เปิดหมดเปลือก ผกก. “ธิดาซาตาน” ละครขายขำ บ้งแต่ปังแห่งปี พุ่งติดเทรนด์ ถูกใจได้คลายเครียดให้คนดู แต่วอนเห็นใจนักแสดงได้รับโจทย์ต้องเล่น ส่วนตนได้รับโจทย์ต้องปั้น ลั่นอย่าบูลลี่ โดยเฉพาะพระเอกที่พูดไม่ชัด รับเคยฟิวส์ขาด นักแสดงเล่นไม่ได้เทกยับ ถึงขั้นเตะเก้าอี้พังยับกลางกองไปหลายตัว มีดรามากับนักแสดง ลั่นฉากเปิดประตูถ่ายติดทีมงาน ไม่ได้ชุ่ย แค่เป็นเทคนิค
แม้เทรนด์ทวิตเตอร์จะมีแต่เรื่องร้อนแรง แต่บอกเลยว่าถ้าไม่ร้อนแรงจริง #ธิดาซาตาน คงไม่ขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่งเป็นแน่ เพราะเริ่มจากการที่มีคนแคปฉากที่ “ฟิลลิปส์ ทินโรจน์” ที่รับบท “เชนทร์” พูดไทยคำอังกฤษคำแล้วไปลงใน TikTok จนหลายคนขำกับสิ่งที่เจ้าตัวแสดง วิจารณ์กันสนั่นลั่นทุ่ง เท่านั้นยังไม่พอ ละครเรื่องนี้ยังถูกจับผิดอีกกับฉากที่ประตูเปิดเอง แต่กลับเห็นทีมงานนั่งดึงประตูชัดเจน อีกหลายๆ ฉากยังทำให้ชาวเน็ตข้องใจว่าเป็นความตั้งใจของผู้กำกับที่อยากทำให้ละครออกมาแนวนี้หรือไม่
“ธิดาซาตาน” เป็นละครละครแนวดรามา แฟนตาซี พลังลึกลับดิน น้ำ ลม ไฟของ 4 สาวทายาทอสูร กับพลังอำนาจที่อาจเกินต้านทาน นำแสดงโดย สกาย มาเรีย เฮิร์ชเลอร์, เจสซี่ กิระนา จัสมิน ชูว์เทอร์ , เทีย ทวีพาณิชย์พันธุ์ จากรายการเดอะเฟซ, แอปเปิ้ล ลาภิสรา อินทรสูต และ “ฟิลลิปส์” ผู้ชนะจากเวทีเดอะเฟซแมนเป็นพระเอก ซึ่งจะออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 21.30 น. ทางพีพีทีวี ช่อง 36
ด้านผู้กำกับของเรื่องนี้อย่าง “แชมป์ อินทนนท์ รัตนากาญจน์” ได้เล่าให้ฟังว่ากว่าจะมาเป็นละครเรื่องนี้ต้องใช้เวลาถ่ายทำเกือบ 2 ปีและรอออนแอร์อีก 2 ปีรวมเป็น 4 ปีกับโจทย์ที่ถูกมอบหมายมาคือให้ปั้นนักแสดงเหล่านี้ ทั้งความใหม่ของนักแสดง เรื่องภาษาที่แต่ละคนก็ไม่ค่อยแข็งแรงในด้านภาษาไทย ณ เวลานั้น จนบางทีเจ้าตัวก็ต้องเทกยับ จนระดับความโกรธเตะเก้าอี้พัง! รวมไปถึงกระแสต่างๆ ที่ถูกพูดถึงจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์
