xs
xsm
sm
md
lg

#หมอริทช่วยโควิด เปิด 13 บริบท จุดประสงค์ของโครงการ วอนรัฐหยุดผลักภาระ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เรียกว่าเป็นโครงการจิตอาสา ที่ดำเนินการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก สำหรับโครงการ #หมอริทช่วยโควิด ของนักร้องหนุ่มจากเวทีเดอะสตาร์ “ริท เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช” ที่พาพนักงาน มาใช้เวลาว่างขณะคลินิกรักษาผิวพรรณโดนปิด เพราะมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อทำประโยชน์ต่อสังคม 

แต่งานนี้ก็ดูเหมือนว่า ผลของการทำดี จะกลายเป็นโดนผลักภาระ ให้รับหน้ากับปัญหาหลายอย่าง แทนภาครัฐซะงั้น ทำให้เจ้าตัวต้องขอออกโพสต์ทวิตเตอร์ เพื่อชี้ให้เห็นถึงบริบทและจุดประสงค์ของโครงการอีกครั้ง ว่าตั้งใจจัดทำขึ้นมาเพื่ออะไร พร้อมบอกให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งคนเข้ามาอ่านด้วย โดยลิสต์ออกมาเป็น 13 ข้อดังนี้

“หยุดผลักภาระ เราช่วยท่าน ท่านก็ต้องช่วยในระบบการทำงานด้วย ไม่ใช่เห็นว่าเราช่วยได้ดี ทำอะไรเองได้หมด แล้วก็ผลักมาให้เราทำเลย เดี๋ยวจะมาลิสต์เป็นข้อๆ ท่านก็ส่งคนมาอ่านละกัน เสนอไปหมดแล้ว ยังเห็นเงียบๆ ก็จะแจ้งให้ประชาชนทราบเลยละกันนะครับ เขาจะได้เข้าใจบริบท #หมอริทช่วยโควิด

เริ่มนะครับ
1.#หมอริทช่วยโควิด เป็นโครงการอาสา ไม่ได้รับเงินการทำงานจากรัฐเลย โดยเรายินดีช่วยรัฐโดยไม่เรียกร้องเงิน แต่เรียกร้องให้รัฐดูแลผู้ป่วยอย่างทั่วถึง ซึ่งระหว่างที่ท่านเพิ่มกำลังการดูแล เรายินดีช่วยครับ เมื่อไหร่ที่ท่านดูแลทั่วถึง เราจะหยุดครับ

2.ข้อมูล ณ 18/8/64 #หมอริทช่วยโควิด รับเคสใหม่ได้เฉลี่ย 200 เคส/หน่วย/วัน แต่หน่วยงานภายใต้รัฐใน กทม. รับเคสใหม่ได้ 9 เคส/หน่วย/วัน (รวม 240 PCU = 2,000 เคสต่อวัน) ซึ่งยังน้อยกว่าจำนวนเคสรายงานใหม่ต่อวัน โดยมองว่า ถ้าลดการทำงานที่ไม่จำเป็นบางอย่างลง จะทำให้รับเคสได้มากขึ้น?

3.แต่โดยรวมแล้ว ภาคประชาสังคม/จิตอาสา (ไม่ใช่เฉพาะ #หมอริทช่วยโควิด ) ได้เข้ามามีส่วนช่วยสำคัญให้ประเทศไทยผ่านวิกฤติโควิดนี้ไปได้ (ซึ่งท่านทราบสัดส่วนตัวเลขการดูแลเคสอยู่แล้ว ประมาณเกือบครึ่งต่อครึ่ง จริงหรือไม่?)

4.คนไข้ที่ติดต่อผ่านช่องทางของรัฐ ต้องรอการรักษาที่ค่อนข้างนาน ตั้งแต่ 3 วัน - 14 วัน หรือ จนหายแล้ว จริงหรือไม่? (คนที่พบปัญหานี้ สามารถมาช่วยยืนยันได้)

5.รัฐมีหน่วยจ่ายยาฟาวิ โดยจ่ายเป็นคอร์ส 3-5 วัน แล้วไม่ดูแลเคสต่อให้ครบ 14 วัน สุดท้ายคนไข้ตกเป็นภาระของใคร? ที่แน่ๆส่วนนึงก็มา #หมอริทช่วยโควิด แล้วทำเพื่ออะไร? เข้าถึงเคสได้ทั้งทีก็ทำให้จบกระบวนการเลยไหม? ใช้งบประมาณอย่างไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่?

