“นก อุษณีย์” รีบชิ่งขึ้นรถงดสัมภาษณ์ อัยการให้โอกาสไกล่เกลี่ย “จั๊กจั่น”

หลังจากเมื่อต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา นักแสดงสาว “นก อุษณีย์ วัฒฐานะ”ถูกตำรวจกองปราบปรามบุกเข้ารวบตัวที่โคราช พร้อมกับ “น.ส.ปกชนม์ ดิษยบุตร”หรือ “อาบี” อดีตผู้จัดการส่วนตัวของนางเอกชื่อดัง “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” หลังจั๊กจั่นเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทั้งคู่ จากกรณีที่อีกฝ่ายมีการปล่อยข่าวเรื่องเจ้าบ่าวของจั๊กจั่นมีโลก 2 ใบ โดยจั๊กจั่นฟ้องนกในข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และฟ้องอาบีในข้อหาหมิ่นประมาท

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (21 มิ.ย.) ในส่วนของ “นก อุษณีย์” พนักงานสอบสวน สน.บางเขน ได้นำส่งสำนวนให้สำนักงานคดีอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณามีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องนักแสดงสาว โดยภายหลังจากได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนแล้ว “นายอิทธิพร แก้วทิพย์” โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ออกมาเปิดเผยว่า วันนี้ทางอัยการยังไม่ได้มีคำสั่งอะไร เนื่องจากต้องตรวจพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนเสียก่อน จึงจะมีคำสั่งออกมา ทั้งนี้ได้นัดผู้ต้องหามารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 22 ก.ค. 2564

ด้าน นก อุษณีย์ ได้เดินขึ้นรถกลับในทันทีและปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ในขณะเดียวกัน ได้มีแฟนคลับของสาวนก เดินทางมาจากโคราช พร้อมนำดอกกุหลาบมามอบให้กำลังใจ แต่มาไม่ทันเนื่องจากสาวนกกลับไปก่อน โดยแฟนคลับเผยว่านกเป็นคนดี ทำไปเพราะรักเพื่อน คนดีผีคุ้ม

“วันนี้ทางสำนักงานคดีอัยการสูงสุดได้รับสำนวนจาก สน.บางเขน ในคดีระหว่าง นายวัฒนา เจริญศักดิ์วัฒนา เป็นผู้กล่าวหา แล้วก็ นางสาวอุษณีย์ วัฒฐานะ ผู้ต้องหาหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา เหตุเกิดเรื่องนี้เกิดเมื่อเดือนมีนาคม 2564 บัดนี้พนักงานสอบสวนก็ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว แล้วก็ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมทั้งสำนวนมาส่งมอบให้พนักงานอัยการในวันนี้ ทางเราก็ยังไม่ได้มีคำสั่งอะไร เนื่องจากว่าต้องตรวจพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนเสียก่อน จึงจะมีคำสั่ง

เราก็ได้นัดผู้ต้องหามารายงานตัวอีกครั้งนึงในวันที่ 22 ก.ค. 2564 เวลา 09.00 น. เพื่อฟังคำสั่ง วันนี้เราก็ปล่อยตัวผู้ต้องหาไปโดยไม่ต้องมีประกัน ความซับซ้อนคดีนี้ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย ข้อหามันก็เป็นเรื่องของการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ก็ไปลงข้อความในสื่อโซเชียล แล้วข้อความดังกล่าวผู้เสียหายเขาก็อ้างว่าความนั้นทำให้เขาได้รับความเสียหาย ส่วนรายละเอียด ในเนื้อหาของคดีตอนนี้ผมก็คงยังจะแถลงให้ทราบไม่ได้ ต้องให้ทางอัยการเจ้าของสำนวนพิจารณาให้เสร็จสิ้นเสียก่อน”

ระหว่างนี้สามารถเจรจายอมความกันได้
“มีครับ ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาเป็นข้อหาที่ยอมความกันได้อยู่แล้ว ฉะนั้นทางทางผู้ต้องหากับผู้เสียหายเขาได้มีโอกาสเคลียร์กัน ปรับความเข้าใจกัน ผู้เสียหายก็มีสิทธิ์ที่จะถอนคำร้องทุกข์ได้เสมอ แม้ว่าจะฟ้องศาลไปแล้วก็ตาม จนกว่าคดีจะถึงที่สุดเขาก็ยังมีโอกาสจะเจรจากันได้ตลอด (ทางผู้ต้องหาได้ยื่นขอความเป็นธรรม?) แต่เขาก็มีโอกาสที่จะยื่นเข้ามา”

ด้าน “ประยุทธ เพชรคุณ” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ให้ข้อมูลคดี “อาบี” เพิ่มเติมว่า พนักงานอัยการเลื่อนรับฟังคำสั่งเป็นวันที่ 10 ส.ค. 2564 เวลา 09.00 น.

