xs
xsm
sm
md
lg

“4 หมอดูชื่อดัง” ชี้ตรงกัน “กันยา” สุดพีก! จากนี้ไปวิกฤตหนักทั้ง “โควิด-น้ำท่วม-จลาจล”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาหลายคนมีคำถามในหัวว่า “แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” นั้นมีจริงไหม? เพราะทุกวันนี้ตื่นมาแค่ได้เห็นแสงอาทิตย์และยังหายใจอยู่ แค่นี้ก็ดีมากพอแล้ว MGR Online เลยรวบรวมคำทำนายของ 4 หมอดูแห่งยุค ที่กระทรวงเวทมนตร์การันตีแล้วว่า “นี่แหละของจริง” มารวมให้ได้ฟัง และชี้ตรงกันว่า “เดือนกันยายน” ที่จะถึงนี้คือวิกฤตที่หนักหน่วง เพราะไม่เพียงจะต้องเผชิญภาวะโควิดที่ระบาดหนักแล้ว แต่ยังต้องเตรียมรับมือกับทั้งภัยพิบัติน้ำท่วม รวมไปถึงการจลาจลที่จะเกิดขึ้นตามมาอีก

เริ่มจาก “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” ซึ่งคุ้นหูคุ้นตาและคุ้นชื่อนี้อยู่แล้ว เพราะถือได้ว่าเป็นศิษย์ผู้ใกล้ชิด “หลวงพ่ออลงกต” วัดพระบาทน้ำพุ ก่อนหน้านี้ได้เคยมาเล่า “ตำนานโรคระบาด 100 ปี” ไปแล้ว ล่าสุดก็ได้เล่าผ่านรายการ “แฉ” ที่ออนแอร์ไปเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่าสถานการณ์ตอนนี้ที่ว่าหนักแล้ว แต่ยังไม่หนัก เพราะหลังจากวันที่ 22 สิงหาคมเป็นต้นไป ทุกอย่างจะเริ่มพีกขึ้นเรื่อยๆ พร้อมเตือนว่า “น้ำท่วม” ใหญ่กำลังจะมาเยือนประเทศไทยประมาณเดือนตุลาคม รวมไปถึงการเกิดจลาจลอีกด้วย

“ซึ่งในวันที่ 22 ส.ค. คือวันสารทจีน คือเป็นวันที่เริ่มพีคก เพิ่งเริ่มพีก ยังไม่ได้สิ้นสุด คือเพิ่งจะเริ่มพีกตั้งแต่วันนั้น พีกไปเรื่อยๆ จนถึงอีกวันนึงที่ท่านองค์นี้ได้ไปอยู่จริงจังก็คือวันที่ 8 เม.ย. ปีหน้าซึ่งเขาว่าอย่างงั้นนะ ผมไม่ได้ทำนายนะ คือเอามาเล่าให้ฟัง และในวันที่ 22 ส.ค. อย่างที่รู้กันคือถ้าใครเป็นคนจีนจะรู้ว่าเป็นเทศกาลของการเปิดประตูนรก เป็นวันที่เริ่มทำบุญให้กับคนตาย วันที่ 22 ส.ค. คือวันที่เต็มสตรีมเลยล่ะ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไร แต่ในเมื่อมันพีกขึ้นไปเรื่อยๆ มันก็จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ และวันที่ 8 เม.ย. ตามตำนานก็จะเริ่มเห็นแสงสว่าง ในหนังสือเขียนไว้ว่าเหมือนจะมีเทวดาองค์ใหม่มาโปรด ซึ่งผมตีความเองว่าน่าจะเป็นเรื่องของวัคซีนแหละ ซึ่งวันที่ 8 เม.ย. จะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ที่เราเจอมายังไม่ได้พีก เพราะน่าจะสูงกว่านั้น และในส่วนของเดือนตุลาคม ผมจะเตือนจริงๆ ให้ระวังอุทกภัย มีสิทธิ์น้ำท่วม บอกมาตั้งนานแล้วว่าให้ระวังภัยจากน้ำ และตอนนี้น้ำมันมาแล้วครับ ซึ่งทางภาคเหนือก็ท่วมแล้ว แม่น้ำโขงน้ำก็เริ่มเยอะแล้ว และกรุงเทพฯ ฝนก็เริ่มตกก็เริ่มท่วมแล้ว คิดดูว่าโรคระบาดมาแล้ว และน้ำท่วมก็มาอีก หลังจากนี้ให้ระวังโควิด  สองระวังอุทกภัยตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปจนถึงเดือนธันวาคม ภาคเหนือเละ ทั้งดินทั้งโคลน เพราะป่าไม่เหลือแล้ว ภายในปีนี้แน่นอน ซึ่งไม่จำเป็นต้องผมบอก แต่ถ้าใครศึกษาหรือติดตามข่าว ก็น่าจะเกิดแน่นอน โรคไม่พอ อุทกภัยก็ตาม และจลาจลก็ตามมาแน่นอน คนมันไม่ไหวแล้ว มันเป็นเรื่องที่คนไม่มีกิน เป็นเรื่องปากท้อง มันเข้าตาจนแล้ว จะบอกให้สงบอยู่บ้าน คือไม่มีกินก็คือไม่มีกิน เลอะเทอะแน่นอน”


