“อั๋น ภูวนาท” เผยไม่ได้ตั้งใจปิดข่าวภรรยาท้องลูกคนที่สองแล้วกว่า 6 เดือน แต่มองว่าไม่ใช่วาระของชาติ ไม่ต้องป่าวประกาศ แต่คนรอบข้างรู้หมด แฮปปี้ท้องนี้มาแบบธรรมชาติตามที่หมอแนะนำ ลั่นเคยทำข้อตกลงกันถ้าปีนี้ไม่มาจะไม่เอาแล้ว รับต้องเอาใจใส่ “น้องพอล” ให้มากขึ้นต้องใช้จิตวิทยากับเรื่องนี้มาก ฟุ้งรู้เพื่อนตั้งโต๊ะพนันทายชื่อลูก นำเงินไปสร้างห้องไอซียูฉุกเฉินให้กับ 2 โรงพยาบาล
เพิ่งจะออกมาเผยข่าวดีว่ากำลังจะมีทายาทคนที่สองแล้ว สำหรับ “ดร.อั๋น ภูวนาท คุนผลิน” ที่โพสต์รูปอัลตร้าซาวด์ พร้อมกับภรรยา “จ๋า อลิสา พันธุศักดิ์” และ “น้องพอล” ลูกชายคนโต ว่าตอนนี้ภรรยาท้องได้เกือบ 7 เดือนแล้ว ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่า ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบัง แค่คิดว่าโอกาสยังไม่อำนวย เพราะอยู่ในช่วงที่โควิดกำลังระบาดหนัก
“จริงๆ ไม่มีเจตนาจะอุบไว้ถึง 6 เดือนหรอกครับ แต่ 3 เดือนแรกโดยปกติก็ไม่พูดอยู่แล้ว เพราะมันมีความไม่แน่นอนสูง ก็ไม่พูดดีกว่า แล้วมันก็มีเรื่องโควิดวุ่นวายไปหมดเลย เราก็เลยรู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องพูด แต่คนรอบตัวรู้หมดครับ ทั้งคนในครอบครัว เพื่อนสนิท พี่อ้อย - พี่ฉอด คนใกล้ตัวอั๋นรู้หมด คือคนที่ทำงานด้วยกันจะรู้ครับ อั๋นก็บอกว่าอั๋นไม่ได้ปิด แต่อั๋นยังไม่เปิดนะแค่นั้นเอง ทุกคนก็เลยอาจจะยังไม่พูดถึงเรื่องนี้กัน
คือไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นวาระของชาติที่เราจะต้องประกาศว่า เย้ ทุกคน เมียฉันท้องแล้วนะอะไรอย่างนั้น อั๋นก็เลยเฉยๆ ปล่อยมันไว้อย่างนั้น แต่บอกกับเรียลลิตี้อั๋นจ๋าไว้ว่าไว้บอกในเรียลลิตี้แล้วกัน ให้รอถึงเวลาก่อน เรียลลิตี้ก็ถ่ายบ้างไม่ถ่ายบ้างในช่วงที่ผ่านมา คุณจ๋าเขาก็ไม่ค่อยยอมถ่ายเท่าไหร่ งานต่างๆ เขาก็ไม่ค่อยยอมไปเท่าไหร่ คนก็เลยไม่เห็น อั๋นก็เลยรู้สึกว่าเราก็ไม่ต้องพยายามประกาศก็ได้นี่หว่า แต่พูดตรงๆ ก็คืออั๋นมีการร่วมงานกันกับแบรนด์สินค้าบางตัวที่เขาขอว่าเปิดตัวเลยได้ไหม อั๋นก็คิดว่าถ้าจะถ่ายรูปแล้วเห็นท้องขนาดนี้ก็คงต้องเอ่ยถึงสักหน่อย เพราะมันก็ถึงเวลาแล้วล่ะ จะ 7 เดือนแล้ว ก็เลยคิดว่าโพสต์รูปนี้แล้วก็เปิดเลย มันก็จะแมสกับเรียลลิตี้พอดีแค่นั้นเองครับ”
