น่าจะเป็นพระเอกที่ถูกพูดถึงไม่น้อยในตอนนี้ สำหรับหนุ่ม “ภณ ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์” กับบทบาทพระเอกมาดขรึม เล่นตัวจนน่าหมั่นไส้ในละครเรื่อง พราวมุก แต่ในอีกมุมก็ได้กระแสตอบรับที่น่าชื่นใจ ว่าพัฒนาการในการแสดงของหนุ่มภณนั้นดีขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เราได้มีโอกาสล้วงลึกเปิดใจในหลายๆ มุมของชีวิตที่ผ่านมาของพระเอกหนุ่มคนนี้ ซึ่งพอพูดถึงฟีตแบ็กจากละคร เจ้าตัวก็ยอมรับว่าดีเกินคาด แต่ก็ยังมีสิ่งที่ต้องพัฒนาปรับปรุงเพื่อให้ดียิ่งขึ้น
“ฟีตแบ็กดีนะครับ ดีเกินคาดด้วย (หัวเราะ) คนที่บ้านเวลาดูละครก็จะดูพร้อมกันหมดเลยครับ เขาก็จะชมว่าเล่นดีขึ้นนะ ส่วนมากจะชมตอนละครจบ เขาก็จะอินกับบทที่เล่นกันครับ ในส่วนของแฟนคลับเท่าที่ผมดูในทวิตเตอร์ตอนละครออนแอร์ ส่วนมากเขาก็จะพูดถึงตัวละครของผมว่าน่าหมั่นไส้ (หัวเราะ) และตอนนี้ก็ออนแอร์มาเลยครึ่งเรื่องแล้วครับ ส่วนตัวก็พอใจนะครับ เสียงตอบรับมาค่อนข้างดี แต่ผมยังต้องปรับปรุงเรื่องสมาธิ ผมอยากฝึกเรื่องสมาธิให้มีมากขึ้นกว่านี้ครับ”
ฉากถอดเสื้อโชว์บอดี้ ที่กว่าจะได้มาแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
“ฉากถอดเสื้อก็ประมาณนึง ไม่ได้เยอะมากครับ (หัวเราะ) ก็ฟิตหุ่นมาอยู่เรื่อยๆ ครับ ผู้กำกับเขาอยากให้ดูบางๆ ดูเป็นเกาหลีนิดนึง ก็ให้ไปเบิร์นไขมันออกครับ ส่วนตัวผมก็พอใจระดับนึงนะครับ ด้วยเวลาด้วย และเราก็ทำเต็มที่แล้วครับ ช่วงที่ผ่านมาอยู่บ้านก็ออกกำลังกายทั่วไป เล่นเวต กระโดดเชือก ก็ต้องคอยดูแลหุ่นด้วยครับ เพราะยังไม่รู้ว่าจะไปเจอเรื่องไหนที่ต้องโชว์อีกหรือเปล่า (หัวเราะ) เราก็ต้องดูแลรักษาไว้ตลอด แต่ก็ไม่ได้เคร่งหรือตึงอะไรมาก ถ้ามีฉากที่ต้องถอดจริงๆ เราก็ค่อยมาเคร่งสัก 2 อาทิตย์ก่อนจะถ่ายครับ”
แอบเมาท์นางเอก บอก “บัว” เห็นตัวเล็กแบบนี้ แต่กินเก่งอย่าบอกใคร
“บัวจะเป็นคนกินเก่งครับ (หัวเราะ) คือเขาไม่ได้กินหนักๆ นะครับ แต่จะกินจุกจิก กินโน่นนี่ไปเรื่อย อยู่กองถ่ายก็จะหาของกินตลอด กินขนม กินผลไม้ไปเรื่อยครับ พอกินเสร็จเห็นไปกินข้าวอีกแล้ว (หัวเราะ) แต่ก็สมเหตุสมผลแหละครับ เพราะในละครเขาต้องใช้พลังเยอะ ใช้ซีนอารมณ์เยอะ ก็อาจจะเป็นปกติที่เขาจะต้องกินเพิ่มพลัง (หัวเราะ) แล้วเขาก็จะเป็นคนที่ชอบเล่นเหมือนเด็กๆ เขาก็จะงุ้งงิ้งๆ ของเขา แต่เวลาทำงานนี่เป็นอีกคนเลย คือจริงจังมาก”
