“นางงามมิสแกรนด์” เผยประสบการณ์จริง ติดโควิดไม่มีเตียง รพ.ก็ไม่รับตรวจ เครียดจัดถึงขั้นอยากกระโดดน้ำตาย ต้องรักษาตัวเองอยู่บ้าน ด้วยยาทั้งหมดที่ตัวเองมี แน่นหายใจไม่ออกยอมรับว่ารอดได้เพราะฟ้าทะลายโจร
“จั๊ม กัลยนันท์ มณีสุขใส” หนึ่งในผู้เข้าประกวด มิสแกรนด์สมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด-19 จากการประกวดเวทีนี้ ซึ่งกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ มีนางงามติดเชื้อถึง 13 คน และพี่เลี้ยง 9 คน หลังจากรักษาตัวจนหายดีจั๊มก็ได้เผยถึงประสบการณ์เฉียดตายทั้งน้ำตาว่า เป็นที่สุดของชีวิตเพราะหาโรงพยาบาลตรวจเชื้อได้ยากลำบากมาก ทั้งยังโดนเจ้าหน้าที่ปฏิเสธการตรวจเชื้อ เตียงก็ไม่มี รอดชีวิตมาได้เพราะการกินยาของตัวเองเท่าที่มี
“วันนี้ร่างกายของจั๊มเริ่มเป็นปกติแล้ว แต่ยังทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ได้เท่าเดิม เราทำอะไรจะเหนื่อยมากขึ้นกว่าเดิม ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะติดเชื้อเพราะระมัดระวังและดูแลตัวเองมาอย่างดีตลอด แต่เราก็ตัดสินใจเข้าประกวดเพราะหากถอนตัวต้องไม่อยากเสียค่าปรับจำนวนมาก ไม่คิดว่าการประกวดครั้งนี้จะต้องแลกมาด้วยชีวิต”
“ที่ออกมาพูดวันนี้เพราะตอนนี้ระบบการแพทย์ของเรารองรับไม่ไหวแล้ว เราจำเป็นจะต้องรักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน ประสบการณ์ของจั๊มอาจจะเป็นประโยชน์ให้กับหลายๆ คนที่กำลังหาทางออก และคนที่ไม่ติดก็จะได้รับความรู้ไปด้วย หลังจากการประกวดจั๊มเริ่มมีไข้ 3 วันหนาวสั่น ตอนแรกไปหาหมอที่คลินิกเขาก็ให้ยาแก้ไอ้เสมหะและยาลดไข้ พอกินยาไข้ก็ลดลง ก็กินยาหมอจนหมด มีเสมหะแต่ไม่ค่อยไอมาก”
“พอวันที่ 4 เริ่มไม่ได้กลิ่นหรือได้กลิ่นจางๆ กินอะไรก็เหมือนไม่รับรส กินนมสตรอเบอรี่ก็รู้สึกเหมือนน้ำเปล่า แล้วเวลาพูดเริ่มเหนื่อยพูดเยอะไม่ได้ พูดแค่พูด 5-6 ประโยคก็เหนื่อยแล้ว หายใจได้สั้น การสูดเข้าได้น้อย วัดค่าออกซิเจนได้ 94 เราก็ไปตรวจที่แล็ปผลก็คือเราติดเชื้อ แฟนเราก็ติดด้วยเพราะอยู่กับเรา เราก็พยายามลงทะเบียนติดต่อไล่โทรโรงพยาบาลทุกที่ แต่ไม่มีใครรับเราเลย เพราะผลเราไปตรวจแล็ป เขาต้องเอาผลตรวจยืนยันจากโรงพยาบาลเท่านั้นถึงจะเข้ากระบวนการรักษาได้”
“กระทั่งได้ไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เราก็แจ้งว่าเราติดนะเพราะเราไปตรวจแล็ปมาแล้ว เขาก็ดึงเอกสารออกไม่ให้เราตรวจ แล้วก็ไปโรงพยาบาลที่ 2 เราก็แจ้งเหมือนเดิมเพราะเราไม่อยากปิดบัง เขาดึงเอกสารเราออกไม่ยอมตรวจให้ ตอนนั้นคือร้องไห้เลยเริ่มกลัวมาก เพราะยังไม่ได้เตียง อยากกระโดดน้ำตายไปเลย คือเราโดนโรงพยาบาลปฏิเสธพอรู้ว่าเราเป็นบวกเขาทำรังเกียจเรา ดึงเอกสารออกจากมือเราไปเลย ทั้งที่เราบอกความจริงเพื่อจะได้ไม่ต่อแถวคนอื่นจะได้ไม่ต้องมาเสี่ยงด้วย เราอยากได้ผลตรวจเพื่อจะได้เอาเตียง ทำไมทำแบบนี้ เราท้อมาก เรานั่งรถจากบ้านเรามันไกลมากนะ ทำไมคุณไม่ช่วยทั้งทีคนไข้เข้ามาหาคุณถึงที่แต่กลับไม่รับเคส”
“ก็ร้องไห้กับแฟน ก็คิดกันสองคนจะตายไหม โทรหาใครก็ไม่มีใครเอาเราเข้าระบบ จริงๆ ต้องแก้ไขตรงนี้ ตรวจแล็ปก็ควรรับทำไมต้องเอาผลโรงพยาบาล เพราะถ้าเข้าถึงเร็วก็หายเร็ว มารอผลนานๆ ถ้าคนแก่ก็คงตายไปแล้ว ตรวจเร็วแจ้งผลเร็วรักษาเร็วก็หายเร็ว การต้องมารอผลตรวจหลายๆ วันนี่เวลามันเลยไปเท่าไหร่แล้ว มันคือนาทีชีวิต”
