“มิลลิ” ร่ายยาว ชี้แจงดรามาเป็นดาราเรียกร้องประชาธิปไตย ความเท่าเทียม แต่กลับใช้เส้นสายซะเองเพื่อสอบใหม่ รับผิดพูดไม่เคลียร์ โอดโพสต์ใช้อารมณ์-ไม่ไตร่ตรอง ทำให้อาจารย์ได้รับผลกระทบหนัก เตรียมเข้าขอโทษวันศุกร์นี้
กรณี “มิลลิ ดนุภา” นักร้องดังโพสต์โวยปัญหาเรียนออนไลน์ รวมถึงการสอบมิดเทอมของตัวเอง ที่อาจารย์ประกาศไม่มีคะแนน โทษกระทรวงศึกษาฯ แนะให้หยุดเรียน 1 ปี จนอาจารย์คนดังกล่าวถูกโซเชียลจวกเละ หาว่าเป็นสลิ่ม ก่อนต่อมาพบว่าสาเหตุที่เจ้าตัวไม่มีคะแนนเพราะเพื่อนยืมโน้ตบุ๊กไปใช้ หลังสแกนนิ้วดันเข้าสู่ระบบเพื่อน สุดท้ายคณบดีช่วยทำเรื่องสอบล่าช้า ซึ่งงานนี้ทวิตเตอร์แหกกลับ ชี้ใช้เส้นยื่นสิทธิสอบล่าช้าแบบวีไอพี ไม่เป็นไปตามกฎของมหาวิทยาลัยตามที่นักศึกษาท่านอื่นได้รับ อีกทั้งเหน็บแรงออกมาเรียกร้องความเท่าเทียม เรียกร้องประชาธิปไตยอยู่บ่อยครั้ง แต่สุดท้ายตนเองก็กลับมาใช้เส้นสายเสียเอง
ล่าสุดมิลลิได้ออกมาชี้แจงผ่านทวิตเตอร์รัวๆ ยาวเหยียดว่า
ขออนุญาตทุกท่านชี้แจงประเด็นเรื่องคะแนนสอบ / late exam / อาจารย์ผู้สอนที่ถูกกล่าวถึง จากโพสต์ทวิตเตอร์ของหนู เรื่องคะแนนสอบหายจนเกิดผลกระทบอย่างหนัก คือเรื่องเป็นอย่างนี้ค่ะ ขอเล่าเหตุการณ์นะคะ ยาวหน่อยนะคะ เพื่อความละเอียด
วันที่ 29 ก.ค. 64 คือวันที่น้องได้ทำการสอบกลางภาคในวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งในการสอบครั้งนี้ ประกอบไปด้วยหลายส่วน เป็นทั้งพาร์ตข้อเขียนที่สอบในระบบ Microsoft Teams และพาร์ตข้อช้อยส์ที่สอบในเว็บไซต์ LMS ของทางมหาวิทยาลัย ซึ่งน้องยืนยันว่าได้ทำไปครบทุกพาร์ต
แต่ในวันประกาศคะแนนสอบ(10 สค.) อาจารย์บอกว่าหนูเนี่ยไม่มีคะแนน ก็ค่อนข้างเหวอเลยทีเดียว และด้วยการสื่อสารที่ผิดพลาด+ใช้อารมณ์เป็นหลัก หนูจึงโพสต์พาดพิงอาจารย์ลงทวิตไปในทันที โดยที่ยังไม่ได้สืบหาข้อเท็จจริงก่อนเลยด้วยซ้ำ ทำให้อาจารย์ท่านนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียงและรู้สึกไม่ดี หนูต้องขอโทษอาจารย์ด้วยนะคะ
1. การยื่นขอ late exam
- หลังจากทราบเรื่องคะแนนหาย หนูเลยรีบไปปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษา (ซึ่งเป็นคณบดีของคณะหนูเอง) ว่าจะสามารถตรวจสอบยังไงได้บ้าง อาจารย์เลยช่วยประสานกับทางพี่เจ้าหน้าที่คณะเพื่อสอบถามไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อถามหาสาเหตุที่ไม่พบคะแนนในพาร์ตนั้น