แพลนมีตติ้งพบปะแฟนคลับช่วงปลายปี ถ้าสถานการณ์ทุกอย่างอำนวย
“ยังมีละครที่ถ่ายยังไม่จบอีก 2 เรื่องครับ เรื่องเก็บแผ่นดิน กับคู่เวร ครับ ช่วงนี้ก็ยังต้องเบรกอยู่ แต่ใกล้จะปิดกล้องทั้งสองเรื่องแล้วครับ บทบาทค่อนข้างจะต่างกันเลยครับ เป็นทหารเรื่องนึง อีกเรื่องก็เป็นนักไอทีที่กวนๆ หน่อย ผมค่อนข้างได้รับบทที่หลากหลาย แฟนคลับก็บอกว่าอยากเห็นผมเล่นบทสบายๆ คอมเมดี้บ้าง เพราะหลังๆ ผมมักจะได้เล่นบทเครียดๆ ซะส่วนใหญ่
จริงๆ ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติก็คงได้มีอีเวนต์หรืองานที่ได้เจอแฟนคลับบ้าง แต่ช่วงนี้ก็ได้แต่คุยกันผ่านทางโซเชียลครับ หรือไม่ก็เป็นช่วงที่ละครออนแอร์ก็จะมีคุยกันทางทวิตเตอร์บ้าง ได้เจอแฟนคลับล่าสุดก็ช่วงต้นๆ ปีครับ เพราะพอมีโควิดมาก็ไม่ได้มีงานที่ได้เจอแฟนคลับเลย อีเวนต์ก็แคนเซิลไปเยอะพอสมควรเลยครับ ก็เสียดายโอกาสที่จะได้เจอแฟนๆ ละครที่ดูละครเราด้วยครับ แต่ช่วงปลายๆ ปีถ้าโควิดซาลงก็มีวางแพลนอาจจะมีมีตติ้งกับแฟนคลับครับ แต่ก็ต้องดูสถานการณ์อีกทีครับ”
สิ่งที่ทำให้เสียเงินมากสุดคือของกิน และเครื่องออกกำลังกาย
“ช่วงโควิดอยู่บ้านก็ออกกำลังกาย ดูหนัง ฟังเพลง มีทำงานบ้านบ้างครับ (หัวเราะ) แต่จริงๆ ผมชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีม ช่วงนี้ก็ได้แต่เล่นอยู่หน้าบ้าน (หัวเราะ) ก็เล่นเซิร์ฟสเก็ตครับช่วงนี้ แต่ปกติผมจะเล่นเวคบอร์ด แต่มันต้องไปบึง แล้วช่วงนี้ยังไปไม่ได้ก็เลยไม่ได้เล่นเลยครับ ที่ก่อนหน้านี้ผมเล่นประจำก็คือเวคบอร์ด เซิร์ฟบอร์ด เซิร์ฟสเก็ตนี่แหละครับ
ส่วนมากสิ่งที่ผมจะทุ่มทุนซื้อจะเป็นของที่ต้องใช้แรงหมดเลยครับ อย่างพวกบอร์ดเซิร์ฟสเก็ต ล่าสุดก็จักรยานที่เพิ่งซื้อครับ แต่พวกเสื้อผ้า รองเท้าต่างๆ จะได้มาจากงาน ก็เลยไม่ค่อยได้ซื้อ (หัวเราะ) คือชีวิตผมส่วนมากก็จะอยู่กองถ่าย ไปถึงก็ต้องเปลี่ยนเป็นชุดในละครแล้ว ก็เลยไม่ได้ซีเรียสเรื่องการแต่งตัวอะไร ปกติก็จะใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ไปกอง ยิ่งช่วงหลังไม่ค่อยออกอีเวนต์ออกงานด้วย ก็เลยไม่ต้องไปซื้ออะไรมากมาย (หัวเราะ)