เผยน้ำยาดี ได้มาแบบธรรมชาติตามคำแนะนำของแพทย์
“จริงๆ ก็เป็นสิ่งที่รอคอยนะครับ แต่พวกเราก็ไม่ถึงกับใจจดใจจ่อ ไม่ได้ถึงกับเมื่อไหร่จะมาขนาดนั้น ไม่มีความกดดันใดๆ เลย เรารู้สึกว่ามาก็ได้ ไม่มาก็ดี แต่รวมๆ เราก็แฮปปี้แหละ วันแรกที่รู้ก็คือคุณจ๋าเดินมาบอก คือเขาจะเป็นคนมีเซ้นส์ประหลาดๆ อยู่ดีๆ เขาก็เดินมาบอกว่า ฉันว่าฉันท้องแล้ว ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะรู้ แต่เขาบอกว่าเขารู้สึกว่าเขาท้องแล้ว
ตอนนั้นอั๋นก็ยังเฉยๆ นะ คือจะรู้ได้ยังไงว่าจริงไม่จริง เมียกูมโนหรือเปล่า (หัวเราะ) แต่เราไปหาหมออยู่เรื่อยๆ นะ เพื่อที่จะพยายาม แต่หมอบอกว่าหมอจะไม่ใช้วิธีวิทยาศาสตร์ เพราะว่าเราอายุเยอะแล้ว นี่คือเงื่อนไขของหมอ ซึ่งต่างจากตอนน้องพอลนะครับ น้องพอลนี่คุณหมอช่วยเต็มที่ แต่ครั้งนี้หมอบอกว่าแค่เพิ่มโอกาสในความสำเร็จแค่นั้นเอง เช่น ฉีดกระตุ้นไข่ แล้วก็บอกวันเวลาให้ว่าช่วงไหนเป็นช่วงที่มีแนวโน้มสูงสุด พูดตรงๆ ก็คือเราต้องทำเอง
ก็เรียกว่าธรรมชาติภายใต้การดูแลของหมอครับ อั๋นยังบอกเลยว่าหมอทำเถอะ หมอบอกว่าทำก็ได้ แต่ว่าการฝืนมันมีความเสี่ยงนะ เพราะบางคนที่มันไม่ควรท้อง หรือไม่ท้องสักที เป็นเพราะว่าธรรมชาติได้คัดกรองแล้วว่าเขาไม่ควรท้อง อาจจะด้วยอายุ ด้วยเงื่อนไขอะไรของร่างกายที่ตัวเราไม่รู้ ไม่เกี่ยวกับจิตใจนะ บางครั้งใจพร้อม แต่กายไม่พร้อม แต่ดูภายนอกเราไม่รู้ เพราะฉะนั้นถ้าไม่ท้องก็ปล่อยเถอะ คือคุณหมอบอกว่าการเอาวิทยาศาสตร์เข้าไปช่วยมันทำได้นะ แต่คุณไม่สังเกตเหรอว่าเด็กในยุคนี้มีความเป็นดาวน์ซินโดรม ความเป็นออทิสติกอ่อนๆ หรือด้านโน่นนั่นนี่ค่อนข้างจะหลากหลายมากขึ้น เพราะหลายครั้งฝืนธรรมชาติ ทำให้เด็กเกิดมาในภาวะไม่พร้อม พอได้ยินแค่นี้อั๋นกับจ๋าเลยไม่กดดันอะไรเลย เพราะเรารู้สึกว่าเรามีความสุขอยู่แล้ว แต่เราคุยกันว่าปีนี้คือปีสุดท้ายที่เราจะพยายาม ถ้าเลยปีนี้คือไม่เอาแล้ว เพราะว่าแก่แล้ว จริงๆ ตอนนี้ก็แก่แล้วนะ นี่ก็วิ่งตามลูกไม่ไหวแล้ว เหนื่อยมาก
