“แมตต์ เดมอน” ยอมรับตรง ๆ ว่า เขารู้สึกตั้งแต่ระหว่างถ่ายทำหนัง The Great Wall แล้วว่าผลงานที่ออกมา น่าจะห่วยแน่ๆ และถึงปัจจุบันก็ยังโดนลูกสาวล้อถึงเรื่องนี้อยู่เลย
เมื่อ 5 ปีก่อน แมตต์ เดมอน เคย ให้สัมภาษณ์ว่าเขาตื่นเต้นมากที่จะได้ทำงานกับผู้กำกับชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่โด่งดังในระดับโลกอย่าง จางอี้โหมว เป็นครั้งแรก แต่สุดท้าย หนังแฟนตาซีย้อนยุค The Great Wall กลับกลายเป็นงานที่ย่ำแย่ที่สุดของทั้งตัวเขาเอง และของผู้กำกับ
“ผมรู้สึกได้ทันทีเลย ว่าหายนะมันเกิดขึ้นแบบนี้เอง” เดมอน กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับพ็อตแคสต์ WTF ของ มาร์ค มารอน “หนังมันมีอะไรที่ไม่เข้ากันเต็มไปหมด จนทำออกมาเป็นหนังไม่เวิร์คมาก ๆ”
“ซึ่งทำให้ผมได้รู้สึกเลย ถึงคำว่านักแสดงมืออาชีพ ที่ต้องบอกตัวเองว่ามันเหลืออีกสี่เดือนที่จะต้องทำงานต่อไป เหมือนทหารในสนามรบ ที่แม้จะต้องตายแน่ ๆ แต่ก็ต้องสู้ต่อไป แน่นอนว่าในการทำงานสร้างสรรค์ มันเป็นความรู้สึกที่ห่วยแตกมาก ผมก็ได้แต่หวังว่าคงจะไม่เกิดเรื่องอะไรแบบนี้ขึ้นอีกแล้วแล้ว”
The Great Wall ที่ระดมดาราชาวจีนทั้ง หลิวเต๋อหัว, จางหันอีว์, หลินเกิงซิน, จิงเทียน และอีกมากมาย มาประกบกับดาราฮอลลีวูดอย่าง เดมอน และ เปโดร ปาสคาล เป็นการทำหนังภาษาอังกฤษครั้งแรกของ จางอี้โหมว กลายเป็นความล้มเหลวของทุกคนที่เกี่ยวข้อง
แม้สุดท้ายหนังจะทำเงินเกิน 300 ล้านเหรียญฯ แต่เมื่อรวมทั้งทุนสร้าง และค่าใช้จ่ายในการตลาดแล้ว ก็ยังทำให้ผู้สร้างขาดทุนระดับ 75 ล้านเหรียญฯ อยู่ดี
ซึ่งแม้จะพยายามลืมหนังเรื่องนี้ให้ได้ แต่ลูกสาวของ แม็ต เดมอน ก็มักจะหยิบเอาความล้มเหลวครั้งนั้นมาล้อเลียนเขาอยู่เสมอ “เวลาคุยกันเรื่องหนังลูกผมก็จะหาทางพูดถึงหนังเรื่องนี้ให้ได้ และจะเรียกว่า The Wall พอผมท้วงไปว่าหนังชื่อว่า The Great Wall ต่างหาก ลูกก็จะย้อนว่า ‘หนังมันไม่เห็นมีอะไร Great เลยพ่อ”