“ไอซ์” เผยตอนนี้ “แม่เอ๋” เริ่มมีอาการเบาหวานขึ้นตา กำลังอยู่ในช่วงรักษา หมอบอกมีโอกาสหายได้ไม่น่าเป็นห่วง แต่เรื่องสภาพจิตใจตอนนี้คงยังอีกนานกว่าจะดีขึ้น เพราะตนเองก็ยังมองภาพพ่อแทบไม่ไหว แต่ต้องเข้มแข็งให้เร็ว เพราะต้องดูแลทุกคนให้ได้ดีที่สุด ไม่ขอพูดถึงคนอื่น อยากโฟกัสแค่เฉพาะครอบครัว ส่วนงาน 100 วัน “พ่อค่อม” คงจัดเฉพาะคนในครอบครัว บอก “แบงค์” ฉุนจัดคนมาคอมเมนต์ถึงตนว่าให้ระวังสามีจะแอบไปมีชู้
ถือว่าเป็นงานอีเวนต์แรกที่สาว “ไอซ์ ณพัชรินทร์ ปรีดากุล” ได้ออกมาเจอสื่อมวลชนหลังจากที่สูญเสีย “พ่อค่อม ชวนชื่น” ซึ่งในงาน Facebook Live : เพจร้อยเรื่องโรคเบาหวาน ในหัวข้อ ฉีดดี ไม่ฉีดดี? ณ The Eyes Live Studio (PM Live Studio) ซอยนวลจันทร์ 56 สาวไอซ์ก็ได้มาเผยถึงวิธีการดูแลตอนช่วงที่พ่อค่อมยังมีชีวิตอยู่ และตอนนี้ “แม่เอ๋ ประภาศรี ปรีดากุล” ก็เป็นโรคเบาหวานขึ้นตาแล้ว กำลังอยู่ในช่วงของการรักษาตัว
“มางานเบาหวานวันนี้ ก็ทราบกันอยู่แล้วว่าคุณพ่อเป็นเบาหวาน งานนี้ก็คงเหมาะกับไอซ์ที่สุดแล้วค่ะ (หัวเราะ) ตอนที่ดูแลคุณพ่อก็มีเรื่องอาหาร เรื่องการนอน และการทานยาค่ะ อีกนิดนึงก็คือเรื่องอารมณ์ของเขา เพราะคนเป็นเบาหวาน บางทีเฉพาะคุณพ่อหรือเปล่าไอซ์ไม่แน่ใจนะคะ ก็จะมีหงุดหงิดบ้างเป็นบางเวลา แต่คุณพ่อเป็นเบาหวานระดับปกติค่ะ ทานแค่ยาอย่างเดียว ไม่ต้องถึงกับฉีดอินซูลินเข้าไปค่ะ
แต่คุณพ่อดื้อมากค่ะ (หัวเราะ) คือคุณพ่อกับคุณแม่เขาจะทะเลาะกันตลอด คุณแม่เขาจะพยายามให้พ่อทานอาหารแบบนี้ๆ แต่เวลาคุณพ่อออกไปทำงานข้างนอกพี่ๆ ที่ทำงานเขาก็ตามใจ เขาก็ได้ทานอะไรที่สุขเกษมเปรมปรีดิ์เหลือเกิน แต่เขาก็คุมตัวเองอยู่ตลอดค่ะ เพราะคุณพ่อค่อนข้างจะซีเรียสในสิ่งที่ตัวเองเป็น อย่างเขาเป็นเบาหวาน ความดัน หรือมีอะไรเพิ่มเติมเขาจะค่อนข้างซีเรียสในการดูแลตัวเอง”
บอกอาการเบาหวานของแม่มีโอกาสหายได้
“ตอนนี้คุณแม่ก็เริ่มเป็นเบาหวานแล้วค่ะ เป็นเบาหวานขึ้นตา แต่ของคุณแม่ไอซ์เขาเป็นคนไม่เคยตรวจสุขภาพร่างกายเลย พอเบาหวานขึ้นตาก็คือตาเขาพร่า แล้วก็เริ่มมองไม่เห็น ก็ต้องรักษาโดยการฉีดยาเข้าไปในตา แล้วก็เลเซอร์เข้าไปในลูกตาของเรา เพื่อให้ดันลมอะไรสักอย่างออกมาได้ แต่คุณแม่นี่เห็นได้ชัดเลยค่ะว่าค่อนข้างจะกังวล และประจวบกับเรื่องคุณพ่อด้วย เห็นได้ชัดเลย
