หลังจากกักตัวมาเกือบครบ 10 วัน เนื่องจากเจ้าตัวได้ไปเจอผู้กำกับโฆษณามา แต่หลังจากผลผู้กำกับตรวจรอบ 2 ออกมาเป็นลบ จึงทำให้ผู้ที่พบเจอในวงที่หนึ่งและวงถัดไป ไม่ต้องกักตัว แต่ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ก็ได้กักตัวต่อจนครบ 10 วัน และออกมาจัดรายการ “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” และ “โหนกระแส” ในวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา
แต่ก่อนจะออกจากการกักตัว พิธีกรคนดังก็ได้ไลฟ์สดระบายความในใจต่างๆ นานา โดยหนึ่งในประเด็นนั้นที่เจ้าตัวพูดถึง คือการที่ถูกชาวเน็ตบางคนคอมเมนต์ว่า “กรรชัย ทำไมโง่จัง”หรือว่า “เป็นพิธีกรภาษาอะไร ทำไมไม่ทำการบ้าน” ซึ่งย้อนกลับไปในเทปของรายการโหนกระแส ที่เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมาเป็นแขกรับเชิญ แล้วมีบางคำถามที่ถามว่า “กระทรวงทำไมจะต้องไปขอความร่วมมือกับโรงเรียนภาคเอกชน คือออกคำสั่งไปเลยไม่ได้เหรอ?” จึงเป็นที่มาของคอมเมนต์ดังกล่าว เจ้าตัวจึงขอร่ายยาวอธิบายให้เข้าใจ พร้อมบอกว่าพิธีกรที่ดีต้องโง่ เพราะถ้าฉลาดแล้ว จะเชิญแขกรับเชิญมาเพื่ออะไร ทำไมไม่พูดคนเดียวไปเลย
“ไหนๆ จะได้พูดแล้วก็ขอพูดนิดนึง ก่อนหน้านี้ผมเชิญท่านรัฐมนตรีศึกษาธิการมาออกรายการ ผมถามไปว่าทำไมเราจำเป็นต้องขอความร่วมมือจะโรงเรียนภาคเอกชน เราจะออกคำสั่งไปเลยไม่ได้เหรอ จริงๆ ผมรู้ว่าความจริงมันคืออะไร แต่ก็มีคนโพสต์ถึงผมเยอะเหมือนกันว่าควรไปทำการบ้านมา ไม่ใช่มานั่งถามแบบนี้ บางคนก็อาจจะรู้สึกว่าไปถามแบบนั้น ไม่มีความรู้เลยเหรอ กรรชัยนี่โง่จริงหรือว่าโง่หลอกกันแน่ ผมบอกตรงนี้เลยนะครับว่าผมเป็นพิธีกรที่โง่ที่สุดในโลก ผมบอกไว้เลยว่าผมเป็นคนที่โง่ที่สุดในโลก ผมบอกไว้เลยว่าคนที่จะเป็นพิธีกรต้องเป็นคนที่โง่ที่สุดในโลก เพราะถ้าพิธีกรเป็นคนที่ฉลาด รู้ทุกเรื่อง ไม่ต้องเชิญแขกรับเชิญมาหรอกครับ พิธีกรนั่งอธิบายคนเดียว พูดคนเดียวได้เลย
รายการของผมคือรายการที่เชิญคนมาพูด เชิญคนมาออก เชิญคนมาทอล์ก เพราะทุกสิ่งทุกอย่างผมเป็นกระบอกเสียงของชาวบ้าน ผมต้องถาม คนที่มานั่งต้องตอบ ถ้าผมต้องมานั่งตอบเอง ผมถามนิดนึง ผมจะเชิญแขกมาทำไม ผมก็พูดเองก็ได้ไงครับ คือคำถามบางคำถาม ผมเชื่อว่าประชาชน คนไทยก็ไม่มีใครรู้หรอกครับ ว่ากระทรวงศึกษาธิการจะมีอำนาจไปสั่งโรงเรียนเอกชน ด้วยบริบทมันน้อยมาก มันมีเส้นที่กั้นอยู่ เพราะฉะนั้นในสิ่งที่ผมถาม ผมอยากจะให้ท่านรัฐมนตรีเป็นคนอธิบาย แต่พอดีความชัดเจนมันไม่ได้เกิด มันก็เลยกลายเป็นประเด็นที่เกิดขึ้น หลายคนก็เลยถามว่ากรรชัยมึงโง่เหรอที่ไปถามแบบนั้น ผมโง่ครับ พิธีกรเป็นคนที่โง่ที่สุดครับ คุณไม่สังเกตเหรอถ้าพิธีกรฉลาดๆ เวลาแขกรับเชิญมาพูดแทนแขกรับเชิญหมด และเชิญเขามาทำไม ถูกไหมครับ วิธีการของผมมันไม่ใช่แบบนั้น
ของผมคือเชิญมา แล้วก็ถาม แล้วคุณก็ตอบ 1+1 เป็นเท่าไหร่ 2 หรือ 2+2 เป็นเท่าไหร่ 4 แค่นั้นก็จบ ซึ่งผมก็รู้ แต่ผมไม่จำเป็นต้องพูด ไม่จำเป็นที่พิธีกรต้องมาพูดว่า 1+1 เป็นเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายมันก็คือ 2 แล้วผมจะต้องไปอารัมภบทขนาดนั้นทำไม อันนี้คือฝากให้ทำความเข้าใจด้วยนะครับ จะได้รู้ว่าผมยอมรับว่าผมโง่ ผมเป็นพิธีกรที่โง่ที่สุดในโลก และผมเชื่อว่าพิธีกรที่โง่ที่สุดในโลก และพอจะถามอะไรจะเข้าทางมากที่สุด เพราะเราอยู่บนบรรทัดฐานที่เราไม่รู้จริงๆ ถึงต้องถามคนที่รู้ คนที่รู้ถึงต้องตอบ อันนั้นคือสิ่งที่ผมอยากจะพูด”