จากนั้น “อ.โอเล่ ญาณสัมผัส” ที่หลายคนในยูทิวบ์จะคุ้นเคยกับการที่สามารถสื่อสารกับสิ่งที่มองไม่เห็นผ่านรายการ และล่าสุดกับการเห็นอดีตชาติของ “ตุ้ย เพลย์กราวด์” ซึ่งก็ได้ทำนายดวงเมืองผ่านรายการ “ปากสว่าง Big Mouth” เอาไว้นอกจากวงการบันเทิงปลายเดือนกันยายนจะสูญเสียแล้ว แต่หลังจากนี้คนจะตายเป็นใบไม้ร่วง เพราะวิกฤตมันยังไม่จบ เพียงแต่มันแค่เพิ่งเริ่มเท่านั้นเอง เตือนว่าเดือน ก.ย. อย่าประมาท

“หลังจากนี้ไป สำหรับวงการบันเทิงประมาณปลายๆ เดือนกันยายนจะสูญเสียเรื่องชีวิต ไม่อุบัติเหตุก็เกี่ยวกับเรื่องโรคภัยที่เราเจออยู่นี่แหละ ตั้งอายุ 40 อัปขึ้นไป และดวงเมืองของเรา หลังจาก 30 ก.ค. เป็นต้นไป คนตายใบไม้ร่วง วิกฤตยังไม่จบ เพราะมันเพิ่งเริ่มต้น เริ่มต้นเกี่ยวกับความสูญเสีย หลังจากนี้เป็นต้นไป จะบอกว่าสิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน คือสิงหาคมนี่แหละน่ากลัวจะต้องใช้ชีวิตแบบไม่ประมาท กันยายนคือใบไม้ร่วง ตุลาคมยืนพื้น ซึ่งให้ใช้วิจารณญาณในการฟัง คืออย่าประมาทกับโรคภัยไข้เจ็บ (พิธีกรแซวว่าออกหรือไม่ออก เพราะผมจะขายเสื้อ?) ออกครับ แต่ก่อนจะออกเสียหายไปเยอะ คือเละเป็นโจ๊ก”


