ได้รับการจับตาอย่างต่อเนื่องสำหรับภาพยนตร์เรื่อง THE BATMAN ที่ได้พระเอกแวมไพร์คนดัง "โรเบิร์ต แพททินสัน" มารับบทเป็นไอ้มนุษย์ค้างคาว ทั้งข่าวการติดเชื้อโควิด-19 ของเจ้าตัว ขณะที่ตัวหนังเองก็มีปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดฯ จนต้องเลื่อนฉาย
ล่าสุดภาพยนตร์ THE BATMAN ก็ถูกพูดถึงอีกครั้งหลังมีการเปิดเผยออกมาว่าทางด้านของพระเอกคนดังได้ค่าตัวจากการรับบทเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ครั้งนี้ด้วยค่าตัวจำนวน 3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตัวหนังเองก็มีต้นทุนในการสร้างอยู่ที่ 100 ล้านเหรียญฯ เท่านั้น
กับจำนวนค่าตัวดังกล่าวก็ได้กลายเป็นที่วิจารณ์ไม่น้อย โดยแฟนคลับของพระเอกหนุ่มหลายคนมองว่าด้วยระดับชื่อเสียงของเจ้าตัวค่าตัวดังกล่าวถือว่าต่ำมาก โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับนักแสดงคนอื่นๆ ที่มาเล่นหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ ซึ่งแทบจะมีระดับ 10 ล้านเหรียญขึ้นไป
ขณะที่บางส่วนก็มองว่าค่าตัวนี้ถือว่าไม่เลวเลยสำหรับพระเอกหนุ่มที่แม้จะดังเปรี้ยงปร้างมาจากภาพยนตร์แวมไพร์ Twilight แต่ช่วงหลังๆ ชื่อเสียงของเข้าตัวก็เริ่มหายไปเพราะหันไปรับงานนอกกระแสมากขึ้นจนไม่สามารถการันตีได้ว่ากระแสตอบรับของแบทแมนในเวอร์ชันนี้จะออกมาเป็นเช่นไร
นอกจากนี้หลายคนยังนำค่าตัวของเขาไปเปรียบเทียบกับการรับบทเป็น "ไอรอนแมน" ของ "โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์" ที่ได้ค่าตัวจากการรับเล่นหนังภาคแรกของหนังเพียง 5 แสนเหรียญฯ เท่านั้น แต่สุดท้ายหนังก็ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจนทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักแสดงค่าตัวแพงสุดในตอนนี้
ขณะที่บางคนก็มองว่าไม่สามารถนำ แพททินสัน ไปเปรียบเทียบกับเจ้าของบทไอรอนแมนได้ เพราะในตอนนั้น โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ชื่อเสียงเองแทบจะไม่เหลือแล้ว กับค่าตัว 5 แสนเหรียญฯ จึงเป็นการเดิมพันของค่ายหนังที่สมน้ำสมเนื้อ ผิดกับ แพททินสัน ที่ในตอนนี้ชื่อเสียงของเขายังถือว่าขายได้อยู่นั่นเอง
อย่างไรก็ตามหลายคนคาดเดาว่าค่าตัว 3 ล้านเหรียญฯ นั้นอาจจะเป็นค่าตัวในเบื้องต้นหรือไม่? เนื่องจากปัจจุบันนักแสดงหลายคนได้มีการเซ็นสัญญาแบบแบ่งเปอร์เซ็นต์จากรายได้ของภาพยนตร์ ซึ่งหากหนังที่ตนเองเล่นประสบความสำเร็จตัวของนักแสดงเองก็จะได้รับส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ไม่ใช่แค่กรณีค่าตัวของ โรเบิร์ต แพททินสัน เท่านั้น คอหนังหลายคนยังมองด้วยว่ากับตัวเลขต้นทุนของ THE BATMAN ที่ 100 ล้านเหรียญฯ นั้นถือว่าค่อนข้างจะถูกมากสำหรับหนังซุปเปอร์ฮีไร่ฟอร์มใหญ่ จนทำเอาหลายคนเดาว่าตัวหนังอาจจะไม่มีฉากแอ็คชันที่ตูมตามอะไรมากมายนัก แต่อาจจะเน้นไปที่การดำเนินเรื่องโดยเฉพาะหลังจากที่ได้เห็นภาพยนตร์ตัวเอย่างที่ออกมาแล้ว
สำหรับ The Batman จากฝีมือผู้กำกับ "แมตต์ รีฟส์" โดยค่าย วอร์เนอร์ บราเธอส์ มีกำหนดเข้าฉายในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า