“ใบเตย” เปิดปากครั้งแรก หลังข่าวฉาวนายตำรวจแฟนหนุ่ม ออกปากเสียงสั่นเครือรับเรื่องที่เกิดขึ้นหนักมาก ถ้าไม่ได้กำลังใจจากหลายคน ตนอาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ยันยังไม่ได้แต่งงานกันจริงๆ พร้อมเผยเคลียร์กับเจ้าของเวดดิ้ง สตูดิโอดังแล้ว ลั่นขอระยะเวลาทำใจ พร้อมกลับมาทำหน้าที่พิธีกร
จากกรณีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “โจ้” อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้ถูกดำเนินคดีภายหลังจากที่มีคลิปที่เจ้าตัวพร้อมลูกน้องตำรวจทรมานผู้ต้องหายาเสพติดกระทั่งเสียชีวิต จนสังคมมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้ในวงกว้างนั้น
ทั้งนี้ หนึ่งในคนที่พลอยตกเป็นที่จับตาไปด้วย ก็เห็นจะเป็นพิธีกรหญิงอย่าง “ใบเตย พรพจี ศิริสิทธิ์” ซึ่งนอกจากจะเป็นแฟนสาวของฝ่ายชายแล้ว เธอยังเป็นลูกสาวของนายตำรวจที่เป็นเจ้านายของอีกฝ่ายด้วย
หลังจากที่เก็บตัวมานับตั้งแต่เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นกับแฟนหนุ่ม ล่าสุด พิธีกรหญิงก็ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ครั้งแรกผ่านรายการ “แซ่บทะลุจอ” ทางช่อง GMM25 แล้ว
โดยเจ้าตัวยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลถึงสภาพจิตใจตัวเองไม่น้อย ถึงขนาดระบุว่า หากที่ผ่านมาตนเองไม่ได้กำลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้าง ตนก็อาจจะไม่มีชีวิตมานั่งให้สัมภาษณ์อยู่ตอนนี้ก็เป็นไปได้
“ทุกคนน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าเหตุการณ์ทั้งหมด มันส่งผลกระทบรุนแรง แบบที่เราตั้งคำถามว่าความทุกข์ของมนุษย์มันเป็นได้ขนาดนี้เชียวเหรอ ใครไม่ประสบพบเจอน่าจะไม่มีวันเข้าถึงและเข้าใจได้เลย เพียงแต่ว่าเราเชื่อมั่นในครอบครัว มีคุณพ่อ มีคุณแม่”
“มีพี่ชาย มีพี่สะใภ้ มีครอบครัวเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถมีชีวิตหรือว่ามานั่งหายใจ หรือแม้แต่กระทั่งมาให้สัมภาษณ์ในวันนี้ได้เลย ครอบครัวและความรัก และกำลังใจจากทุกๆ คน ไม่น่าเชื่อว่ากำลังใจจากคนที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า มันมีค่าได้ขนาดนี้เลย”
ยันยังไม่ได้มีการแต่งงานเกิดขึ้นจริงๆ เผยเป็นความผิดพลาดในการสื่อสารของเจ้าของห้องเสี้อดัง ซึ่งอีกฝ่ายได้โทร.มาขอโทษแล้ว...“ไม่ได้มีการแต่งงาน ไม่มีพิธีมงคลสมรสนะคะ ตามรูปที่หลายคนอาจจะเข้าใจผิด ด้วยความที่ตัวพี่ปลา (ปลา ฟินนาเล่) เอง ก็ได้โทร.มาพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวแล้ว”
“พี่ปลาก็ขอโทษทั้งตัวเตยและครอบครัว ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างรุนแรง ซึ่งพี่ปลาเองก็ได้ลงชี้แจงอธิบายไปแล้วว่าเป็นการไปพบสมเด็จพระสังฆราชกันทั้งครอบครัว จึงเป็นการแต่งกายที่เหมาะสมเท่านั้นเองค่ะ จริงๆ เข้าใจ เพราะว่ารูปภาพมันมีความใกล้เคียงและมีความคล้ายมาก แต่ว่าเรารู้อยู่แล้วว่าเราไปทำอะไร”
“เพราะฉะนั้น คนก็จับโยงไปได้หมดแหละค่ะ จะโยงอะไรก็โยงได้เนอะ จริงๆ มีภาพรวมครอบครัวกับบ่าวสาวด้วย แต่ว่ามันเป็นภาพส่วนตัว ซึ่งเราไม่ต้องการให้มีใครมาจับใครโยงเรื่องนี้อีกแล้ว แค่นี้ตัวเตยก็หนักมากพอแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเตยลงภาพครอบครัวอีก คนที่ส่งผลกระทบมันจะยิ่งเพิ่มวงกว้างเข้าไปอีก”
ขอบคุณผู้ใหญ่ทางช่องที่เข้าใจ และจะกลับมาทำหน้าที่พิธีกรต่อแน่นอน
“ตั้งแต่กระแสทุกอย่างเข้ามา มันเยอะมากค่ะ รอบด้านจริงๆ อะไรที่มันไม่เป็นความจริง เราก็ไม่ได้ไปสนใจอะไรมัน ยิ่งตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็ตัดโซเชียลออกไปเลย เพราะมันเกินจะทนไหวจริงๆ ก็ยังคงทำงานอยู่ค่ะ และต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนในช่องด้วยที่มีความเข้าใจ”
“มองด้วยจิตใจเมตตาและเป็นธรรม ไม่ได้รู้สึกว่าการที่คนๆ นึง รู้จักกับคนๆ นึง และการที่คนๆ นั้น กระทำความผิด เราผิดด้วยหรือ ทุกอย่างเรารู้ดีอยู่แก่ใจ คนรอบข้างที่รักเรา ที่รู้จักเตยมาตลอดชีวิตเขารู้ดี ยังรักในอาชีพนี้และยังคงทำงานต่อไป”
“มันแย่อยู่แล้วล่ะค่ะ ความรู้สึกตอนนี้ แต่ว่ากำลังใจดี อย่างที่บอกว่าเรามีหลักยึดเป็นครอบครัว คนที่รักเรา และใจเราเองที่รู้อยู่เต็มอกว่าอะไรเป็นอะไร เตยเองได้ทำงานในวงการสื่อมาโดยตลอด ตลอด 10 ปี เรามีความเข้าใจในความเป็นไปในวงการนี้ค่ะ”
“ถามว่าหนักมั้ย หนักมาก เตยจะผ่านมันไปได้ แต่ว่าต้องใช้ระยะเวลา วันที่เตยเข้มแข็งขึ้น เตยจะกลับมาทำงานเหมือนเดิม ขอบคุณทุกกำลังใจมากๆ รับรู้นะคะ มันมีค่ามากๆ”
