หลังจากที่ “ทอยทอย ธนภัทร ชนะกุลพิศาล”นักแสดงซีรีส์ดัง ซึ่งเซ็นสัญญาเข้าสังกัด “เอ็มมี่ แม็กซิม” อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ ได้แค่เพียง 1 วันก่อเหตุแทงแฟนสาวดับคาบ้านพัก ขณะที่เอ็มมี่รีบไปหาทอยทอยที่สถานีตำรวจระหว่างถูกควบคุมตัว แต่สุดท้ายทนความเครียดไม่ไหว ถึงขั้นเป็นลมหลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เกิดความชุลมุนต้องพาตัวส่งรพ. เป็นการด่วน ซึ่งหลังภาพเผยแพร่ออกไป เจ้าตัวโดนกระแสดรามาหาว่าเป็นลมทิพย์ หิวแสง ล่าสุด เอ็มมี่ ชี้แจงประเด็นดังกล่าว
“อย่างเรื่องเป็นลมทิพย์ เล่นละคร แสดง เอ็มมี่อยากให้พี่ๆ สื่อหรือใครที่คิดว่าเอ็มมี่แกล้ง ไปที่โรงพยาบาลสินแพทย์แล้วถามอาการเอ็มมี่กับคุณหมอได้เลย อาจารย์หมอเป็นคนที่เข้ามาตรวจเอ็มมี่ อาจารย์หมอพูดเลยว่าน้องไม่ได้แกล้ง สิ่งที่เจอและที่เป็นมาคือการช็อกตั้งแต่ที่ว่าเอ็มมี่โกงแชร์ 28 ล้าน มันเคยมีสภาวะช็อกหยุดหายใจ แล้วก็ไปฟื้นที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ แล้วเขาก็ปั๊มหัวใจเอ็มมี่ขึ้นมา ฉะนั้นมันเป็นสิ่งที่เอ็มมี่กลัวที่สุดว่าจะต้องหยุดหายใจเพราะเอ็มมี่เพิ่งจะคลอดลูก เอ็มมี่ต้องดูแลอะไรหลายๆ อย่างที่เอ็มมี่เพิ่งจะสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่
ไปถามที่โรงพยาบาลสินแพทย์ได้เลย คุณหมอเรียกคนใกล้ชิดเอ็มมี่เข้าไปแล้วบอกว่าเอ็มมี่ไม่ไหว กลับบ้านไม่ได้ แต่เอ็มมี่ต้องกลับ ต้องลุกขึ้นมาเคลียร์ทุกอย่างให้มันจบ ใครจะดูแลบริษัท ใครจะดูแลน้องๆ และเอ็มมี่ยังให้นมลูกอยู่ เพราะฉะนั้นการเป็นลมทิพย์สำหรับเอ็มมี่ไม่มี วันนั้นมีการจ่ายยา มีการเจาะเลือดทุกอย่าง เอ็มมี่ก็ถามคุณหมอว่าหนูจะตายไหม คือถ้าใครเจอสถานการณ์อย่างที่เอ็มมี่เจอคือมันช็อก เอ็มมี่เชื่อว่าพวกคุณต้องเป็นอย่างเอ็มมี่แน่นอน
สภาวะวันนั้นคุณหมอบอกว่าเป็นเพราะความเครียดค่ะ ใครจะออกมาพูดปกป้องบริษัท ถ้าไม่มีเอ็มมี่สักคนน้องๆ จะเป็นยังไง เพราะหนูเป็นคนพาน้องๆ เข้ามา พาเขาออกจากที่เก่าเพื่อมาอยู่ที่ใหม่ เพราะฉะนั้นหนูทิ้งเขาไม่ได้ หนูยังต้องให้นมลูก หนูมีลูก 3 คนที่ต้องดูแล การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่เอ็มมี่คนเดียว มันก็เครียดว่าเราจะไปยังไงต่อ
