xs
xsm
sm
md
lg

“อัมพร แหวนเพชร” โดนโควิดถล่ม จากนักร้องกลายเป็นคนเก็บของเก่า หาเงินประทังชีวิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้นักร้องไม่สามารถไปแสดงคอนเสิร์ตหารายได้ เข้าปีนี้ปีที่ 2 แล้ว หลายคนหันมาทำอาชีพใหม่เพื่อเลี้ยงดูตนเอง นักร้องลูกทุ่ง “อัมพร แหวนเพชร” ก็เป็นอีกคนที่เธอหันมาเอาดีเก็บของเก่าข้างถนนขายหาเงินประทังชีวิต เธอได้เปิดใจกับทางรายการคุยแซ่บshow ว่าตอนนี้เครียดมากเพราะต้องดูแลแม่ที่ป่วยหนักช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

พิษโควิดถล่มชีวิตหนัก
อัมพร : “อย่างที่รู้ เราไม่ได้โดนคนเดียว โดนกันทุกคน โควิดมารอบแรก เรารู้สึกว่ามันมาแรงแล้ว ต่อมายังมีรอบที่ 2 อีก ยังมีรอบที่ 3 อีก หนักกว่าเดิม มันรู้สึกว่ามันแย่มากๆ ตอนนี้ นอกจากร้องเพลงแล้วก็จะขายของออนไลน์ พอโควิดมากลายเป็นว่าขายของไม่ได้เลย เลยทำให้รู้สึกว่ามันแย่มากๆ ถึงเราจะมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นมากแต่เราก็ขายไม่ได้ เราก็รู้ช่วงนี้ทุกคนน่าจะลำบาก มีแต่คนขายของ คนที่จะซื้อยาก”

ท้อสุดคือเรื่องแม่ป่วย
อัมพร : “คุณแม่ป่วยเป็นโรคงูสวัดมาประมาณสัก 3 เดือนแล้ว ตอนนี้เดินไม่ได้ ต้องมีคนดูแลตลอด งูสวัดต้องเป็นแผลใช่ไหม แต่แผลของแม่หายหมดแล้ว เหลือแต่ความปวดที่มันเข้าเส้น เข้ากระดูกข้างใน ก็สงสารแม่มากที่แกเดินไม่ได้ แล้วกลางคืนก็นอนไม่ได้ กินข้าวอะไรมันก็ต้องมีข้อห้าม ตอนแรกทั้งฉีดยาแก้ปวด ใครบอกตรงนี้รักษาดี เราก็ทำหมดทุกอย่าง แต่ก็ไม่หาย จนทุกวันนี้ก็ยังไม่หาย ก็ปรึกษาหมอ หมอก็บอกว่าต้องใช้เวลานานนิดนึงในการรักษา แต่เราก็สงสารแม่ พอเห็นแม่เจ็บ ก็พยายามหายา ทั้งยากิน ยาทา แต่ก็ยังไม่หาย ต่อเดือนมันก็หลักหมื่น”

เผยเป็นเสาหลักหารายได้ จากเคยเป็นนักร้อง ต้องเก็บของเก่า-ของข้างทางขายกิน
อัมพร : “ใช่ เพราะพี่สาวออกจากงาน เนื่องจากโควิด ต้องกลับบ้านต้องไปดูแลแม่แทน ถ้าเราไปอยู่ด้วยกันทั้งหมดมันก็ไม่มีอะไรทำ ก็เลยให้พี่สาวเป็นคนดูแล แล้วตัวเราเองก็มาขายของบ้างอะไรบ้าง จากเมื่อก่อนเป็นนักร้อง แต่วันนี้ถึงขั้นเก็บของเก่าขาย คือที่บ้านเก็บมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่พี่ชายจะเสีย พี่ชายเป็นคนเริ่มต้นเก็บ เขาเป็นคนที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง แล้วก็ทำงานอย่างอื่นไม่ได้ แล้วอยู่ที่บ้านเขาไม่รู้จะทำอะไรก็เลยเก็บของเก่าสะสมแล้วเอามาขาย เป็นรายได้ของเขา เมื่อก่อนราคาดีมาก ช่วงนี้ราคามันลดลง กองใหญ่มาก แต่ได้เงินแค่ร้อยกว่าบาท เราก็เก็บจากแถวบ้าน เราอยู่กรุงเทพฯ แล้วเรากลับบ้าน เราก็เก็บสะสม เอาไปให้เขาด้วย ก็เก็บจากที่บ้าน แล้วก็เดินไปข้างทาง ร้านค้า เห็นมันข้างทางก็เก็บมา

