“พลอย ชิดจันทร์” ไม่ขอประเมินถึงสถานการณ์ส่งออกลำไยไปประเทศจีนเชื่อมโยงกับที่มีคนไทยบางส่วนด้อยค่าวัคซีนจีนหรือไม่ ชี้เทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยน เราผู้ผลิตก็ต้องเปลี่ยนตาม เผยตอนนี้คนจีนนิยมทานสินค้าที่มีคุณภาพสูงกว่าปีก่อนๆ มองทางออกทุกภาคส่วนต้องช่วยกันควบคุมคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน
กำลังเป็นประเด็นวิกฤตของพี่น้องเกษตรไทย ที่ตอนนี้ราคาลำไยตกต่ำในรอบ 30 ปี ที่พบว่าตอนนี้ประเทศจีนเข้มงวด เรื่อง การส่งออกลำไยจากประเทศไทยไปจีน โดยสำนักงานศุลกากรของจีน (GACC) แจ้งเตือนปัญหา การตรวจพบศัตรูพืชในลำไยขึ้น
ด้านคนบันเทิง “พลอย ชิดจันทร์ ห่ง” ที่เปิดธุรกิจลำไยแห้งส่งออกต่างประเทศ ก็ได้ออกมาช่วยเหลือชาวเกษตร โดยรับซื้อในราคาที่มากกว่าท้องตลาด ซึ่งพลอยได้เล่าถึงสถานการณ์ลำไยที่เป็นปัญหาในปัจจุบันนี้ให้ได้เข้าใจว่า…
“ราคาลำไยตอนนี้ตกต่ำ ลำไยก็เยอะเพราะมันเป็นช่วงที่ยังมีสินค้าอยู่ มีของเยอะ ชาวสวนก็ทยอยเก็บเอามาขายกัน อย่างเราในมุมโรงงานก็ซื้อมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นฤดูจนตอนนี้ล้นแล้ว โรงงานพลอยเองมีปลูกเองด้วยบ้างส่วนและรับซื้อจากชาวบ้านด้วยบางส่วนโดยผ่านคนกลาง เราก็ซื้อเต็มกำลังของเราในราคาที่ช่วยชาวบ้าน เพราะตอนนี้มันต่ำเยอะ อย่างในตลาดซื้อกัน 14 เราก็รับซื้อที่ 17 ราคามันตกขนาดเรารู้ว่าเกษตรกรลำบาก แทบจะไม่เหลือ ราคานี้คือต่ำสุดแล้วเท่าที่เคยเจอมา”
เผยปัญหาการพบศัตรูพืชในลำไยที่ส่งออกมีมาเรื่อยๆ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เข้มขึ้น
“ปกติสินค้าเกษตรมันก็ควบคุมคุณภาพสินค้ายากเหมือนกัน นึกถึงเราอย่างเราก็ต้องซื้อของที่มีคุณภาพเหมือนกัน ก็ต้องซื้อของสด ใหม่ ไม่แตก ไม่เน่า ก็ต้องคัดคุณภาพเหมือนกัน เราก็อยากจะให้มาช่วยกันดูเรื่องของคุณภาพ หลายบริษัทที่ส่งออกลำไยสดแล้วได้รับการเตือน เขาก็จะมีลิสต์มาเลย
ปัญหาศัตรูพืชจริงๆ มีมาเรื่อยๆ เพียงแต่ปีนี้ทางจีนเขาก็ตรวจเข้มขึ้นด้วย พอมันไม่ได้ตามที่กำหนดไว้เขาก็แบนเลย ไม่เอาสินค้าจากที่นี่เลย ตามใบอนุญาตตามโรงนั้นๆ บริษัทที่ส่งออกนั้นๆ ก็จะโดนแบนเลย”
ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวตามสถานการณ์
“ปัจจัยสถานการณ์โควิดทำให้การตรวจคัดคุณภาพสินค้าเข้มขึ้นจากที่ปกติทางจีนเขาก็เข้มอยู่แล้ว ลงแพ็ก บรรจุเตรียมที่จะส่งออกไปมันต้องได้มาตรฐานจริงๆ ถ้าคุณภาพมันไม่ได้ มันก็จะมีปัญหาตามมาแบบนี้เขาเลยต้องตรวจเข้ม ตรงนี้มันก็เป็นส่วนนึง พลอยว่ามันมีหลายๆ ปัจจัยมารวมๆ กัน กับสถานการณ์ตอนนี้ที่ทุกคนทำงานบนความเสี่ยงด้วย มันเลยทำให้หลายๆ ที่ไม่ได้ทำงานกันเต็มกำลัง
อย่างบริษัทพลอยเองก็เจอสถานการณ์แบบนี้บ้างเหมือนกัน มันไม่ใช่สถานการณ์ปกติ เราก็เรียนรู้และปรับตัวกันไป เราก็เห็นแล้วว่ามันส่งผลต่อราคาทำให้ราคามันตกต่ำ เดือดร้อนเลยแหละ ชาวสวนก็คาดหวังอยากได้ราคาดี แต่ตอนนี้มันราคาไม่ดี เราก็ช่วยเท่าที่เราจะช่วยได้”