แต่ก็มีแพลนอยากจะซื้อรถตู้ครับ เพราะรถที่ใช้อยู่นี่คุณพ่อซื้อให้ตอนเรียนปี 2 แล้วผมก็ค่อยๆ ผ่อนคืนพ่อมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ก็ผ่อนหมดแล้ว ก็เหมือนเราซื้อรถเองไปแล้ว แต่รถส่วนตัวทุกวันนี้ก็แทบจะไม่ค่อยได้ขับ (หัวเราะ) ถ้าไปกองก็มีรถตู้กองอยู่แล้ว แต่ถ้าซื้อรถตู้ก็อาจจะได้ขับพาครอบครัวไปเที่ยวได้ด้วยครับ ถามว่าผมค่อนข้างเป็นคนประหยัดมั้ย คือผมไม่ค่อยได้ใช้อะไรฟุ่มเฟือย ผมเคยลองทำบัญชีค่าใช้จ่ายดู ส่วนใหญ่จะหมดไปกับของกินครับ เป็นพวกอาหารคลีน อกไก่ปั่น ผมจะสั่งมาตลอด ก็เลยจะใช้จ่ายตรงนี้เยอะ จะเป็นเรื่องการกิน การดูแลตัวเองซะส่วนใหญ่ที่จะได้เงินจากผม (หัวเราะ)”
ประสบการณ์รับจ้างทำงานที่ร้านอาหารที่ออสเตรเลีย หาเงินเองได้ตั้งแต่เด็ก
“ผมได้ไปใช้ชีวิตช่วงซัมเมอร์ที่ออสเตรเลียอยู่ช่วงนึงครับ คือผมอยากไปเอง เป็นช่วงว่างตอนปิดเทอมด้วยครับ คุณพ่อก็เลยส่งไปอยู่ที่บ้านคุณอาที่โน่นครับ เขาทำร้านอาหาร พอวันไหนที่ไม่ได้เรียนเราก็มารับจ้างที่ร้านอาหารของคุณอานี่แหละ คุณอาก็ให้เป็นรายได้เราด้วยครับ ก็เหมือนไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ช่วงซัมเมอร์สั้นๆ ครับ ที่พักฟรี กินฟรี แถมได้เงินก้อนกลับมาด้วย (หัวเราะ)
ถ้าจะให้ฝากถึงน้องๆ เด็กๆ รุ่นใหม่เรื่องการใช้เงิน ผมว่าเดี๋ยวนี้มันมีสิ่งล่อตาล่อใจเยอะครับ ผมก็อยากจะให้มองถึงความจำเป็นจริงๆ ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตของเรา ว่าสิ่งไหนจำเป็น สิ่งไหนไม่จำเป็น และต้องมองว่าเราไหวไหม และอย่าเอาเงินในอนาคตมาใช้ คือเอาเงินที่เรามีแล้วเราแบ่งซื้อในสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เรารักดีกว่า อย่าไปกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อที่จะมาซื้อสิ่งที่มันยังไม่จำเป็นเพื่อจะโชว์อะไรอย่างนี้ครับ”
ฝากให้ทุกคนระวังตัวเอง และคิดถึงส่วนรวมเป็นหลักในยุคโควิดแบบนี้
“ทุกวันนี้ก็อยากจะให้ทุกๆ คนระวังนะครับ อะไรที่สามารถทำเพื่อความสบายใจของส่วนรวมได้ก็อยากจะให้ช่วยกัน อย่างเช่นสวมหน้ากากอนามัยตลอด และเว้นระยะห่าง ไม่ไปในที่ที่คนเยอะๆ หรือที่เป็นจุดเสี่ยง ก็อยากให้เห็นถึงส่วนรวม อย่าให้คนอื่นเขามองว่าเราไม่ทำตามคนอื่นเขา ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนผมมองว่าเป็นภูมิคุ้มกันหมู่นะครับ จะได้ไม่เกิดระลอกใหญ่ๆ ขึ้นมาอีก ถ้าไปฉีดก็คือเป็นการป้องกันตัวเองด้วย และป้องกันคนอื่นด้วย ผมมองว่าก็ดีกว่าที่เราจะอยู่เฉยๆ ครับ”