“ตอนนั้นรู้สึกอยากตายเลย เข้าใจเลยว่าคนที่ติดแล้วไม่มีที่รักษามันเป็นยังไง แต่โชคดีที่รุ่นพี่นางงามมีญาติเป็นบุคลากรทางการแพทย์อยู่ที่นั่น เขาก็เลยช่วยประสานให้จนเราได้รับการตรวจ พอผลออกทางโรงพยาบาลก็โทรบอกให้ไปถึงโรงพยาบาลภายในเที่ยง ซึ่งตอนนั้นมัน 11 โมงเราจะไปยังไงให้ทัน รถเราก็ไม่มีจะต้องประสานหารถมารับตัว มันเหมือนเขาปฏิเสธคนไข้ทางอ้อม สุดท้ายก็เลยไม่ได้ไปโรงพยาบาล”
“เราก็ประสานงานขอความช่วยเหลือไปทางเขต เขาจะให้ไปโรงพยาบาลสนาม แต่เท่าที่ได้คุยกับหมอเขาบอกว่า อาการเรายังถือว่าไม่เยอะมาก อยากให้กักตัวอยู่ที่บ้านมากกว่าเพราะถ้าไปโรงพยาบาลกลัวว่าจะไปรับเชื้อมาเพิ่ม คนที่รักษาตัวอยู่ที่ห้องแรงดันลบยังหายช้ากว่าคนที่รักษาตัวอยู่บ้าน และทางเขตก็ประสานกับโรงพยาบาลปิยะเวทให้ Home Isolation รักษาตัวที่บ้าน”
“ทางโรงพยาบาลก็โทรมาขอไลน์และติดตามอการ ส่งค่าออกซิเจนในเลือดที่เราวัดเองให้ตรวจทุกวัน ซึ่งยาที่ทานทั้งหมดก็เป็นยาของเราเอง มียาแก้ไข เสมหะ พาราลดไข้ ฟ้าทะลายโจร พยาบาลให้กินฟ้าทะลายโจร ก่อนอาหารครั้งละ 1 เม็ด 3 มื้อ 5 วัน ที่กินแค่นี้เพราะหนูลองกินครั้งละ 3 เม็ด เช้า กลางวัน เย็น เหมือนที่คนอื่นๆ เขากินกัน แต่ปรากฏว่าใจสั่น หัวใจเต้นผิดปกติแล้วก็ไอออกมา คือคนที่เป็นหัวใจก็จะมีผล แล้วเราเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจผิดปกติอยู่แล้ว”
“แล้วก็ให้กินกระชายปั่น น้ำขิง มะนาวอุ่น พยาบาลแนะนำให้กินแทนน้ำเปล่าเลย แล้วก็ให้เอายาหม่องน้ำเทใส่มือแล้วถูๆ พอมันร้อนก็สูดเยอะๆ ถ้าเรายังสูดได้ แปลว่า ยังไม่ได้ลงปอด หนูใช้ยาดมเขียวเทใส่มือแล้วก็ถูๆ ทำแบบนี้ทั้งวันทำไปเรื่อยๆ มากเท่าไหร่ยิ่งดี เวลาหายใจติดขัดจมูกไม่โล่งทำแล้วจะโล่งทันที อันนี้เป็นการขยายหลอดลมหรือหลอดเลือด”
“โชคดีที่มีชีวิตรอด มันมีโอกาสตายเยอะ คิดว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ตอนนั้นหอบมาก ไม่เคยเหนื่อยจนขอวางสาย คิดว่าต้องเข้าไอซียู มหัศจรรย์จากที่อาการค่อยๆ ดีขึ้นหายใจได้ดีขึ้นไม่แน่นกระทั่งเป็นภายใน 15 วัน ตอนนี้สามารถคุยโทรศัพท์ได้เป็นปกติแล้ว แต่เวลาทำอะไรจะเหนื่อยเร็วกว่าเดิม ร่างกายค่อยๆ ฟื้นตัว”
“อยากขอบคุณนางงามด้วยกันที่ทุกคนช่วยหาโรงพยาบาลติดต่อทุกอย่างให้ นางงามเจอกัน 3 วันแต่รู้สึกเป็นพี่น้องแท้ๆ หนูไปโรงพยาบาลต่างๆ เขาโทรหาหนูทั้งวัน แล้วพิมพ์หาตลอดว่า เป็นไงบ้าง หลายๆ คนรักเราเป็นห่วงเรามาก ครอบครัวเราพี่ๆ น้องๆ เพื่อนคนอื่นก็ทักมาหาเยอะมาก”
“ขอบคุณทางโรงพยาบาล และพยาบาลที่ติดตามอาการของเราทุกวันทางโทรศัพท์ เป็นธุระของเราในหลายๆ เรื่อง ขอบคุณหน่วยงานต่างๆ และทางเขต 1668 แล้วก็ 1330 ที่ส่งข้าวมาให้ แล้วก็มีเพจต่างๆ ที่ช่วยเรา ถามว่าเราได้เตียงหรือยัง”
“ตอนนี้ถ้าได้ใช้ชีวิตปกติแล้ว ก็เตรียมออนไลน์ แล้วก็ทำงาน ไม่ทำงานไม่ได้ ถ้าไม่ทำก็ขาดรายได้ ก็จะไปบอกต่อคนอื่นว่าเรารักษาหายจริงๆ บางคนบอกฟ้าทะลายโจรเป็นจิตตวิทยา แต่มันหายจริงๆ เพราะหนูไม่ได้รับยาจากโรงพยาบาลมากิน เรากินยาเท่าที่เรามีจริงๆ”