ไม่ขอประเมินว่าสถานการณ์ลำไยที่เป็นเช่นนี้เชื่อมโยงกับที่มีคนไทยบางส่วนด้อยค่าวัคซีนจีนหรือไม่
“อันนี้เป็นอะไรที่ลึกซึ้งและเซนซิทีฟมากเลย พลอยไม่อาจไปประเมินเองได้ว่ามันมีผลรึเปล่า เราเป็นคนทำงาน เราเป็นคนอยู่หน้างาน เรารู้สึกว่าเราก็ต้องประเมินตัวเองไปตามสถานการณ์ว่า โอเคที่เขาตรวจเจอแบบนั้นมันมีจริงไหม ถ้ามันมีจริง เราก็ต้องมาเน้นในเรื่องของคุณภาพของสินค้าส่งออกตรงนี้มากกว่า พลอยมองว่าตลาดตอนนี้ด้วยเศรษฐกิจแบบนี้ สถานการณ์แบบนี้ ความปลอดภัยมันมาเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว คุณภาพที่จะต้องทำของที่ดีตามมาตรฐาน
อย่างโรงงานของพลอยเองก็ปรับเรื่องคุณภาพขึ้นเยอะเลย เราพัฒนาเรื่องของคุณภาพมาตลอด จากเมื่อก่อนเทรนด์ลูกค้ากินของกลางๆ มันก็ขายได้ แต่ตอนนี่เทรนด์มันเปลี่ยน กลายเป็นวันเราต้องทำแต่ของดีๆ อย่างคัดลำไยมาอบเราต้องคัดของที่สด ใหม่ ของดี ไม่แตกไม่เน่า ไม่ค้างคืน มันก็ต้องคัดกันมากขึ้น เพราะเขาต้องการคุณภาพที่เข้มมากขึ้น อาจจะทำให้บางทีส่งของเข้ามาแล้วโดนตีกลับ ถ้าไปถึงมือเขาแล้วของมันไม่ไหวจริงๆ มันก็มี ตอนนี้เราต้องใส่ใจการทำแบรนด์ คัดคุณภาพกันมากๆ คือพลอยอยากให้เข้าใจกัน คือตอนนี้การขายของมันไม่ง่ายเลย ยิ่งของไม่ได้คุณภาพ ทำออกมาไม่โอเคก็ยิ่งขายยากเข้าไปใหญ่”
มองเมื่อทิศทางผู้บริโภคเปลี่ยนเราในฐานะผู้ผลิตก็ต้องปรับตัวตาม
“ใช่ค่ะ ตอนนี้ทิศทางมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว เราก็ต้องปรับตัวตาม ทำของให้ได้ตามคุณภาพที่เขาต้องการ เรายังบอกชาวสวนที่มาส่งลำไยเราเลยว่าตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ ที่จะต้องรอลูกใหญ่ๆ โตๆ แล้วถึงจะเก็บเข้ามา เพราะว่าบางทีกว่าจะรอใหญ่โตขนาดนั้น มันกลายเป็นว่ามันจะเสียแล้ว พอมันแก่เกินไปมันก็ขายไม่ได้ คุณภาพมันก็จะไม่ดีเท่าที่ควร ตอนนี้มันต้องสุกกำลังพอดี บางทีชาวสวนเขาจะรอลูกใหญ่ๆ น้ำหนักดีๆ แล้วค่อยเอามาขาย ซึ่งตอนนี้ทำแบบนั้นมันจะไม่ได้แล้ว เทรนด์ตอนนี้คนจีนเขาก็เลือกมากขึ้น เขาก็กินของดี เขาก็เลยควบคุมคุณภาพสินค้ากันมากขึ้น รวมไปถึงสถานการณ์โควิด-19 ด้วย ก็ขึ้นอยู่กับสินค้าที่เราส่งออกไปว่ามันโอเคได้มาตรฐานของเขาไหม ตอนนี้ถ้ามันแก่ไป หรือมีหัวขาวๆ แม้จะสักนิดนึงเราก็จะคัดออก ไม่ส่งออกเลย เพราะมันเสี่ยงที่จะโดนแบน”
มองทางออกทุกภาคส่วนต้องช่วยกันควบคุมคุณภาพสินค้าเพื่อให้ได้ตามมาตรฐานที่ผู้ซื้อต้องการในยุคนี้
“เราก็ต้องควบคุมคุณภาพสินค้ากันให้มากขึ้น เข้มขึ้น แล้วก็ต้องมาทำความเข้าใจกันใหม่ ตั้งแต่ระดับคนสวน ทางภาครัฐก็จะมีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงพาณิชย์ ที่เขามีความรู้ทางการควบคุมคุณภาพสินค้า เข้ามาตรวจสอบคุณภาพสินค้า มันก็ต้องช่วยกัน มันถึงจะไปได้ จริงๆ ไม่ใช่ว่าเขาเจอแล้วแบนเลยนะ เขาจะมีการเตือนมาก่อน เราก็ต้องทำสินค้าให้ได้คุณภาพจริงๆ ในยุคนี้มันถึงจะไปต่อได้”