คุณจ๋าเขาก็แข็งแรงครับ เพราะเขาดูแลตัวเอง แล้วพอเขาจะตั้งใจมากๆ เขาก็ออกกำลังกายหนักมากๆ แล้วปกติเรามีกำหนดการนัดของหมออยู่แล้ว คือหมอจะบอกว่าประจำเดือนมาวันแรกเมื่อไหร่ให้ส่งข้อความไปบอก แล้วหลังจากนั้นกี่วันๆ ให้ไปอัลตร้าซาวด์ พอเสร็จหมอจะบอกเลยว่าไข่ตกแล้วหรือยัง ถ้าไข่ตกแล้วต้องลุยภายใน 24 ชม.นี้นะ ลุยได้ลุยเลย ยิ่งถี่ยิ่งเพิ่มโอกาส ก็ปิดห้อง ปิดบ้านเลย (หัวเราะ) เอาจริงๆ ตอนน้องพอลอั๋นยังเครียดกว่านี้เลย เพราะเป็นลูกคนแรก เราจะรู้สึกว่าอยากมีๆ จังเลย แต่ครั้งนี้คืออั๋นชิลมาก มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ แต่อยากมีนะ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ทรมานแค่นั้นเอง ตอนน้องพอลยังกดดันกว่านี้”
บอกดีใจ แต่ไม่เท่ากับตอนที่มีคนแรก
“พอไปตรวจแล้วหมอบอกว่าติด เราก็โอเค ดีใจ ก็กลับมาดูแลตัวเองตามวิธีที่คุณหมอแนะนำ แต่เราก็ดูแลตัวเองกันดีอยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำอะไรมากกันอยู่แล้ว ก็ปล่อยไปเรื่อยๆ 3 เดือนแรกขนาดที่บ้านอั๋นยังไม่บอกเลย เพราะคุณย่า คุณยายอยากให้มีมาก เพราะถ้าบอกแล้วมันเกิดอะไรขึ้นก็กลัวเขาจะผิดหวัง ก็ไม่บอกแล้วรอให้ชัวร์ดีกว่า พอ 3 เดือนเราก็บอกคนรอบตัวเราแค่นั้นเองครับ ซึ่งเขาก็ดีใจแหละ แต่อั๋นจะมีอาการดีใจแบบอึนๆ นิดหน่อย ประมาณว่ามีจริงเหรอวะ ฉันจะมีอีกคนนึงเหรอวะ (หัวเราะ) ก็ดีใจไม่น้อยกว่าเดิมนะ แต่มันไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนเดิม เพราะเรานึกออกหมดแล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตบ้าง ไม่ว่าการเตรียมตัว อุปกรณ์ทุกอย่าง คืออั๋นมีทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว
แต่ตอนน้องพอลเราไม่รู้อะไรสักอย่าง ฉันต้องมีอะไรบ้าง คือเราไม่รู้จักอะไรเลย เพราะเราไม่เคยเป็นพ่อ และไม่เคยสนใจโลกของความเป็นพ่อมาก่อน แต่ ณ ตอนนี้อั๋นว่าอั๋นเป็นโปรด้านนี้แล้ว พอท้องคราวนี้ก็เลยรู้สึกว่าฉันยังเฉยๆ ทำทุกอย่างเหมือนเดิมหมดเลย ของลูกก็ยังอยู่ครบทุกอย่าง แค่รอเพศเท่านั้นเองว่าเพศอะไร ถ้าเป็นชายก็ไม่ต้องซื้ออะไรใหม่ แต่ถ้าเป็นหญิงก็ซื้อเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนสีเท่านั้น แต่จริงๆ เราก็รู้แล้วแหละ คนรอบข้างก็รู้แล้ว”