“มีข้อมูลเพิ่มเติมของส่วนคุณอาบี คดีนั้นทาง สน.บางเขน แยกส่งไปที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษแขวงดอนเมือง ถามว่าทำไมถึงแยกเป็น 2 สำนวน เพราะอัตราโทษต่างกัน ทางของคุณนก เป็นการถูกกล่าวหาว่าหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ซึ่งอัตราโทษมันอยู่เกินอำนาจศาลแขวง ปรับเงินเกิน 6.หมื่นบาท ก็มาส่งที่ฝั่งคดีพิเศษอาญา 5

ส่วนคดีของอาบีเป็นการกล่าวหาในเรื่องหมิ่นประมาทธรรมดา อัตราโทษอยู่ในอำนาจศาลแขวง คือ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท คดีดังกล่าวพนักงานอัยการรับไว้ เลื่อนไปฟังคำสั่งเป็นวันที่ 10 ส.ค. 2564 เวลา 09.00 น. สำนวนดังกล่าวมีการตรวจพิจารณาสำนวนไปบ้างแล้ว โดยคำสั่งสอบสวนเพิ่มเติมให้ไปสอบพยานบางส่วน แต่ยังไม่มีการสอบ”

ตามหลักการสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้
“ข้อมูลส่วนนี้เราไม่ได้ข้อมูล แต่หลักการก็อยู่ภายใต้หลักการเดียวกันว่าคดีทั้งหลายเหล่านี้เป็นคดีอาญาส่วนตัวที่ยอมความได้ ถ้าสองฝ่ายสามารถเจรจากัน ไม่ติดใจเอาความกัน เข้าใจกันแล้วก็สามารถขอยุติการดำเนินคดีได้ทั้งชั้นพนักงานอัยการหรือชั้นศาล ถ้าได้ข้อยุตินั้นมาแจ้งกับอัยการ ทางอัยการก็จะสั่งยุติร่วมให้ ถ้าไปเจรจาในชั้นศาล ศาลก็จะสามารถมีขบวนการของการจำหน่ายคดีในชั้นศาลได้”

เผยอัตราโทษหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา คือ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท
“ประมวลกฎหมายอาญาอัตราโทษหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา คือจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท จริงๆ แล้วอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรอก ปกติอยู่ในอำนาจศาลแขวง แต่บังเอิญว่าโทษปรับมันเกิน 6 หมื่น พอค่าปรับหลักแสนมันเกินอำนาจศาลแขวงก็เลยต้องมาส่งที่นี่ ในส่วนของอาบีเป็นหมิ่นประมาทผู้อื่น อยู่ในอำนาจศาลแขวง”

และวันนี้ยังมีทีมแฟนคลับนก ที่เดินทางมาจากโคราช ถือดอกไม้เตรียมมาให้กำลังใจ นักแสดงสาวที่ศาลด้วย แต่ไม่ได้พบกัน
“มาจากโคราชค่ะ แต่ว่าไม่ทัน เสียดายมากเลย อยากให้กำลังใจคนดีๆ อยากบอกว่าสู้ๆ ค่ะ คนดีผีคุ้มค่ะ ผีไม่เห็นคนก็เห็นค่ะ แล้วชาวบ้านที่เขาไม่มาเขาก็ฝากให้กำลังใจมาด้วยค่ะ เรามองว่าเป็นการรักเพื่อนไม่ได้เจตนาให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จากที่เห็นเขาไปทำบุญเขาก็เป็นคนดีมากคนนึง ชาวบ้านเขารักนกกันทุกคน เขาเป็นกันเอง ไม่หยิ่ง มาทำบุญบ่อย ทำสังฆทาน ถวายผ้าไตรก็ใส่ชื่อให้เพื่อนค่ะ

เราเจอเขาที่งานทำบุญที่โคราช (ถ้าศาลตัดสินออกมาว่ามีความผิดเรายังเชื่อไหม?) ไม่เชื่อค่ะ เป็นเรารักเพื่อนเราก็เตือนเพื่อน เรามองในมุมที่เรารักเพื่อน อยากให้เขาไกล่เกลี่ยกันได้ เห็นในโซเชียลโดนด่าเขาเละ เขาไม่รู้ว่าเรามา ถ้ารู้เขาคงรอ”