6.ATK บอกว่าให้เข้าระบบ HI ได้ แต่ถ้าอาการแย่ลง แล้วต้องการเตียง ท่านก็บอกว่าเข้า รพ. ได้เลย แต่ในความเป็นจริง รพ. ไหนรับบ้าง? สุดท้ายก็รอ PCR กันหมดไหม? จะตายแล้วยังรอ PCR? เพราะ รพ. เขามีปัญหาการเบิกไหม? ขอคำสั่งเด็ดขาดและชัดเจนเลยได้ไหม?

7.ดูแลคนไข้ช่วยเหลือกันกับภาครัฐ ท่านมีฐานข้อมูลให้เช็กการดูแลซ้ำซ้อนไหม? ตรงนี้สำคัญนะ ภาษีประชาชนทั้งนั้นนะครับ 1 คนไข้ ต่อ 1 การดูแลก็พอแล้ว

8.ระบบจัดหาเตียงอยู่ไหน? ทีมอาสามีแพทย์มาช่วยดูแล HI ให้แล้ว ประเมินความเสี่ยงให้แล้ว พออาการแย่ลง ต้องการเตียง แล้วยังไง ให้ส่งทางไหน ไปที่ไหน? หน่วยงานไหนรับช่วงต่อ? เบอร์กลางของท่านโทร.ติดจริงๆ หรือไม่?

9.เรื่องเตียง ก็ไม่เพียงพอ อันนี้เข้าใจ รัฐกำลังขยายเพิ่มเตียงอยู่ ก็ต้องจัดคนไข้ไปเอาเตียงตามความรุนแรง เลยต้องให้ออกซิเจนที่บ้านไปก่อน แล้วหน่วยงานไหนดูแลเรื่องออกซิเจนที่บ้าน? ตอนนี้มีแต่ขอความช่วยเหลือจากทีมอาสาด้วยกัน

10.การประชาสัมพันธ์ ความรู้ ความเข้าใจ เพียงพอไหม?
- กักตัวครบ 14 วัน ไม่ต้องตรวจซ้ำ ไปทำงานได้เลย
- คนไข้ไม่ต้อง xrays ปอดทุกคน
- ยาฟาวิ ทานตามข้อบ่งชี้ ไม่ต้องทานทุกคนก็หายได้
เป็นต้น

11.ภาคแรงงาน นายจ้าง ยังต้องการใบรับรองแพทย์เสมอ มีระบบให้ไหม? เอา ATK/PCR กับชื่อหน่วยงานที่ดูแลไปออกใบรับรองเลยได้ไหม? แค่หมอมาช่วยตรวจยังไม่พอ ยังต้องแบ่งหมอช่วยเขียนใบรับรองแพทย์อีก มันจะทันไหม?

12.ตอนนี้ ภาคประชาสังคม/อาสา สร้างเครือข่ายกันเอง หาเตียง หาออกซิเจน หา PCR หา x-rays หายา หาอาหาร เค้าทำกันเรียบร้อยแล้ว มาดู แล้วขอบคุณและให้เครดิตเขาก็พอ

13.โควิดครั้งนี้ มันคือวิกฤตทุกคนเข้าใจ วันที่รัฐรับมือไม่ไหว ประชาชนพร้อมช่วย แค่ยอมรับในกำลังความสามารถ แล้วช่วยกัน ไม่ต้องอาย ขอบคุณครับ

ปล. ยังไม่รวมเรื่องการจัดการระยะยาว เช่น วัคซีนนะครับ ซึ่งสุดท้ายมันก็คือเรื่องเดียวกัน”













กำลังโหลดความคิดเห็น