เอ็มมี่เจอมรสุมมาเยอะมาก แต่สิ่งนี้คือหนักสุดในชีวิต เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนเข้าใจเอ็มมี่หน่อย มันหนักกว่า 28 ล้าน หนักกว่ากำไล EM อีกค่ะ อย่าลืมว่าอะไรที่เราสร้างขึ้นมาเราสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง แต่เรื่องบางเรื่องเราไม่ได้ทำ มเกิดขึ้นเราก็ต้องช่วยกันแก้ เพราะบริษัทเราเพิ่งเติบโต แม่นากพระโขนงกำลังดังเลย เพราะฉะนั้นหนูอยากให้บริษัทหนูไปต่อ”
ยันไม่เคยคิดเกาะกระแส ไม่ได้หิวแสง โวแสงมาเอ็มมี่เองค่ะ
“วันนั้นที่มีคนบอกว่าเอ็มมี่เกาะกระแส เอาตรงๆ นะคำว่าเกาะกระแส บอกว่าเอ็มมี่หิวแสง คำนี้ใช้กับหนูไม่ได้ คือเอ็มมี่นอนอยู่แล้วมันก็มีแสงวิ่งเข้ามาหาหนูเอง หนูเป็นผู้จัดการ หนูก็ต้องออกมาถูกต้องไหมคะ แล้วจะให้หนูทำยังไง ที่ว่าหนูเกาะกระแส
กระแสแบบนี้ทุกคนอยากเอาเหรอถามหน่อย หนูโตแล้วไม่ใช่เด็กๆ สมัยก่อนมีพรมแดงหนูไปทุกที่เพราะหนูอยากดัง แต่วันนี้หนูไม่ต้องแล้ว หนูโตเป็นผู้ใหญ่ มีลูก มีเด็กในสังกัดที่ต้องดูแล เพราะฉะนั้นคำว่าหิวแสง คำว่าเกาะกระแสหนูไม่ได้ต้องการ ชื่อเสียงหนูมีมากพอแล้ว แต่วันนี้หนูอยากสร้างคนให้เป็นคน อยากทำคนให้เป็นดาว อยากสร้างฝันเด็กทุกๆ คนให้เป็นจริง เอ็มมี่แค่รู้สึกว่าเป็นเอ็มมี่ทำอะไรก็ผิด แต่ถ้าวันนึงคุณก้าวเข้ามาในชีวิตเอ็มมี่ คุณเดือดร้อน
เอ็มมี่เชื่อว่าคุณจะรักเอ็มมี่ เพราะเอ็มมี่จะปกป้องคุณ แม้คุณจะไม่ใช่ญาติเอ็มมี่ก็ตาม ทุกวันนี้มีคนมาขอนม ขอแพมเพิสจากเอ็มมี่ เราก็ส่งให้ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ญาติและเราเองก็ไม่มีเงินหรอก เพราะฉะนั้นรู้จักกันก่อนแล้วค่อยมาด่าถ้าเอ็มมี่ไม่ดี”
บอกเรื่อง “ทอยทอย” ยังไม่มีอะไรคืบหน้า
“วันนี้มันยังไม่มีใครโอเคขึ้นง่ายๆ หรอกค่ะ ยังมีอะไรที่เอ็มมี่ต้องคิดอยู่ ถามว่าข่าวนี้กระทบกับบริษัทที่เพิ่งเปิดมากน้อยแค่ไหน ก็เยอะเลยค่ะ กับพี่เดย์เราก็จับมือกัน กอดกัน มันจะทำให้พวกเราไปต่อได้ ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ขอพวกเราตั้งหลักหน่อยค่ะ มันน่าจะดีขึ้น ญาติทอยทอยติดต่อมาไหม ไม่ค่ะ ตอนนี้หนูไม่ให้ใครติดต่อมาแล้ว ตอนนี้หนูขออยู่ของหนูก่อน เพราะตอนนี้ทุกอย่างปิดเพราะโควิด ทำอะไรก็ไม่ได้ ทุกอย่างต้องล็อกดาวน์หมด ก็เป็นช่วงที่เอ็มมี่กับน้องๆ ต้องมานั่งคุยกันใหม่ ทุกอย่างน่าจะเป็นปีหน้าเลยค่ะ ทุกอย่างเข้ากระบวนการกฎหมายไปแล้วหนูขอไม่พูด ขอให้ถามทนายเจมส์ (นิติธร แก้วโต) เลยค่ะ”