xs
xsm
sm
md
lg

เข็ดจนตาย! “กิมย้ง” กับ “ฉีเคอะ” และ “เดชคัมภีร์เทวดา”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ฟ้าธานี



"ฉีเคอะ" กำลังจะหยิบเอานิยาย ระดับตำนานของ "กิมย้ง" เรื่อง "มังกรหยก" ภาคสอง มาสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วยการตีความใหม่ตามสไตล์ โดยตอนนี้ ขั้นตอนอยู่ในช่วงของการเตรียมงานสร้างก่อนจะถ่ายทำ

เรียกว่าครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบร่วมจะสามสิบปี ที่ ฉีเคอะ ได้หยิบงานของ กิมย้ง มาทำเป็นหนังอีกครั้ง หลังจากเคยทำหนังชุด "เดชคัมภีร์เทวดา" จนประสบความสำเร็จแบบสุดๆ แต่หลังจากนั้นเขากลับไม่ได้แตะงานของ กิมย้ง อีกเลย ซึ่งจริง ๆ เรื่องนี้มันมีสาเหตุสำคัญอยู่

ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีก่อน ฉีเคอะ ตั้งใจว่าจะนำนิยายกำลังภายในที่เขาประทับใจที่สุดอย่าง มังกรหยก มาทำเป็นภาพยนตร์ แต่เพราะอยากจะลองหาทิศทางในการทำหนังดูก่อน ก็เลยหยิบงานเล่มอื่นของ กิมย้ง มาดัดแปลงเป็นหนังดูก่อน สุดท้ายก็เลยมาลงตัวเอาที่ "กระบี่เย้ยยุทธจักร"

กระบี่เย้ยยุทธจักรฉบับหนัง หรือ "เดชคัมภีร์เทวดา" มีเนื้อหาที่ดัดแปลงไปพอสมควร แต่ดูเหมือนว่า กิมย้ง ก็พอจะรับได้ แถมหนังยังประสบความสำเร็จทำเงินในต่างประเทศได้มากมาย สุดท้ายก็เลยมีภาคต่อตามออกมา

"เดชคัมภีร์เทวดา 2" เป็นภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้สัญชาติจีน ค.ศ. 1992 เขียนบทและผลิตโดย ฉีเคอะ กำกับภาพยนตร์โดย ชิง เสี่ยวถัง นำแสดงโดย หลี่ เหลียนเจี๋ย,กวน จือหลิน,หลิน ชิงเสีย,หลี่ เจียซิน ขณะที่ "เดชคัมภีร์เทวดา 3 : หมื่นปีมีข้าคนเดียว" เรื่องนี้ ฉีเคอะได้หยิบเอาตัวละคร “ตงฟังปุ๊ป้าย” ฉายาบูรพาไม่แพ้ ประมุขพรรคสุริยันจันทรา แห่งผาไม้ดำ ผู้ยอมสูญเสียความเป็นชายเพื่อบรรลุยอดวิชาทานตะวันถึงขั้นเป็นผู้ที่ไร้เทียมทาน มาเป็นตัวละครเอกของเรื่อง

คราวนี้เรื่องราวยิ่งออกทะเล ห่างไกลจากหนังสือไปเรื่อยๆ ขณะที่ ฉีเคอะ เองได้เลือกที่จะดึงตัวนักแสดงชาวไต้หวัน "หลินชิงเสีย" มารับบทนำเพราะประทับใจในการร่วมงานกับครั้งก่อนในหนังเรื่อง "ศึกเทพยุทธเขาซูซัน" เนื่องจาก หลินชิงเสีย มีภาพลักษณ์สองขั้วคือทั้งดี และร้าย อยู่ในคนคนเดียวกัน ซึ่ง ฉีเคอะ ประทับใจส่วนนี้มาก

แต่พอเอาไปบอก กิมย้ง ตัวนักเขียนดังเจ้าของนวนิยายกลับไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ และมองว่าอยากจะใช้นักแสดงชายมารับบทเป็นตัวละคร ตงฟางปุ๊กป่าย เหมือนในซีรีส์หลายๆ เรื่องน่าจะดีก่วา

สุดท้าย ฉีเคอะ ก็ไม่สนใจคำแนะนำ และเลือก หลินชิงเสีย มาเป็น ตงฟางปุ๊กป้าย อยู่ดี ซึ่งถ้าดูจากบทภาพยนตร์ ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะ ฉีเคอะ เล่นดัดแปลงบท ตงฟางปุ๊กป้าย ที่ปรากฏในนิยายต้นฉบับเพียงไม่กี่แผ่น ให้กลายเป็นตัวละครนำของเรื่อง และพูดได้ว่าเป็นนางเอกของหนังภาคนี้ก็ว่าได้

แต่สุดท้ายหนังกลับออกมากลับเวิร์ก ประสบความสำเร็จถล่มทลาย ตัวของ หลินชิงเสีย ก็กลับมาดังอีกครั้ง ก่อนจะได้รับบทคล้ายๆ กันนี้ คือเป็นตัวละครชาย ผสมหญิงในหนังอีกหลายๆ เรื่อง

การตัดแปลงนิยายเป็นหนังแบบสุดโต่งแบบนี้ ยังทำให้  ฉีเคอะ ได้รับคำชมล้นหลามว่ามีความคิดหัวก้าวหน้า สร้างตัวละครข้ามเพศที่มีมุมมองในแง่บวก และมีบทบาทลึกซึ้ง่ แตกต่างจากตัวละครประเภทนี้ในหนังกำลังภายในส่วนใหญ่

ส่วนตัวของ กิมย้ง ไม่ได้ตำหนิอะไรมาก แถมยังชมว่า เจ็ท ลี คือคนที่มารับบทเป็น เหล่งหูชง ได้เหมาะสมที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา แต่สำหรับการดัดแปลง ตงฟางปุ๊กป่าย น่าจะเป็นสิ่งที่ กิมย้ง ไม่ค่อยแฮปปี้ นัก เพราะหลังจากนั้น ภาพของตัวละครที่เขาเคยเขียนเอาไว้ก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล สร้างใหม่เมื่อไหร่ ก็ใช้นักแสดงสาวสวยเล่นแทบจะทุกครั้ง

แม้จะไม่ค่อยแฮปปี้กับงานที่ออกมา แต่ กิมย้ง ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีของ ฉีเคอะ ตราบจนยอดนักเขียนเสียชีวิต ทว่าสำหรับเรื่องการทำงานแล้ว กิมย้ง ชัดเจนกับ ฉีเคอะ ว่าจะไม่อนุญาตให้เขาเอาหนังสือเรื่องไหนไปสร้างเป้นหนังอีกแล้ว

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่กว่าฉีเคอะจะได้ทำหนังมังกรหยก ก็ต้องรอคอยกันนานเป็นสิบๆ ปี รอจนกว่า กิมย้ง จะเสียชีวิตนั่นแหละ ถึงจะได้ทำ...







กำลังโหลดความคิดเห็น