xs
xsm
sm
md
lg

วิเคราะห์ “จ้าวเวย” ถูกแบน เพราะ "ธุรกิจ" หรือ "การเมือง"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังจากที่มีชื่อของ “จ้าวเวย” นักแสดงสาวชื่อดังถูกขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ของทางการจีน พร้อมกับชื่อของเธอถูกลบออกจากแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมด งานนี้หลายคนตั้งข้อสงสัย เป็นเพราะธุรกิจส่วนตัว ใส่ชุดธงชาติญี่ปุ่น หรือจะเป็นเพราะความเห็นทางการเมือง?

หลังจากที่ชื่อของ จ้าวเวย ถูกลบออกจากซีรีส์ รวมทั้งผลงานโฆษณาต่างๆ ทั้งทาง Tencent Video, iQiyi, และ Youku แม้ว่าใบหน้าของเธอจะปรากฏอยู่ในคลิปแต่ชื่อและรายละเอียดที่เกี่ยวกับ จ้าวเวย ถูกลบออกไปทั้งหมด แม้แต่ผลงานสร้างชื่ออย่าง My Fair Princess องค์หญิงกำมะลอ ผลงานซีรีส์จีนที่ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งของจีนในช่วงปี 1998 – 1999 ก็ถูกลบชื่อเธอออกจากซีรีส์เช่นกัน จนถึงขั้นลือว่าการนำมาฉายซ้ำอาจได้รับผลกระทบตามไปด้วย


แม้แต่แฮชแท็กที่ให้แฟนๆแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับ จ้าวเวย ใน Weibo ที่ใช้ว่า จ้าวฮัว ก็ถูกเซ็นเซอร์จากทางการจีนไปแล้วด้วยเช่นกัน สื่อท้องถิ่นจีนอย่าง Jimu News ในมณฑลหูเป่ย ก็รายงานว่าสื่อต่างๆได้รับคำสั่งเป็นโน้ตสั้นๆให้ลบชื่อของ จ้าวเวย โดยไม่ได้อธิบายหรือบอกเหตุผลที่แน่ชัด

อย่างไรก็ตามแม้จะไม่มีคำอธิบายที่แน่ชัดว่าเหตุใด จ้าวเวย ถึงกลายเป็นเป้าโจมตีจากรัฐบาลจีนจนถูกเซ็นเซอร์หนัก ชาวเน็ตจึงพยายามรวบรวมข้อมูลและข้อสันนิษฐานต่างๆถึงความเป็นไปได้ที่ทำให้ จ้าวเวย มาถึงจุดที่ลือกันว่า ขึ้นเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวบินไปกบดานที่ฝรั่งเศสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


เป็นเพราะธุรกิจที่ถึงขั้นโดนแบนจากตลาดหุ้น?

โดยข้อสันนิษฐานที่ชาวเน็ตต่างพากันพูดถึงคือ นอกจากจะเป็นนักแสดงแล้ว จ้าวเวย ยังผันตัวไปเป็นนักธุรกิจ, ผู้กำกับหนัง และเป็นนักร้อง ซึ่งทำให้เธอขึ้นแท่นเป็นเศรษฐีนี ที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการบันเทิงจีน เพราะเธอมีชื่อเสียงในเรื่องการลงทุน เธอและสามียังเคยมีชื่อติดใน มหาเศรษฐีอายุน้อยอันดับโลกของ Hurun ในปี 2016 ซึ่งทั้งคู่มีทรัพย์สินมากถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยการลงทุนของทั้งคู่ยังรวมถึงการเข้าถือหุ้นใน Alibaba Pictures Group ด้วยเช่นกัน

สิ่งหนึ่งที่ชาวเน็ตจีนพูดถึงจนติดท็อปเทรนด์ใน Weibo ได้พูดถึงรายได้จากธุรกิจต่างๆ ที่เธอมีอยู่ในมือ โดยก่อนหน้านี้ จ้าวเวย ตกเป็นเป้าโจมตีจากนักลงทุนถึง 67 รายที่เรียกร้องค่าชดเชยจากเธอถึง 50 ล้านหยวน หรือประมาณ 240 ล้านบาท จากการปั่นหุ้น หลังจากบริษัทของพวกเขาล้มเหลวในการประมูลซื้อบริษัทแอนิเมชัน ส่งให้ในปี 2017 จ้าวเวย และ หวงยู่หลง สามี ถูกแบนจากตลาดหุ้นจีนเป็นเวลาถึง 5 ปี


ตามสถิติจาก qqc.com ซึ่งเป็นฐานข้อมูลองค์กรจีนได้ระบุว่า จ้าวเวยมีบริษัทถึง 14 บริษัท มี 2 บริษัทที่ยกเลิกการจดทะเบียนบริษัทไปแล้ว และอีก 4 บริษัทถูกเพิกถอนใบอนุญาต พร้อมกันนั้นดูเหมือนว่าบริษัทอีกหลายบริษัทของ จ้าวเวย ตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะหุ้นถูกแช่แข็ง

การถูกลบชื่อออกจากโซเชียลมีเดียทั้งหมดเกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์หลังจากที่ จางเจ๋อฮั่น นักแสดงหนุ่มที่เพิ่งมีข่าวเซ็นสัญญาเข้าร่วมสังกัดที่เป็นบริษัทของ จ้าวเวย ถูกทางการจีนแบน หลังพบภาพเซลฟีของเขาเมื่อปี 2018 ขณะไปเยือนศาลเจ้า ยาสุกุนิ สถานที่ที่ใช้เก็บป้ายวิญญาณของทหารญี่ปุ่นบางส่วนที่เคยร่วมรบในสมัยสงครามต่างๆรวมถึงสงครามจีน-ญี่ปุ่น ถูกขุดขึ้นมาให้พูดถึงพร้อมกับโดนแบนไปแบบไร้อนาคต


ถ้าไม่ใช่เรื่องธุรกิจที่สร้างความปั่นป่วนหรือจะเป็นเพราะความเห็นทางการเมือง?