ส่วน “อุ๋มอิ๋ม คนเห็นผี” ที่สามารถสื่อสารกับ “อากง” หรือเทพเจ้าเทพเจ้าเห้งเจีย หรืออีกนัยยะหนึ่งเธอก็คือร่างทรงของเทพเห้งเจียนั่นเอง ก็ได้บอกว่าตอนนี้เทพที่ช่วยดูแล ช่วยเหลือมนุษย์ไม่ไหวแล้ว ต่อจากนี้ไปมนุษย์ต้องดูแลตัวเอง ซึ่งในเดือนกันยายนที่จะมาถึงนอกจากต้องตั้งการ์ดสูงสู้โรคแล้ว ยังต้องระวังเรื่องน้ำท่วมหนักอีกด้วย ซึ่งเจ้าตัวได้ทำนายผ่านรายการ “แฉข่าวเช้า on TV”
“อากงเตือนมาตั้งแต่ต้นปีว่า หลังเดือน 6 จะมีเชื้อโรคตัวใหม่เข้ามา มันก็จะติดกันหนักมากขึ้น แต่ล่าสุดวันที่ 19 มิ.ย.มาบอกล่าสุดว่าตอนนี้เอาไม่อยู่แล้วนะ หมายถึงปกติท่านยังพอช่วยได้ แต่ตอนนี้ต้องช่วยตัวเองแล้วนะ ให้เตือนทุกคนเลยว่าให้ยกการ์ดสูงที่สุด ขอให้ปกป้องตัวเองให้มากที่สุด เพราะตอนนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เขาทำงานกันหนักมากแล้ว เอาไม่อยู่แล้ว สิ่งที่ดีที่สุด เราต้องช่วยตัวเอง อย่าใช้ชีวิตประมาท ถ้าปล่อยให้ความกลัวครอบงำมันก็จะทำให้เราไม่มีสติ และสิ่งที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือกลุ่มคนที่จะเสียชีวิตคือคนที่อยู่ที่บ้าน เขาไม่ได้เก็บคนที่นำเชื้อเข้าไป แต่เขาจะไปเก็บคนที่อยู่ที่บ้านแทน และก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์มีคนตายที่ข้างถนน เราก็ได้เห็นภาพคนนอนข้างถนน แต่ที่เราเห็นคือมีเยอะมากกว่านี้ เห็นเป็นภาพ เชื่อว่าอากงเป็นคนส่งมา ในภาพนิมิตที่เห็นคือเป็นถนนแต่ไม่มีคน แต่เห็นมีผ้าคลุมสีขาวคลุมอยู่ คือมันเอาไม่อยู่แล้ว และภาพก็ตัดมาเป็นน้ำสีน้ำตาลเต็มไปหมดเลย เราก็เห็นข่าวว่าต่างประเทศมีน้ำท่วม แต่ไมรู้ว่าด้วยกรณีใดที่จะมาถึงไทย เขาจึงเตือนไว้ว่ายามที่ฝนตก ลมมาความน่ากลัวของโรคจะทวีคูณมากไปอีก เขาก็ให้เราระวังแบบมากๆ ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงเดือน 9 น้ำสีน้ำตาลมาได้ทุกทางและโรคระบาดไปได้ทุกที่ ให้ดูแลตัวเองให้มากที่สุด”


ปิดท้ายกันที่ “หมอปลาย พรายกระซิบ” ที่ได้ไลฟ์สดพูดคุยผ่านรายการ “WOODY LIVE” โรคโควิดที่จะเกิดขึ้นนี้จะหนักมากขึ้นในช่วงเดือนกันยายน ถ้าการจัดการไม่ดี รวมไปถึงอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงคนไทยก็จะหนักสุดในเดือน พ.ย. และ มี.ค.ปี 65 และทางออกของประเทศไทยจะได้สดใสก็ต้องประมาณเดือนสิงหาคม 65 ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด พร้อมแนะนำให้ทุกคนมีสติ และทำบุญ สวดมนต์กัน

“อยากให้ทุกคนมองคำว่าแย่ที่สุด มันขึ้นอยู่กับการจัดการด้วย โรคภัยไข้เจ็บถ้าไม่มีการจัดการที่ดี มันก็ไม่มีวันดีขึ้น สิ่งที่เห็นตอนนี้ค่อนข้างหนัก แต่ว่ามันจะหนักกว่านี้ ถ้าช่วงประมาณเดือน กันยายน ตุลาคม มันควรจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงตัวนี้ ถ้ามันไม่เกิดขึ้น คนไทยจะเจอภาวะที่หนักที่สุด สำหรับโรคโควิดจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนอาจจะยืดไปถึงเดือน มีนาคม อีกทีหนึ่ง ซึ่งในเดือนกันยายนที่หมายถึงการเปลี่ยนแปลงคือ การเปลี่ยนแปลง การบริหารจัดการ เปลี่ยนคน ตอนนี้สิ่งที่เห็นเป็น 2 ทาง ทางหนึ่งเขาลง แต่อีกทางหนึ่งเขาไม่ลง ซึ่งทางที่ไม่ลงเห็นเปอร์เซ็นต์ค่อนข้างจะเยอะกว่า ถ้าเขาไม่ลง เดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่เชื้อจะกลับมาอีก เพราะเป็นช่วงอิมพอร์ตคนเข้าพร้อมกับเชื้อ หลังจากนั้น พฤศจิกายน ธันวาคม ยาวไปถึงมีนาคม เครียดเลยคนไทย ถึงแม้จะพยายามใช้ชีวิต เหมือนจะมีนา แต่เราคุมไม่ได้แล้ว คุมไม่ทัน แล้วปัญหาคือ สงสารคุณหมอมากๆ”

“แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าโควิดที่ว่าจะไปเกินกว่าโรคนี้คือ ถ้าเมื่อไหร่โรคนี้มันไปผสมกับพิษสุนัขบ้า มันจะไม่เหมือนชีวิตจริงแหละ มันจะเหมือนหนังแหละ นอกจากโรคภัย จะมีน้ำเข้ามาอีก น้ำจะทำให้โลกของเราเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาไป เชื้อโรคจะปะทุ และภายใน 3-5 ปีก็จะเกิดภัยพิบัติที่ทำให้ประเทศต้องแบ่งแยกกันโดยไม่ต้องเกิดจากการทะเลาะกัน แต่เกิดจากภัยพิบัติ หนักเหมือนกัน บางครั้งที่ดูก็กลัวเหมือนกัน และปลายยังเห็นว่าเรายังมีหวังได้ชัดเจนขึ้นช่วงปี 2565 ประมาณเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป เห็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลง การดูแลอย่างรวดเร็ว การจัดการ เปลี่ยนทัศนคติแบบสุดขั้ว จากลบเป็นบวก และการคมนาคมจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว เราจะกลับมาเป็นผู้นำอีกครั้งหนึ่ง ขอให้แค่เดือนกันยายนกันเดือนมีนาคมปีหน้ามันเปลี่ยนสุดๆ ทุกอย่างเราจะมีความหวัง แต่สิ่งที่ปลายกลัวที่สุดคือเขายังจะอยู่ และเดือน พ.ย. อย่างที่บอกว่าจะมีการนำคนอื่นเข้ามาในประเทศที่มาพร้อมกับเชื้อโรค แต่ถ้าเขาเปลี่ยนกลุ่มหรือเปลี่ยนที่ปรึกษา เปลี่ยนแนว ทุกอย่างมันมีทางแก้”

“ถามว่าจะผ่านไปยังไง คือผ่านได้อยู่แล้วค่ะ มนุษย์เราเก่งมาก แต่ถ้ามันเกิดหนักสุดๆ นอกจากฉีดวัคซีนตามข่าวแล้วอยากให้ทุกคนอดทน อยากให้กลับมาศึกษาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาอีกนิดนึงว่าสิ่งที่ท่านสอนมาถึงเวลาที่เราต้องเอามาใช้ในเรื่องของการอดทนและไม่ประมาท คนที่จะรอดในช่วงนี้ ในโรคที่เป็นวิกฤตกลียุค คือการที่เราจะเพิ่มบุญให้กับตัวเราเอง การเพิ่มบุญบางทีอาจฟังดูงมงายแต่มันก็ยังมีความหวังแล้วมันก็สามารถช่วยได้ คนที่โดนผลกระทบหนักๆ ในช่วงนี้คือคนที่ใช้บุญมาหมดแล้วเป็นผลของเจ้ากรรมนายเวรส่วนใหญ่ แต่คนที่ยังรอดอยู่คือคนที่มีบุญมาคอยอุ้มในช่วงที่ต้องการปาฏิหาริย์ อยากให้ทุกคนหันกลับมาดูแลในเรื่องของการเพิ่มบุญของตัวเอง เวลาที่กักตัวเราสามารถสวดมนต์ได้ปลายแนะนำเลย สวดบทพาหุง , บทชินบัญชร , บทยอดพระกัณฑ์ และบทธรรมจักร ทั้ง 4 บทนี้สามารถกรวดน้ำให้กับเจ้ากรรมนายเวรของตัวเอง ทำให้อะไรที่มันคอยฉุดเราตลอดเวลามันลอยขึ้นมาได้บ้าง”




กำลังโหลดความคิดเห็น