บอกเพื่อนตั้งโต๊ะพนันทายเพศกัน เตรียมนำเงินไปสร้างห้องไอซียูฉุกเฉินต่อ
“นี่เพื่อนกลุ่มคุณจ๋าเขาเปิดโต๊ะพนันกันเลย แต่บอกก่อนว่าโต๊ะนี้กินเงินกันไปทำห้องไอซียูนะจ๊ะ ก็มีการตกลงกันเลยว่าให้ลงกันคนละเท่าไหร่ ไม่มีใครแพ้ ไม่มีใครชนะ แต่คนที่แพ้ต้องจ่ายเงินเท่านี้ๆ นะ เอาเงินไปทำห้องไอซียูเพิ่มฉุกเฉินให้โรงพยาบาลวชิรพยาบาลกับโรงพยาบาลพระมงกุฎ ก็ทำบุญกันมาเรื่อยๆ ครับ สนุกๆ กัน แต่เราไม่ได้ตั้งเป้านะว่าต้องมียอดเท่าไหร่ ถ้ามีมาก็ทำไปเรื่อยๆ ตอนนี้ยังไม่ได้ซื้ออุปกรณ์อะไรเพิ่ม แต่กำลังดีลเรื่องชุด PPE อยู่ เพราะที่สุดแล้วชุด PPE ก็เป็นสิ่งที่คนต้องใช้เยอะมาก ก่อนหน้านี้ก็มีซื้อเครื่องออกซิเจนไป แล้วก็มีซื้อข้าวกล่องแจกทุกวันอาทิตย์ 300 กล่องทุกอาทิตย์ ก็ทำอยู่ตลอด แต่มากน้อยว่ากันไป ก็มีคนอยากร่วมบุญเยอะนะ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเปิดบัญชีรับบริจาคยังไง ก็เลยทำกันเองก่อน”
เผย “น้องพอล” อาจจะยังไม่เข้าใจถึงความรู้สึกว่าจะมีน้องมากนัก
“กับน้องพอล อั๋นก็อธิบายให้เขาฟังนะ ก็คิดว่าเขาเข้าใจว่าเขาจะมีน้อง แต่เขายังไม่เข้าใจความรู้สึก เพราะเวลาอั๋นพูดกับเขาว่า เดี๋ยวน้องพอลต้องดูแลน้องนะ เขาก็ฟังนะ แต่คิดว่าเขายังไม่ค่อยเข้าใจ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เดี๋ยวเขาก็คงเข้าใจเอง เราก็จะไปถามคนอื่นว่าเราควรจะต้องรับมือยังไง เพราะเพื่อนก็บอกว่าเดี๋ยวลูกคนแรกจะเริ่มงอแง เพราะเขาจะเรียกร้องความสนใจ เขาจะร้องไห้มากขึ้น นิดหน่อยก็จะเหวี่ยงวีน ซึ่งทั้งหมดแค่เรียกร้องความสนใจ ฉะนั้นวิธีป้องกันก็คือสนใจเขาให้มากขึ้นในช่วงที่มีน้อง แล้วก็ห้ามเอาพี่เลี้ยงของน้องพอลไปเลี้ยงน้องเด็ดขาด เพราะเขาจะรู้สึกว่าทุกอย่างที่เป็นของเขาถูกดึงไปหมด ก็ต้องมีพี่เลี้ยงใหม่ ทุกอย่างมันเป็นจิตวิทยาหมดเลย ช่วงนี้อั๋นก็จะวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้มากกว่า (หัวเราะ)
ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่เคยมาพูดว่าอยากมีน้องหรืออยากมีเพื่อนเล่นนะ แต่เราเห็นอาการว่าเขาอยากมีเพื่อน เพราะเวลาเขาเจอเพื่อน เจอเด็กๆ หรือไปโรงเรียนเขาเริ่มมีความสุขและสนุกกับการเล่นแล้ว บางวันเขาบอกอั๋นว่าขอเล่นต่อก่อนได้ไหม ยังไม่อยากกลับบ้านแล้วนะ อั๋นก็มองว่านี่เป็นตั้งแต่อนุบาลเลยเหรอพอล ไม่เร็วไปเหรอลูก หนูเริ่มติดเพื่อนแล้วนะ คือดูแล้วเขาจะมีความสุขมากเวลาที่ได้เล่นกับเพื่อนวัยเดียวกัน แต่ถ้าในบ้านเขาก็จะเล่นกับอั๋นมากที่สุด เพราะอั๋นแรงเยอะสุดแล้ว แต่อั๋นก็แก่แล้ว เราก็หมดแรงนะ แต่ผู้ใหญ่เล่นกับเด็กยังไงก็ไม่เหมือนเด็กเล่นกับเด็ก ก็เลยคิดว่าถ้าเราแก่กว่านี้ก็คงเล่นกับเขาไม่ไหว เขาก็ควรจะมีพี่น้องเพื่อเล่น เพื่อดูแลกันและกัน เขาต้องมีคนที่ปรึกษาหารือกันได้ เราก็หวังว่าจะเป็นพี่น้องที่รักกัน”
บอกโชคดีมากที่ภรรยาเข้าใจในเรื่องงานของตน แม้จะมีบ่นบ้างก็ตาม
“ช่วงนี้จ๋าเขาก็จะกลัวเรื่องโควิดมาก เขากลัวติด เพราะเขาห่วงทั้งน้องพอลและลูกในท้องด้วย เขาก็จะด่าอั๋นทุกวันว่าเรายังคงทำงานอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งในมุมของเราก็บอกว่า นี่ผมโชคดีแค่ไหนที่ผมยังงานเยอะขนาดนี้ คืองานอั๋นเกือบจะ 100% เท่าเดิมนะ ไม่ต่างเลย ก็บอกเขาว่าผมเป็นคนโชคดีของวงการแล้วนะที่ยังมีงานทำ จ๋าควรดีใจกับผม เขาเคยเอ่ยปากให้อั๋นหยุดทำงาน 3 เดือนเลยนะ ก็เลยบอกไปว่า ถ้าอั๋นหยุดทำงาน 3 เดือนอั๋นจะไม่ได้กลับมาแล้ว ทุกวันเขาจะถามว่าพรุ่งนี้ทำอะไร พอบอกไป เขาก็จะบอกว่ายังจะไปอีกเหรอ จะพูดซ้ำอยู่อย่างนี้ทุกวัน ก็มีเรื่องนี้แหละที่เขาจะบ่นอยู่ตลอด
แต่เอาจริงๆ อั๋นโชคดีมากที่จ๋าเขาเป็นผู้หญิงทำงาน เขาก็เลยเข้าใจการทำงานมากๆ มาโดยตลอด และเขาก็รู้ว่าอั๋นเป็นคนรักการทำงานอยู่แล้วโดยธรรมชาติ แต่ก็มีนะที่เรารู้สึกอึดอัดนิดหน่อย มันมีบางครั้งที่เขาขอให้เราเลิกทำงาน คือไม่ได้ทะเลาะกันนะ แต่มันเป็นการวางโทรศัพท์ไปแล้วไม่จบ มันเป็นช่วงที่เขาบอกว่าจะไปเก็บตัวอยู่พัทยาแล้วนะ เพราะเขาคิดว่ากรุงเทพฯ อันตราย และตัวอั๋นนี่แหละอันตราย (หัวเราะ) เขาบอกว่าเธอนั่นแหละอันตรายที่สุดแล้วในครอบครัว ซึ่งก็จริง