ส่วนอีกประเด็นที่โดนพูดถึงคือเมื่อปี 2001 จ้าวเวย เคยใส่ชุดธงชาติจักรวรรดินิยมญี่ปุ่นเดินแฟชันโชว์ที่ นิวยอร์ก แถมความคิดเห็นทางการเมืองของจ้าวเวยก็เคยเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันเมื่อปี 2016 หลังจากที่ภาพยนตร์ที่เธอกำกับอย่าง No Other Love ถูกโจมตีหลังจากที่ไปเชิญนักแสดงชาวไต้หวัน ลีออน ไต้ มาเป็นนักแสดงนำ ซึ่ง ลีออน ไต้ เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนให้ไต้หวันเป็นเอกราชจากจีน ส่งให้ครั้งนั้น จ้าวเวย ถูกสังคมกดดันอย่างหนักให้เปลี่ยนตัวนักแสดง

จีน มองว่า ไต้หวัน คือจังหวัดนอกรีตของจีนที่ต้องรวมกลับคืนสู่แผ่นดินใหญ่ในที่สุด และจะมีการใช้กำลังบังคับหากถึงคราวจำเป็น

อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถยืนยันถึงสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าเป็นเพราะความเห็นทางการเมือง หรือเหตุการณ์อันใดที่ทำให้ชื่อของ จ้าวเวย ถูกลบชื่ออกไปจากทุกแพลตฟอร์มของจีน รู้แต่เพียงว่าขณะนี้ทางการจีนกำลังรณรงค์ปราบปราม “คนดังที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม”


จีนกวาดล้างแม้กระทั่งกลุ่มแฟนคลับต่างๆ

นอกจากล้างบาง “คนดังที่ประฤติตัวไม่เหมาะสม” แล้ว ยังมีรายงานว่า รัฐบาลจีนยังพยายามควบคุมวัฒนธรรมของแฟนคลับ ที่ถึงขั้นตามสะกดรอยตามศิลปินที่ชื่นชอบ พร้อมกับสืบข้อมูลส่วนตัวของศิลปินและเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล รวมถึงไซเบอร์บูลลี่

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมาทาง Cyberspace Administration ที่เป็นผู้ดูแลอินเทอร์เน็ตส่วนกลางของจีนยังได้ออกมาตรการอย่างละเอียดเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในหมู่แฟนคลับ

โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นควรจับตาดูวัฒนธรรมของคนดังทางออนไลน์เพื่อจะได้คงไว้ซึ่ง “ความปลอดภัยทางการเมืองและอุดมการณ์ในโลกไซเบอร์ รวมถึงการสร้างอินเทอร์เน็ตที่สะอาด”

กฎใหม่นี้ยังรวมถึงยกเลิกการจัดอันดับคนดังในทุกรูปแบบ และเข้ากำกับดูแลหน่วยงานทางการตลาดอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งต้องการให้กลุ่มแฟนคลับออนไลน์ต่างๆได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่เป็นต้นสังกัดของคนดังด้วย

กฎระเบียบที่เกิดขึ้นนี้จะยังลงโทษแพลตฟอร์มที่ไม่สามารถลบคำพูดโจมตีศิลปินไอดอล จากแฟนคลับของศิลปินไอดอลรายอื่นได้อย่างทันท่วงทีด้วย


ศิลปินจีนหลายคนตอนนี้มีความผิดต่อทางการจีน

คนดังที่เพิ่งกระทำผิด จนถูกทางการจีนตามดำเนินดีมีทั้ง เจิ้งส่วง ที่ต้องจ่ายค่าปรับจากการเลี่ยงภาษีเป็นเงินถึง 46.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

หัวซุน นักร้องที่ถูกแฟนเก่ากล่าวหาว่านอกใจ และการมีสัมพันธ์กับหญิงอื่นเมื่อต้นเดือน ส.ค. แม้เขาจะออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่เขาก็ต้องอำลาจากวงการบันเทิง

รวมถึง อู๋อี้ฝาน หรือ คริส อุ๋ อดีตสมาชิกวง EXO ที่ถูกหญิงสาวหลายรายกล่าวหาว่าถูกเขาข่มขืน ส่งให้เขาถูกตั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา

อีกหนึ่งคนดังชายคือ เฉียนเฟิง พิธีกรทาง Hunan TV ที่ถูกกลาวหาเรื่องมอมยาและข่มขืนเช่นกัน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2019 แม้เขาจะออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่เขาก็ต้องออกจากการเป็นพิธีกรของ Hunan TV



กำลังโหลดความคิดเห็น