ถามว่าตกอับไหม มันก็พอถูๆ ไถๆ ไปได้ ตอนนี้ยังไม่ถึงขอรับบริจาค แล้วจริงๆ มันเป็นอาชีพที่ไม่น่าอาย เพราะว่าอันนี้สอนลูก สอนหลานได้ เพราะว่าหลานตัวเล็กๆ เขาก็รู้จักเก็บขยะเอามาให้ย่า ให้ยายขาย เหมือนเราสอนเขาไปในตัว”

เผยโซเชียลถามไม่อายเหรอเก็บขยะมาขาย บอกเป็นอาชีพสุจริต
อัมพร : “ก็ได้อ่านอยู่ค่ะ แต่ว่าก็มีหลายคนที่ให้กำลังใจเราก็มี มันเป็นอาชีพที่สุจริต เราไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร เราไม่ท้อ เพราะว่าเราทำความดี เราไม่ได้ทำอะไรที่ไปเดือดร้อนคนอื่น การเก็บของเก่าขายมันเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าของเก่าๆ ที่เขาไม่ได้ใช้แล้ว เราเก็บมาสามารถเอาไปรีไซเคิลใหม่ได้

สมัยเด็กๆ ลำบากมากๆ ลำบากกว่านี้ครอบครัวก็ทำไร่ ทำนา ไม่เคยได้กินอาหารดี ๆกับเขา หมู เห็ด เป็ด ไก่ ครอบครัวเราไม่มีโอกาสได้กินแบบนั้น ก็เก็บผักบุ้งเอามาแกงส้มใส่ปลากระป๋องบ้าง เป็นอาหารที่เลิศที่สุดแล้ว ณ ตอนนั้น

พ้อชีวิตมีแต่คนมีครอบครัวมาจีบ ไม่คิดเป็นเมียน้อยใคร
อัมพร : “ใช่ค่ะ บางคนก็บอก บางคนก็ไม่ได้บอก รู้ด้วยสัญชาตญาณของตัวเอง ส่วนใหญ่จะคุยกันก่อนมากกว่า ไม่คิดจะเป็นน้อยเขา ถามว่าเจ็บไหม ทุกวันนี้ยังมีคนมาเสนอขอเลี้ยงดูเรา

คือเขาอยากดูแลเรา แต่พอเรารู้ว่าเขามีครอบครัวแล้ว เป็นพี่ เป็นน้องอะไรกันได้ แต่ถ้าให้เป็นครอบครัวกับเขาคงยาก เขาก็บอกนะว่าอยู่กับเขาแล้วสุขสบาย มีทุกอย่างให้หมดเลย”

ปิดตายเรื่องความรักดีกว่า
อัมพร : “ตอนนี้เราคิดว่าเราอายุเยอะแล้ว เราไม่อยากคิดเรื่องตรงนั้น ขอทำงานดูแลแม่ ดูแลครอบครัว ดูแลพี่น้องเราดีกว่า คือตอนนี้โควิดก็ระบาด เราไม่อยากมาคิดเรื่องตรงนั้นด้วย แต่ว่าคุยกันเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องได้ ช่วยเหลือกันในยามที่ลำบาก ตอนนี้มันไม่ได้คิดเรื่องตรงนั้น คิดว่าน่าจะปิดตายไปเลยดีกว่า ถ้ามีเข้ามาแล้วเราถูกใจเขา ก็อาจจะคุยกันไปก่อน คบกันก่อน บางทีไม่กี่เดือนเราเห็นก็ไปกันไม่ได้แล้ว”

รับมีลูกแล้ว 1 คน แต่เป็นลูกบุญธรรม
อัมพร : “มีจริงๆ 1 คน เป็นลูกสาว ตอนนี้อายุ 28 ปี เป็นลูกบุญธรรม จริงๆ เราไม่อยากเรียกลูกบุญธรรม เพราะว่าอยู่ด้วยกันเราก็รักเหมือนลูกจริงๆ เราก็อยู่ด้วยกันมาเป็น 10 ปีแล้ว”

จากนั้นรายการก็เชิญ “มนต์สิทธิ์ คำสร้อย” มาร่วมพูดคุยด้วย โดยมนต์สิทธิ์ยันไม่เคยเป็นสามีภรรยากัน
มนต์สิทธิ์ : “ไม่ได้เจอกันมาประมาณ 2-3 เดือนแล้ว ก็มาคนเชียร์เราสองคนเยอะ เชียร์เยอะมาก มนต์สิทธิ์ ร้องคู่อัมพร อยากให้เป็นเนื้อคู่กันจริงๆ จังๆ แต่เหมือนเพื่อนกันมากกว่า ส่วนที่คนเมาท์ว่าเป็นสามีภรรยา มันไม่ใช่ คือรักน้องเหมือนน้องคนนึง ไม่เคยจีบ ศิลปินค่ายเดียวกันไม่กล้าจีบ แต่ถ้าที่อื่นจีบหมดเลย”















กำลังโหลดความคิดเห็น