“เหมือนเป็นปรากฏการณ์อะไรบางอย่างที่ถล่มทลาย ฟีดแบ็กเกินคาด เห็นมีติดเทรนด์ทวิตเตอร์ แต่ผมไม่ได้เล่นทวิตเตอร์ แต่ก็มีคนมาเล่าให้ฟัง เพราะละครเรื่องนี้สร้างเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ถ่ายทำ 2 ปี และกว่าจะมาออนแอร์อีก 2 ปี ก็รวมๆ แล้ว 4 ปีพอดี และที่ใช้เวลาถ่ายกว่า 2 ปีมันมีเอฟเฟ็กต์เยอะ มันเลยถ่ายได้ช้า และนักแสดงใหม่หมด มีฉากที่ต้องมีเอฟเฟ็กต์ด้วย และเรื่องภาษาด้วย อย่างฟิลลิปส์ เขาเป็นคนสวีเดน เขาไม่ใช่คนไทยแม้เขาจะหน้าไทยก็ตาม พูดไทยเป็นคาราโอเกะ อ่านบทก็ต้องเป็นคาราโอเกะ ณ ตอนนั้นเขายังพูดไทยไม่ค่อยได้ อันนี้หมายถึงเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพราะเป็นละครเรื่องแรกของน้องเขาด้วยแหละ
ย้อนกลับไปวันแรกที่เราได้รับโปรเจ็กต์นี้มาคือ เราเกือบทั้งหมด ฟิตติ้งเสื้อผ้า ดูการเรียนแอ็กติ้งของเด็กๆ เพราะโจทย์ที่ได้มาคือปั้นเด็กพวกนี้ เขามาจากการประกวดเดอะเฟซ พอเขาประกวดเสร็จ ก็ต้องมีงานรองรับ เราก็ต้องเอาเด็กของเรามาเล่นก่อน เขาได้ตำแหน่งมาแล้วเราก็ต้องป้อนงานให้เขา ถามว่าหนักใจไหม เพราะทุกคนดูใหม่หมดสำหรับการแสดงและบางคนก็อาจจะพูดภาษาไทยไม่ชัด ก็หนักใจอยู่บ้าง มันก็จะมีเรื่องของการสื่อสาร พอเรารู้ข้อจำกัดของน้องแล้ว เราก็พยายามปรับบทให้เข้ากับน้อง เราปรับบทให้เขาพูดไทยคำ พูดอังกฤษคำ ตั้งแต่แรกแล้ว พูดให้มันง่ายและสั้นที่สุด ให้เรียกไอกับยูเลย และบทที่เห็นออกอากาศไปแล้ว คือปรับมาให้น้องได้สื่อสารกันได้ แต่โจทย์แรกคือเราต้องทำงานกับน้องเขานี่แหละ แต่น้องๆ ทุกคนก็ตั้งใจมาก เพราะเป็นเรื่องแรกของเขากัน
ซึ่งในระหว่างถ่ายทำ อย่างมีฉากนึง เราอธิบายว่าให้เขาทำตัวให้เป็นเสือผู้หญิงหน่อย แต่สุดท้ายก็เล่นไม่ได้ เราก็เลยถามว่าเข้าใจคำว่าเสือผู้หญิงไหม เขาก็บอกว่าเสือตัวเมียใช่ไหมครับ (หัวเราะ) ไอ้เราก็ขำไง เขาก็แปลตรงตัว เราก็ต้องอธิบายก่อนว่าเสือผู้หญิงหมายถึงอะไร คือเขาไม่เก็ตไง ต้องอธิบายเพราะน้องเขาไม่ใช่คนไทย บางคำอาจจะไม่รู้ความหมาย และอีกปัญหาก็คือเอฟเฟ็กต์ที่มันต้องมีบลูสกรีน เด็กใหม่ๆ เขาอาจจะไม่เข้าใจในเทคนิคนี้เท่าไหร่ ต้องปรับต้องจูน และก็เพิ่มการเต้นเข้าไป เพราะน้องๆ เต้นกันได้ ฟิลลิปส์เต้นเก่งอยู่แล้ว ซึ่งเวอร์ชั่นที่แล้วเป็นเชียร์หรีดเดอร์ แต่เวอร์ชั่นนี้ก็เป็นการแข่งเต้น