และเสนอว่าลองยื่นเรื่องพิจารณา Late Exam มั้ย ซึ่งวันนั้นที่คุยกันเป็นวันที่สามารถยื่นเรื่องพิจารณา Late Exam ได้เป็นวันสุดท้ายพอดี หนูเลยตัดสินใจจะลองยื่นเรื่องไปก่อน ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงเกี่ยวกับคะแนนสอบของตัวเอง โดยอาจารย์ได้ให้คำปรึกษาในทุกๆ กระบวนการว่า
ว่าจะต้องเขียนคำร้องผ่านระบบออนไลน์ของมหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีให้เลือกหัวข้อสาเหตุในการยื่นเรื่อง โดยหนูเลือกหัวข้อที่ 4 “กรณีอื่นๆ” และได้แนบหลักฐานที่สามารถยืนยันว่าตัวเราเข้าสอบจริงๆ ประกอบไปด้วย 1.วิดีโอที่บันทึกภาพหนูขณะที่กำลังทำการสอบ (วีดิโอตัวนี้เราสามารถเข้าไปเซฟหรือ ดูย้อนหลังได้ใน Microsoft Teams ขึ้นอยู่กับว่ามีใครกด recordเอาไว้หรือไม่นะคะ) ซึ่งครั้งนี้อาจารย์คุมสอบได้ทำการบันทึกวีดิโอเอาไว้ใน Microsoft Teams และ 2.ส่งประวัติการใช้งานจากบราวเซอร์ Safari ที่แสดงถึงการเข้าไปทำข้อสอบผ่านทางเว็บไซต์ LMS ทั้งหมด 23 หน้าบนระบบในวันสอบนั้น (7)
โดยอาจารย์บอกเพิ่มเติมว่า การยื่นขอ Late Examจะต้องมีการพิจารณาขึ้นอยู่กับหลักฐานของนศ.+การพิจารณาจากมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่รับประกันว่าจะได้หรือไม่ (เมื่อวันที่ 16 ส.ค. รายชื่อผู้ได้รับ late examถูกประกาศผ่านเว็บไซต์แต่ตัวหนูเองไม่ได้เช็กให้ดีก่อนวันนี้หนูเลยทวิตบอกว่ายังไม่ได้ค่ะ
2. การหาข้อเท็จจริงและผลลัพธ์เรื่องคะแนนหาย
- บ่ายวันนั้นที่รู้เรื่องคะแนนหาย(10 ส.ค.) หลังจากได้รับการประสานจากมหาวิทยาลัยผ่านทางอาจารย์ที่ปรึกษา เรื่องสาเหตุที่คะแนนหายไป เบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยได้เช็คระบบอีกรอบแล้วว่า ไม่มีคะแนนสอบหนูในระบบจริงๆ ทางมหาวิทยาลัยก็เลยถามเพิ่มว่า
“หนูได้ไปใช้คอมของคนอื่นในการทำข้อสอบหรือเปล่า หรืออาจจะไปล็อกอินเป็นชื่อของคนอื่นมั้ย” แต่หนูยืนยันว่าใช้โน้ตบุ๊กของตัวเองอย่างแน่นอน เลยทำให้หนูเอะใจขึ้นมาเพราะนึกได้ว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อนของหนูเคยขอยืมโน้ตบุ๊คไปใช้ล็อกอินในเว็บไซต์ LMS เช่นเดียวกัน ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าบัญชีของเพื่อนถูกล็อกอินค้างไว้ในโน้ตบุ๊กของหนู เพราะหลังจากสอบพาร์ตแรกเสร็จ ก็เปลี่ยนมาเข้าลิงก์เพื่อทำข้อสอบใน LMS หนูล็อกอินเข้าเว็บไซต์โดยการสแกนนิ้วไปเลยด้วยความเคยชิน โดยไม่ได้เช็กให้รอบคอบก่อนว่าเป็น ID ของหนูหรือไม่ เพราะคิดว่ามันคือuserของเราที่เคยเซฟไว้
