“อาเล็ก” ดีใจได้ลองงานพิธีกรอีเวนต์ เพราะทำแต่ช่องของตัวเอง ถ้าต่อไปมีงานพิธีกรรายการทีวีตนก็ยินดี บอกร้านชาที่เพิ่งเปิดโดนผลกระทบจากโควิด แต่ยังโชคดีมีทุนเหลืออยู่ แต่ถ้าเป็นแบบนี้อีก 2-3 เดือนคงต้องคิดหนัก บอกดีใจกระแสละครดีมาก ทำใจหุ่นสู้ “กระทิง” ไม่ได้
ได้มาลองงานพิธีกรอีเวนต์ครั้งแรกทำเอาพระเอกหนุ่ม “อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ” ถึงกับตื่นเต้นไม่น้อย บอกถ้ามีโอกาสลองงานพิธีกรทีวีบ้างตนก็ยินดี เพราะถือเป็นการพัฒนาตัวเองไปอีกด้าน
"ตื่นเต้นครับ เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่มารับหน้าที่เป็นพิธีกรในงานอีเวนต์ ก็ต้องเตรียมตัวมากเหมือนกัน เพราะคิดว่าเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่เราไม่เคยได้ทำ แล้วเราก็ได้มาทำ คือที่ผ่านมา เราเป็นพิธีกรก็จะเป็นรายการของตัวเองในรายการอาหารของอาเล็ก แต่พอมาเป็นพิธีกรในงานของคนอื่น ที่เราต้องมาเป็นพิธีกรให้เขาจริงๆ มันจะเป็นอีกฟีลหนึ่งเลย ซึ่งเราก็จะต้องเตรียมตัว แล้วเราก็ทำการบ้านมาเยอะกว่าที่เราทำเอง เพราะของเรามันก็จะสบายๆ แต่อันนี้ต้องจริงจัง แล้วมันก็สนุกครับ เล็กอยากทำ
ถ้าในอนาคตมีโอกาสทำพิธีกรในทีวี ก็สนใจครับ เพราะนักแสดงเราก็ทำการบ้านอีกอย่างนึง การเป็นพิธีกรมันต้องมีการใช้การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มีไหวพริบในการตัดสินใจต่างๆ ตรงนั้นด้วย ก็เลยคิดว่ามันจะเป็นการพัฒนาตัวเองไปอีกลู่ทางนึง"
เผยธุรกิจร้านชาที่เพิ่งเปิดยังพอไปไหว เพราะมีแฟนคลับคอยช่วยไปอุดหนุน
"คือเราเปิดไปเมื่อวันที่ 20 เมษายน แล้ววันที่ 1 พฤษภาคม ก็คือห้ามนั่งกิน แล้วก็มาเปิดอีกที 14 พฤษภาคม แต่ตอนนั้นเล็กก็ยังไม่ให้คนมานั่งกินนะ เพราะตอนนั้นมันยังมีติดเชื้อ 2 พันกว่าอยู่ ยังกลัวอยู่ ก็เลยยังไม่ให้นั่ง เพิ่งมาให้นั่งเมื่อต้นมิถุนายน พอเปิดมาได้เกือบเดือน ก็โดนปิดอีก ก็เรียกว่าเราไม่เคยทำร้าน แล้วมันเป็นแบบนี้ก็ต้องประชุมกันบ่อยๆ เราก็ต้องหาวิธีการขาย เราเองก็ต้องเข้าร้านบ่อยๆ คือต้องขอบคุณแฟนคลับของเล็กกับเฟยมากๆ เลยที่มาอุดหนุนเรา แล้วก็มาหาเรา เรียกว่าเป็นผู้อุปการคุณ ผู้เกื้อหนุนจุนเจือให้เราผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ เขาจะรู้ว่าวันไหนเล็กมาเขาก็จะมาซื้อกัน มาถ่ายรูป มาซื้อของกิน ก็ถ้าไม่มีแฟนคลับคงลำบากกว่านี้ครับ (หัวเราะ)