ผมเข้าใจบางคนที่คิดว่าน้องเล่นไม่ได้และเอามาเล่นทำไม แต่โจทย์แรกที่เราได้รับมาคือเอาน้องพวกนี้เป็นที่ตั้ง ผู้บริหารคือจะปั้นเด็กกลุ่มนี้ด้วย แรกๆ น้องเขาอาจจะเล่นแข็ง เล่นเกร็งไปบ้างเพราะเป็นละครเรื่องแรก และหลังๆ สกาย คือดีดนิ้ว ร้องไห้ได้เลยนะ แรกๆ แข็งๆ หลังๆ จะได้เห็นพัฒนาการของน้องๆ เขา
(อย่างเราเป็นผู้กำกับ มีเหนื่อย มีท้อ เราร้องไห้ระหว่างถ่ายทำไหม?) ก็คือผมกระโดดถีบเก้าอี้ พังไปหลายตัวแหละ มีดรามากับนักแสดงบ่อย คือแรกๆ ที่เริ่มถ่ายทำ คือเราโกรธ คือน้องเล่นไม่ได้ วันนึงถ่ายได้ 5-6 ซีน ซึ่งตอนนั้นน้องเขาใหม่มาก เวลามันก็บีบ ทุกอย่างมันกดดัน เราก็เลยกระโดดถีบเก้าอี้ก่อนเลย (หัวเราะ) และด้วยความที่เป็นเด็กฝรั่ง แต่นี่คือช่วงแรกๆ เลย แต่พอหลังๆ คือเล่นกันได้ คล่องกันเลย แต่สิ่งที่เราต้องการ เพราะเราอยากให้น้องทำได้และอยากให้มันออกมาดี จริงๆ ก็ทำทั้งหมดก็เพื่อพวกเขาแหละ เพราะเด็กๆ คือตั้งใจกันมาก อย่าลืมว่าเขาเป็นเด็กใหม่ บทมันยาว มีทั้งเต้นด้วย มันยากนะ สำหรับเด็กที่เพิ่งลงจากเวทีและมาทำหน้าที่ตรงนี้เลย
และฉากประตู น่าจะเป็นการประสานงานในด้านของห้องตัดต่อ เพราะฉากนี้เราตั้งใจถ่ายทำเลย มันต้องเป็นฉากประตูเปิดปิดเอง เราถ่ายล็อกเฟรมมาเพื่อจะไปลบคนที่คอยปิดเปิดประตูออก ซึ่งมันก็เป็นเทคนิคทั่วไปของการถ่ายทำ ไม่ว่าจะโหนสลิง เราก็ต้องลบสลิงออก แต่ไม่รู้ว่าเกิดการผิดพลาดตรงไหน หรือว่าห้องตัดเขาคงเข้าใจว่าคนที่อยู่ข้างหลังประตูคงเป็นผีแหละ ผอมๆ เหมือนผีหน่อย เขาคงคิดว่านักแสดงที่อยู่ในฉากนั้นคงเห็นผี เห็นวิญญาณ ฝากแก้ข่าวให้ด้วยนะ (หัวเราะ)
แต่พอกระแสมันออกไปแล้ว มีคนจับผิดโน่นนี่นั่น แต่โชคดีที่เราไม่เล่นโซเซียลไง แต่พอมีนักข่าวโทร.มาถาม เราก็จะได้อธิบายให้ฟังว่าที่มาที่ไปมันยังไง อย่างฉากปิดเปิดประตู ถ้าไม่มาถามเรา คนดูเขาก็ไม่รู้หรอกว่ามันเกิดปัญหาจากตรงไหน เขาก็อาจจะคิดว่าทำไมมันชุ่ยขนาดนี้ แต่พอมีคนมาถาม เราก็ได้อธิบาย มันเป็นเทคนิคการเปิดปิดประตู ซึ่งถ้าไม่ใช้แบบนี้ แล้วเราจะใช้วิธีไหนล่ะ