โน้ตบุ๊กหนูคือ MacBook Pro 13 ซึ่งมีระบบ Finger Scan ที่จดจำ username&password ที่เราเคยล็อกอินเอาไว้ก่อนหน้านี้ จริงๆ หนูก็เคยล็อกอินuser หนูไว้แล้วและเซฟ password เพื่อที่จะscanนิ้วในรอบต่อไป แต่พอเพื่อนเอาไปใช้ เขาก็เซฟpasswordไว้เช่นเดียวกัน โน้ตบุ๊กก็เลยจำuserของเพื่อนแทน
หนูจึงได้แจ้งชื่อและ ID ของเพื่อนที่หนูสงสัยให้กับทางมหาลัยวิทยาลัย เพื่อเอาไปตรวจสอบอีกรอบ ซึ่งปรากฏว่าคะแนนสอบพาร์ตช้อยส์ทั้งหมดได้ถูกทำบนบัญชีที่เป็นชื่อของเพื่อน ซึ่งเพื่อนคนนี้ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่คนละ section และเขาไม่ได้เข้าสอบในครั้งนี้ เพราะว่าเขาใช้คะแนน IELTS ยื่นขอเทียบเกรดไปแล้ว และเพราะว่าไม่มีคนเข้าสอบ หนูเลยสามารถทำข้อสอบอันนี้ได้โดยทำในชื่อบัญชีของเพื่อน เพราะฉะนั้นมหาวิทยาลัยจึงพบแต่คะแนนในพาร์ตช้อยส์ที่หนูทำ ส่วนพาร์ตอื่นๆ ของเพื่อนก็ว่างเปล่า เนื่องจากเขาไม่ได้เข้าสอบอยู่แล้ว ทำให้คะแนนในส่วนนี้เป็นโมฆะไป
ขอชี้แจงเพิ่มเติม จากที่หนูไลฟ์ไปเมื่อวันที่ 11 ส.ค. คือตอนนั้นรู้แล้วว่าคะแนนหายไปได้ยังไง แต่ยังไม่ได้รับการตัดสินว่าจะได้ late exam นะคะ แต่ด้วยความใจร้อนของหนูตอนนั้นอีกนั่นแหละที่อยากอธิบาย เพราะอาจารย์โดนถล่มเยอะมาก เลยอยากออกมาบอกว่าเป็นความผิดของหนูเองค่ะ ไม่ใช่ใครเลย รวมถึงมีการพูดไปว่าได้ late exam แล้ว ซึ่งหนูพูดไม่เคลียร์เองค่ะ และตอนนั้นก็ถูกคนอื่นเข้าใจไปแล้วว่าได้สอบใหม่ ตรงนี้หนูผิดเองจริงๆ ค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ
3. การโพสต์ข้อความโดยใช้อารมณ์และไม่ไตร่ตรอง จนทำให้อาจารย์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
- หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดและได้รับข้อมูลทุกอย่าง รู้สึกว่าเรื่องที่ทำลงไปได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออาจารย์ ช่วงสัปดาห์ที่แล้วหนูเลยรีบติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขอนัดพบอาจารย์ท่านนั้นเพื่อพูดคุยและขอโทษถึงเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งอาจารย์ท่านว่างและรับนัดเป็นวันศุกร์ที่จะถึงนี้ และตอนสองทุ่มน้องคิดเอาไว้แต่แรกว่าหลังพบอาจารย์แล้ว ก็อยากจะคุยกับหลายท่านที่อาจจะยังมีข้อสงสัยอยู่และต้องการรับฟังคำอธิบายจากน้อง เพราะว่าจะได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างครบถ้วนค่ะ