ไม่ใช่ผลกระทบจากโควิดค่ะ เขาน่าจะเป็นเบาหวานมาอยู่แล้ว แต่เขาไม่เคยตรวจ คือเขาดื้อ แล้วพอเป็นโควิดก็เลยได้เช็กว่าเป็น ของคุณแม่ก็ต้องดูแลเรื่องตรวจตาค่ะ จะตรวจเดือนละ 2 ครั้ง ตั้งแต่ออกมาถึงตอนนี้คุณแม่ได้รับการฉีดยาเข้าไปในลูกตา 2 รอบ รอบที่ 2 คุณหมอก็ค่อนข้างที่จะชมว่าดีขึ้น ตอนนี้ก็กลับมามองได้ปกติบ้างแล้ว คุณหมอบอกว่ามีโอกาสหายค่ะ คือโรคเบาหวานมันสามารถหายได้อยู่แล้ว อยู่ที่เราดูแลและควบคุม คือเขาเคยดูแลพ่อมาแล้วเขาก็กลับมาดูแลตัวเอง ก็ถ้าคนที่เป็นเบาหวานแล้วง่ายๆ เลยก็คือควบคุมอาหารสองถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็อย่าดื้อนะคะ ทำตามที่ลูกหลานแนะนำดีกว่า”
เผยงาน 100 วัน “พ่อค่อม” จะจัดเฉพาะคนในครอบครัว
“งาน 100 วัน คุณแม่เขาก็มีเคาะๆ มาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้สรุปแน่นอน อีกอย่างตอนนี้ยังทำอะไรที่เป็นพิธีการใหญ่หรือเอิกเกริกไม่ได้ ก็เลยอยากทำเฉพาะคนในครอบครัวค่ะ ช่วงที่ผ่านมาไอซ์กับคุณแม่รับกับสิ่งที่เกิดขึ้นยังไงบ้างเหรอคะ คือมันต้องมองบวกอย่างเดียวเลยค่ะ (น้ำตาคลอ) คือเราต้องเข้มแข็งให้เร็วที่สุดค่ะ มันต้องทำค่ะ เพราะถ้าเราไม่ทำ (ร้องไห้) ทุกวันนี้หนูยังดูทุกอย่างที่เป็นรูปพ่อไม่ได้เลย ไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่ว่าหนูออกมาสัมภาษณ์แล้วหนูร้องไห้นะ คือมันไม่ได้จริงๆ
ต้องเข้มแข็งค่ะ เพราะว่าตอนนี้คุณแม่ก็ไม่เหลือใครแล้ว น้องก็คือน้อง อย่างเราความเป็นพี่ก็คือต้องดูแล ถ้าเราไม่เข้มแข็ง ไม่ทำให้เขาเห็นว่าเราสามารถดูแลเขาได้ เขาก็คงอาจจะหมดหวัง ตอนนี้ก็ดูแลคุณแม่เรื่องสภาพจิตใจทุกอย่างเลยค่ะ ในบ้านก็จะมีพี่น้อง และมีแบงค์ด้วย ทุกครั้งที่ไปหาหมอก็จะเป็นหน้าที่ไอซ์กับแบงค์ อย่างน้องก็จะมีหน้าที่ดูแลตอนอยู่บ้านตลอด แต่สภาพจิตใจคุณแม่ก็ไม่โอเคค่ะ ไอซ์ว่านานค่ะ”
ปัดตอบเรื่องเกี่ยวกับคนอื่น ขอโฟกัสเฉพาะคนในครอบครัว
“กับกระแสข่าวต่างๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเห็นอะไรที่ด่า หนูก็จะร้องไห้ตลอดเลย แต่เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างที่พ่อไม่สบาย คนด่า คนต่อว่า มันกลับกลายเป็นเราเข้มแข็งขึ้น เพราะสิ่งที่เราเจอ ที่พ่อเราประสบพบเจอมันแย่กว่าบุคคลที่เขาเข้ามาว่าเรา เราก็มองบวก อ่านแต่กำลังใจค่ะ ถ้าคนถามเยอะหนูก็เลือกไม่ตอบเลย อย่างที่ทุกท่านจะเห็นว่าหนูจะสรุปอาการคุณพ่อในรูปภาพในอินสตาแกรมเพื่อหลีกเลี่ยงการย้ำคิด ย้ำทำ หลีกเลี่ยงการร้องไห้ ค่อนข้างที่จะหลีกเลี่ยงในเรื่องพวกนี้
