนในครั้งนี้ รายการได้กำหนดให้กรรมการที่จับได้หมายเลข 1 ตัดสิน และภาระอันหนักอึ้งนี้ตกไปอยู่ที่ โบ ไทรอัมพ์คิงดอม โดยสาวโบได้ตัดสินใจเลือกให้ผู้ท้าชิงคนที่ 14 ก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 7 แทน ตาล-สุดารัตน์ ซึ่งตรงกับ หนึ่ง อีทีซี และ แทน ลิปตา ที่เลือกให้ก้อยได้ไปต่อ งานนี้ทำเอาตาลถึงกับปล่อยโฮออกมาที่ไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ ขณะที่เพื่อนสมาชิกชั่วคราวคนอื่น ๆ ถึงกับน้ำตารินที่ตาลต้องออกจากการแข่งขัน
โบ ไทรอัมพ์คิงดอม เผยว่า “โบคิดว่าการที่เปลี่ยน ไม่ได้มีผลแค่ตาลคนเดียวที่ออกนะคะ แต่สมาชิกชั่วคราวที่เหลือเขาจะมีแรงสู้ เขาจะพัฒนาขึ้น และการที่ตาลร้องไห้ตั้งแต่ก่อนแข่ง ทั้ง ๆ ที่คู่แข่งของเขาไม่ได้น่ากลัวเลย เขาอาจไม่มั่นใจได้ แต่จะดาวน์แบบนั้นไม่ได้ เพราะคุณต้องเป็นไอดอลที่เป็นแบบอย่างให้คนอื่นต่อไปอีกนะ การตัดสินใจครั้งนี้ โบกดดันมากนะ เหมือนต้องทำลายความฝันของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ในเมื่อยังไม่เดบิวต์ ก็เท่ากับว่าเราให้โอกาสกับอีกคนหนึ่ง การตัดสินใจของโบทำเพื่อให้ลาสต์ ไอดอล ดีขึ้นค่ะ”
ด้าน ตาล สุดารัตน์ กล่าวว่า “ตอนที่ได้ยินคำตัดสินของพี่โบ หูหนูดับเลยค่ะ พี่โบบอกว่าตอนที่หนูเต้นกับเพื่อน ๆ เหมือนโชว์ของหนูกับเพื่อน ๆ ไม่เข้ากัน คนอื่นดูสดใส แต่หนูไ ม่ค่อยยิ้ม คือวันนั้นมีเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นกับตาล ทำให้ตาลตัดความขุ่นมัวและดึงตัวเองกลับมาได้ ตาลเสียดายโอกาสมากค่ะ แต่ก็เข้าใจที่ไม่ถูกเลือก เรายังสร้างความสุขให้ตัวเองไม่ได้ แล้วเราจะไปสร้างความสุขให้คนอื่นได้อย่างไรค่ะ”
จากนั้นถึงการแข่งขันแมทช์ที่ 15 กับผู้ท้าชิงคนเป็นสาวน้อยอารมณ์ดีวัย 14 ปี “ไฮเวย์ ศิรประภา แสงพันตาพานิช” ทำเอาสมาชิกชั่วคราวทั้ง 7 คนได้แก่ “ต้นน้ำ บัณฑิฏา สันตยารมณ์”, “ม่านมุก ชดาธาร ด่านกุล”, “มีมี่ พิมพ์มาดา ตั้งสี”, “รันม่า แทนทยา ชิชิดะ”, “ซีโมน ปุณณาสา ต้นวิชา”, “เก๋ พรรณิภา วงษาชัย” และ “ก้อยกมลวรรณ ศรีสว่างเดช” ถึงกับใจเต้นตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ว่า ไฮเวย์ ศิรประภา จะเลือกใคร งานนี้สาวไฮเวย์ชี้เป้าไปที่สมาชิกชั่วคราวหมายเลข 7 ก้อย-กมลวรรณ ที่เพิ่งจะได้ตำแหน่งมาหมาด ๆ เมื่อถึงเวลาที่ต้องโชว์ ผู้ท้าชิงคนที่ 15 ก็เปิดเวทีด้วยเพลงฮิตสุดคลาสสิค “ตายทั้งเป็น” ของนักร้องระดับตำนาน “แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์” ไฮเวย์ร้องและเต้นด้วยท่าทีน่ารักสมวัย แต่ก็โปรยเสน่ห์ใส่ผู้ชมและกรรมการอย่างเต็มที่
ไฮเวย์ ศิรประภา โชว์จัดเต็มซะขนาดนี้ สมาชิกชั่วคราวหมายเลข 7 คนใหม่ ก้อย กมลวรรณ จะงัดโชว์อะไรออกมาสู้กับผู้ท้าชิงคนที่ 15 และก้อยจะสามารถรักษาตำแหน่งเอาไว้ได้หรือไม่ ร่วมเอาใจเธอกันได้ในวันอาทิตย์ที่ 5 กันยายนนี้ เวลา 12.30-13.30 น.ทางช่อง 7 HD
คุณผู้ชมสามารถรับชมแบบเอ็กซ์คลูซีฟคอนเท้นต์ผ่านทางแอพพลิเคชั่น True ID นอกจากนี้ยังสามารถโหวตผู้เข้าแข่งขันที่คุณชื่นชอบที่สุด 5 อันดับ ตลอดรายการ เพื่อเดบิวต์เป็นยูนิตพิเศษ True 5G Special Unit ง่ายๆ เพียงกด *472* ตามด้วยหมายเลขของผู้เข้าแข่งขันที่คุณชื่อชอบ ตามด้วย # แล้วกดโทรออก หรือโหวตผ่านแอพพลิเคชั่น True Money Wallet และยังสามารถใช้ทรูพอยท์ร่วมโหวตได้อีกด้วย สามารถโหวตได้ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 64 จนถึงวันที่ 3 ต.ค. 64 เวลา 24.00 น. เท่านั้น