“เปิ้ล นาคร” เผยเห็นภาพ “เสนาโค้ก” จากข่าวแล้วถึงกับช็อก ไม่คิดว่าจะถึงขั้นนอนติดเตียง บอกเคยรู้มาหลายปีแล้วว่าป่วยเป็นมะเร็ง แต่คิดว่าน่าจะหายแล้ว เผยเบื้องต้นยังไม่ได้โทร.หาอีกฝ่าย แต่เตรียมรวมตัวแก๊งเสนาจากทีมยุทธการขยับเหงือกว่าจะช่วยเหลือกันยังไงต่อไป บอกเป็นคนแรกที่ทำงานด้วยในวงการบันเทิง และเป็นรุ่นพี่ที่คอยช่วยเหลือน้องๆ ทุกคนมาตลอดในทุกๆ เรื่อง ลั่นเป็นถึงนักกีฬารักบี้ของมหาวิทยาลัย ไม่คิดว่าจะมาป่วยเป็นโรคร้ายหนักขนาดนี้
เรียกว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งเสนาของรายการยุทธการขยับเหงือก ที่เคยโด่งดังเมื่อร่วม 30 ปีที่ผ่านมา สำหรับ “เปิ้ล นาคร ศิลาชัย” ซึ่งพอมีข่าวว่าสมาชิกรุ่นพี่อย่าง “เสนาโค้ก” หรือ “สมชาย เปรมประภาพงษ์” ป่วยหนักด้วยโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย กับภาพที่ออกมาคือป่วยติดเตียง และร่างกายซูบผอมลงไปมาก ล่าสุด ทีมข่าวบันเทิง MGR Online ได้ต่อสายตรงถึงเปิ้ล ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าเห็นภาพจากข่าวก็ถึงกับช็อกเหมือนกัน เพราะไม่ได้เจอกันมาเป็น 10 ปี
“ผมไม่ได้เจอพี่โค้กมาเป็น 10 ปีแล้ว แต่ผมก็ได้ข่าวแว่วๆ มาหลายปีแล้วว่าพี่โค้กป่วยเป็นมะเร็ง แต่เราก็ไม่นึกว่าจะหนักขนาดนี้ ไม่นึกว่าจะป่วยติดเตียง เราก็คิดว่าถ้าเป็นแค่มะเร็งเบาๆ เดี๋ยวก็คงหายแหละ แต่พอมาเห็นตอนนี้คือติดเตียงหนักเลย ระยะสุดท้ายอีก ซึ่งก็ตกใจเหมือนกัน แต่ผมยังไม่ได้โทร.หาแกเลย เพราะผมก็เพิ่งท้องเสีย เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาเหมือนกัน
เบื้องต้นตอนนี้ผมคงต้องโทร.ไปคุยกับเขาก่อนว่าเขาเป็นยังไงบ้าง เขาคุยได้ไหม คงต้องติดต่อทางเขาก่อนว่ายังไง คิดว่าตอนนี้พวกเราทุกคนก็คงจะเข้าไปช่วยเหลือกัน ติดต่อแกอยู่ว่าจะยังไง ตอนนี้รอให้เฮดคือทางหนูแหม่ม (สุริวิภา กุลตังวัฒนา) ประสานกับทางพี่โค้กก่อน เพราะแกค่อนข้างจะสนิทกับหนูแหม่มมากๆ ผมเองก็กำลังจะโทร.หาเสนาลิง (สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์) ในเบื้องต้นก็คงหาทางประสานทุกคนก่อนครับ ส่วนจะช่วยเหลือกันยังไงก็เดี๋ยวคงว่ากันอีกที”
เผย “เสนาโค้ก” คือคนที่ตนร่วมงานด้วยเป็นคนแรกในวงการบันเทิง
“กับพี่โค้กสำหรับผมถือว่าเป็นคนที่ได้ร่วมงานกันครั้งแรกในชีวิตของการทำงานวงการบันเทิงเลย เพราะตอนนั้นเราเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 2 แล้วก็ได้มีโอกาสเข้าวงการบันเทิง ทำรายการแรกก็คือยุทธการขยับเหงือก เป็นรุ่นแรกเลยกับพี่โค้ก ซึ่งพี่โค้กก็เป็นหัวหน้าทีม ถือว่าเป็นรุ่นพี่ รุ่นใหญ่สุดที่คอยดูแลน้องๆ ทุกคน ตอนนั้นทุกคนเป็นเสนาหมด เสนาโค้ก เสนาเปิ้ล เสนาแหม่ม เสนาลิง เสนาหอย เสนาโน้ส อุดม เสนาเพชร อะไรอย่างเนี้ย ตอนนั้นก็สนุกสนานกันมาก เราอยู่กันแบบพี่น้อง ในเรื่องของการทำงานแกก็คอยดูแลหมด คอยรับงาน คอยเก็บเงิน คอยดูแลทุกอย่างทั้งเรื่องงานและเรื่องชีวิตส่วนตัว ใครมีปัญหาอะไรแกจัดการได้หมด เพราะแกเป็นนักออกแบบทางความคิด แกเป็นเด็กสถาปัตย์ จุฬาฯ เป็นสถาปนิก แกก็คิดเก่ง
แต่แกก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องสุขภาพนะ เพราะแต่ก่อนแกก็เป็นนักกีฬา เป็นนักรักบี้ของมหาวิทยาลัย แกชอบเล่นกีฬา ก็นึกไม่ถึงว่าแกจะมาโดนโรคร้ายนี้ แต่ไอ้โรคนี้มันเข้าได้ทุกคน จะแข็งแรงขนาดไหนมันก็เอาได้ แต่อันนี้ผมทราบมาหลายปีแล้วว่าแกเป็นมะเร็ง แต่ก็คิดว่าน่าจะหายแล้วด้วยซ้ำ แต่พอเห็นภาพจากข่าวก็คือนึกไม่ถึงว่าจะหนักขนาดนี้เลย ติดเตียง เป็นภาพที่ช็อกมาก ก็ถ้าพี่โค้กรับทราบข่าวหรือรู้สึกตัวได้ก็ขอให้แกหายเร็วๆ เพราะน้องๆ ก็เป็นห่วงกันทุกคนครับ”