แต่เรื่องที่ไปเชื่อมโยงอะไรต่างๆ ไอซ์ขออนุญาตไม่พูดถึงคนอื่นนะคะ พี่เข้าใจหนูใช่ไหม ตอนนี้ก็โฟกัสที่ครอบครัวก่อนอย่างเดียว เพราะว่าสัมภาษณ์ไปก็ร้องไห้ อย่างที่เห็นค่ะ เหมือนเราเห็นคุณพ่อทุกวัน เพราะคนก็แท็กมาหาทุกวัน ก็ยังไม่ค่อยแกร่งได้สักที ก็เคยคิดเหมือนกันว่าทำไมเราต้องมาอยู่ในจุดที่มีอะไรเข้ามาเยอะขนาดนี้ แต่ว่าก็มองบวกหนูไม่รู้ว่าในความคิดหนูจะถูกหรือเปล่า ประสบพบเจอก่อน ทำใจได้ก่อน เก่งและแกร่งได้ก่อน”
บอกลูกสาวตนยังหอมรูปคุณตาอยู่ทุกวัน
“อย่างลูกสาวไอซ์ตอนนี้ก็หอมคุณตาทุกวัน หอมในรูป ก่อนจะเรียนออนไลน์ก็หอมทุกวัน ถ้าเป็นหลานคนเล็กก็ยังจะไม่ค่อยรู้เรื่องมากเท่าไหร่ แต่เห็นรูปคุณพ่อก็จะเรียกปู่ตลอดค่ะ ตอนนี้น้องสะใภ้กับหลานชายที่ติดโควิดก็ดีขึ้น ทุกคนในครอบครัวตอนนี้โอเคและคลีนหมดแล้ว แต่ก็ยังต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังกันต่อไปค่ะ
ณ วันนี้จะเรียกว่าไอซ์เป็นหัวหน้าครอบครัว ก็น่าจะใช่อย่างนั้นเลยค่ะ กับคุณแม่ก็ให้กำลังใจกันตลอด แต่พอเราแค่จะเอื้อมมือไปจับเขา น้ำตาเขาก็มาแล้ว แพลนงานเกี่ยวกับคุณพ่อ ยังมีตลอด เราก็ยังให้เกียรติแฟนคลับคุณพ่อทุกคนตลอด แต่ขอให้พ้นผ่านช่วงที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ไปก่อน ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านนะคะ (ไหว้) ที่ยื่นมือมาช่วยเหลือครอบครัวพวกเรา พวกเราน้อมรับและขอบคุณทุกท่านค่ะ”
จุดธูปบอก “พ่อค่อม” เรื่องที่ผลงานได้รางวัลด้วย
“เราเป็นลูกก็จุดธูปบอกพ่อ เพราะเขาทำงานมาทุกอย่างแล้ว และสิ่งที่เขาอยากทำคืออยากเป็นพรีเซ็นเตอร์ และช่วง 2 ปีหลังเขาค่อนข้างมีงานพรีเซ็นเตอร์ แล้วงานนี้ได้รางวัล ถ้าเขาอยู่บ้านคงอุทานประสาเขา (ยิ้ม) ตอนจุดธูปก็บอกว่าพ่อได้รางวัลนี้นะ สิ่งที่พ่อทำประสบความสำเร็จตามที่พ่อคาดหวังแล้ว หนูจะพูดกับพ่อตลอด”
บอก“แบงค์ อธิกิตติ์ ไพบูลย์รัตนกิจ” ถึงกับฉุนที่มีคนคอมเมนต์มาบอกให้ระวังสามีจะมีชู้
“มีคนมาคอมเมนต์เยอะว่าน้าค่อมไม่อยู่แล้วนะ เดี๋ยวสามีก็ทิ้งหรอก ไม่มีใครอยากจะเอาเธอแล้วนะ เราก็เอ๊ะ ทำไมถึงรู้ดีกว่าครอบครัวพวกเรา แต่แบงค์เขาไม่ชอบอะไรเรื่องชู้สาวแบบนี้อยู่แล้ว เขาเลยค่อนข้างที่จะโมโหนิดนึง ก็ปล่อยผ่านค่ะ”