ก็มีวันที่ สมรักษ์ คำสิงห์ ประกาศว่าติดโควิด แล้วเขามาเป็นแขกรับเชิญในรายการคลับฟรายเดย์ โชว์ อั๋นนั่งสัมภาษณ์เขาอยู่ 3 ชม. นั่งติดกันเลย วันนั้นพอรู้ข่าวอั๋นก็หันไปมองหน้าจ๋าแล้วบอกว่าผมอยู่ในไทม์ไลน์แล้วล่ะ แต่เขาไม่ด่าอั๋นเลยนะ ซึ่งมันคือสิ่งที่เขาพูดมาตลอดว่าเราไม่มีทางรู้ว่าจะติดเมื่อไหร่ แต่นี่คือความน่ารักของเขานะ วันนั้นก็เดินเข้าห้องไปกันสองคน แล้วก็หยิบหน้ากากอนามัยมาใส่กันคุยกัน เขาก็บอกว่าเธอต้องกักตัวนะ ห้องนี้ๆ ฉันจะหอบลูกไปพัทยา ก็ให้นับวันว่าไปเจอมาวันไหน แต่เขาไม่ต่อว่าอะไรอั๋นเลย ถามแค่ว่าวันนั้นเสี่ยงแค่ไหน ใส่หน้ากากตลอดหรือเปล่า อั๋นว่านี่คือความโชคดีของเราในความมีวุฒิภาวะ จนถึงทุกวันนี้เขาก็ระวัง แต่เขาฉีดวัคซีนแล้วนะ เขาก็ปรึกษาคุณหมอ คุณหมอก็บอกว่าฉีดเลย ก็เลยฉีดตอนที่คุณจ๋าเขาเข้า 4 เดือนกว่าๆ”
เผยห่วงแค่เรื่องติดโควิดอย่างเดียว และมีกำหนดคลอดเดือนตุลาคมนี้
“ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ ขอแค่อย่าติดโควิดเลย (หัวเราะ) ทุกวันนี้ก็พารานอยด์กับการมีชีวิตอยู่แล้วนะ คุณจ๋าเขาตรวจทุกอย่าง เขาเป็นมือ Antigen test ที่บ้านเลย เขาเทสที่บ้านทุกอาทิตย์ จับทุกคนตรวจหมดเลยทั้งบ้าน เพราะอั๋นทำงานก็ต้องไปทั่ว ทั้งช่องone ทั้งไทยรัฐทีวี ทั้งเวิร์คพอยท์ พวกนี้แยงจมูกเราอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอั๋นจะได้แยงอาทิตย์ละ 3 รอบอยู่แล้ว ก็เลยบอกว่าจ๋าไม่ต้องเลย เดี๋ยวจะถ่ายรูปมาให้ดู อั๋นก็จะถ่ายคลิปส่งเขา เขาก็จะบอกว่าอะไรวะแหย่อีกแล้ว
กำหนดคลอดเดือนตุลาคมครับ กำลังหาฤกษ์งามยามดีอยู่ เพราะว่าใช้วิธีผ่าคลอด เราก็จะเลือกวันเอง ถามว่าสมการรอคอยไหมเรื่องเพศ ก็ต้องบอกว่าไม่ได้คาดหวังเลย แต่ก็เซอร์ไพรส์นิดหน่อย ก็รอลุ้นกันในเรียลลิตี้อั๋นจ๋าวันจันทร์ที่จะถึงนี้นะครับ ชื่อก็มีคิดๆ ไว้ครับ แต่ยังไม่มีชื่อจริง ยังรอดูก่อน ครอบครัวเตรียมของรับขวัญหลานหรือยังเหรอ อั๋นว่ายังไม่มีคนเตรียมหรอก จริงๆ ก็ไม่อยากได้อะไรเลย สมมติเขาจะซื้อทองให้ อั๋นก็จะบอกว่าไม่ต้องๆ อย่าไปร้านทองนะจ๊ะ ทุกคนอยู่บ้านก่อนนะ ขอให้ปลอดภัยกันก่อนนะจ๊ะ (หัวเราะ)”