หรือเรื่องการพูดของพระเอก ในการพูดไม่ชัด เราก็อยากจะบอกว่าย้อนกลับไปตอนนั้น วันหนึ่งเราได้ถ่าย 5-6 ฉากเอง เพราะน้องเขาพูดไม่ได้ อย่าลืมนะว่าเขาหน้าไทย แต่เขาโตที่สวีเดน เปรียบง่ายๆ คือถ้าเราได้เล่นละครและต้องพูดภาษาสวีเดน และทั้งชีวิตไม่เคยพูด มันยากนะ ซึ่งการที่เขามาเล่นละคร เพราะเขาประกวดชนะมา เขาก็ต้องมาเล่นละคร ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด น้องเขาก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ณ เวลานั้นเช่นกัน เราก็ทำหน้าที่กำกับให้ดีที่สุด ณ เวลานั้นเท่าที่เราจะทำได้
เราเห็นความตั้งใจของน้องๆ เขามาก มาเวิร์กช็อป ฟิลลิปส์เล่นคิวบู๊เอง และใช้เวลาถ่าย 2 ปี ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงถอดใจไปแล้ว แต่นี่คือแต่ละฉากต้องเข้าภูเขา เข้าถ้ำ เข้าป่า ไปต่างจังหวัด และโลเคชั่นอยู่ไกล คือถ้าไม่มีใจ มันไม่เล่นแล้ว
แล้วถ้าตอนนี้คนดูแล้วจับผิดไป แล้วขำไป คือเราต้องเข้าใจอย่างแรกก่อนเลยว่า เวลาเราดูคนพูดไทยไม่ชัดแล้วเราขำ หรือเราดูคนจีนพูดไทยไม่ชัดแล้วเราขำ แต่ในอีกมุมมองนะ การที่เขาพูดไทยไม่ชัด นั่นหมายถึงว่าเขาพูดได้มากกว่า 2 ภาษา เราก็เลยไม่อยากให้มานั่งจับผิดว่าเขาพูดไม่ชัดหรือว่าอะไร เอาเป็นเรื่องสนุกได้ แต่ต้องเข้าในว่า ณ ตอนนั้นเนเจอร์เขาเป็นคนแบบนี้ (คืออย่าไปบูลลี่หรือไปว่าเขาถ้าพูดไทยไม่ชัดแล้วจะมาเล่นละครทำไม?) ใช่ครับ และมันก็คือหน้าที่ของเขา ที่เขาต้องเล่นเหมือนกัน
และเวลาติดเทรนด์ทวิตมันก็คือต้องเป็นสิ่งที่อยู่ในกระแสอยู่แล้ว ไม่ว่าจะพูดถึงในทางดีหรือไม่ดีก็ตาม แสดงว่าอันดับแรกมันมีคนสนใจ อันดับสองเวลา 21.30 น.ของช่อง pptv บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าช่องนี้มีละครตอนนี้ด้วยเหรอ แสดงว่าละครเรื่องนี้มันต้องทำอะไรจิตใจเขา จึงทำให้เขาถึงจะดู ดูแล้วมีความสุข ดูแล้วขำ คือเราเสพข่าวเครียดทั้งวัน แต่พอมาดูละคร เหมือนได้ระบาย ด่าไอ้ฟิลลิปส์ซะหน่อย นอนจะได้มีความสุข และถ้าทำให้คนไทยได้มีจิตใจเบิกบานไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม มันเป็นผลดีนะครับ คือเราก็เป็นห่วงน้องๆ กับกระแสวิจารณ์ที่เกิดขึ้น แต่เห็นว่าฟิลลิปส์ก็ลงคลิปนั้นแกงตัวเองเหมือนกัน ส่วนมันจะมีผลกระทบต่อเราไหม ไม่เป็นไร เพราะชื่อเสียงเราไม่ค่อยดีอยู่แล้ว (หัวเราะ)”