คือไม่ใช่ว่าพอเราไม่เข้าร้านแล้วจะขายไม่ได้เลยนะครับ เราก็ยังพอไปได้ ด้วยความที่มันเพิ่งเริ่มด้วย มันก็ยังมีทุนที่พอที่จะดำเนินธุรกิจไปได้อยู่ แต่ถ้ามันเป็นแบบนี้ไปอีกเรื่อยๆ เราก็ต้องมาคิดกันอีกที รายได้ต่อวันเหรอครับ มันแค่ 10 - 20% ของเป้าหมายที่เราตั้งไว้เองมันน้อยมาก คือมันก็ยากนิดนึงครับ เพราะว่าเล็กเปิดร้านแถวๆ สีลม เป้าคือพนักงานออฟฟิศ แต่ตั้งแต่เปิดร้านมาออฟฟิศยังไม่เปิดเลย เวิร์กฟอร์มโฮมกันหมดเลย (หัวเราะ) คือมันคิดเยอะครับ จะทำโน่นทำนี่ เอาโบรชัวร์ไปแจก แต่ตอนนี้มันเดลิเวอรี่ได้อย่างเดียว คือต้องมาซื้อที่ร้านได้อย่างเดียว ก็เลยทำโปรโมชั่นออนไลน์เยอะขึ้น
ก่อนหน้านี้ก็มีคิดเผื่อเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เผื่อขนาดนั้น เราไม่ได้คิดว่าจะมาเจออะไรแบบนี้ แต่อย่างที่บอกว่า เราก็มีวางแผนไว้เผื่ออนาคต เราก็เลยยังดำเนินธุรกิจของเราตอนนี้ได้อยู่ แต่ถ้าสถานการณ์มันยังไม่ดีขึ้นเนี่ย เงินทุนที่เราสำรองไว้มันจะประคองธุรกิจไปได้อีกนานขนาดไหน ก็ยังไม่เคยคิดครับ แต่ว่าถ้าให้คิดตอนนี้ก็น่าจะสักประมาณ 3-4 เดือน ก็น่าจะแย่แล้ว น่าจะไปต่อไม่ไหวแล้วกับธุรกิจนี้ แต่ตอนที่เปิดได้มันดีมากเลยนะ เราได้จากช่วงนั้นเยอะเหมือนกัน มันก็เลยพอที่จะดำรงต่อไปได้"
ดีใจกระแสละคร “แค้นรักสลับชะตา” ดีเกินคาด ทำใจหุ่นสู้ “กระทิง ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์” ไม่ได้
"เราไม่ได้ถอดเยอะแยะ กระทิงถอดเยอะกว่า กระทิงหุ่นดีไง เราเองก็ลำบาก เพราะมานั่งฟิตหุ่นด้วยตอนนั้น เพราะถ้ากระทิงถอดปุ๊บ มันจะต้องมีสะท้อนกระจก อ้าว อาเล็กไป (หัวเราะ) ก็ไม่รู้สึกยังไง ช่วงนั้นก็คือกินอาหารเหมือนกันหมดเลย แล้วก็ฟิตไปด้วยกัน ก็ดีอยู่ครับ แต่กระแสละครคือดีมากเลย หลายคนบอกม้ามืด คือตัวเราเองก็ไม่คิดว่ากระแสตอบรับจะดีขนาดนี้ เรารู้ว่าละครสนุกมันแปลกใหม่ แต่เรารู้นะว่ามันไม่มีตบจูบ ไม่แมส แต่คือความที่ละครแปลกใหม่ มันเลยทำให้คนดูรู้สึกว่าจะมันไม่เหมือนละครไทยเรื่องอื่น คนก็เลยชมเยอะ แล้วก็ดูเยอะครับ
ถามว่าคนอินไหมฉากที่เราเพลย์บอยไหม อันนั้นเราก็ต้องทำการบ้านหนัก ทั้งเล็ก ทั้งกระทิง ที่ต้องเล่นเป็นสองบุคลิกให้แตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งจากกระแสตอบรับที่เราได้รับ เราก็พอใจครับ"
