xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป)“เติ้ล ธนพล” ชีวิตที่ไม่มีงาน อยู่ไปก็ไร้ค่า กล้าพูดว่าตายดีกว่า! พีกสุดร่วงตุ๊บจากพระเอก แต่หัวใจแฮปปี้คบโคโยตี้ตัวท็อป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เติ้ล ธนพล” เล่าปัญหาถาโถม เครียดหนักทั้งคดีความและไม่มีงานทำ นอนไม่หลับต้องกินเหล้าแทนการใช้ยา เคยคิดสั้นบอกชีวิตไร้ค่า สำนึกได้เกือบตายจริง เผยวินาทีกระอักเลือด ล้มหัวฟาดพื้น นอนนิ่งอยู่ 2 ชม.ก่อนถึงรพ. ระบบร่างกายเพี้ยนต้องเข้า ICU หมอบอกเป็นตับโป่งพอง จากนี้ต้องอยู่ให้ได้ ออกกำลังกายช่วยได้จริง กรณีโดนโพสต์ด่า ให้ทนายเป็นคนจัดการ ขอโทษผู้จัดทั้งหลายที่ทำผิดพลาด ขอโอกาสแก้ตัว ความรักแฮปปี้กับโคโยตี้ตัวท็อป




หลังจากอดีตพระเอกดัง “เติ้ล ธนพล นิ่มทัยสุข” ออกมาโพสต์ระบายยาวในเฟซบุ๊ก ถึงปัญหาชีวิตที่ถาโถมทำเอาเครียดหนัก ต้องดื่มเหล้าเพื่อให้นอนหลับ แทนการใช้ยา จนเป็นที่มาของรูป นอนใส่เครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาล ล่าสุดวันนี้มีโอกาสได้เจอหนุ่มเติ้ล ที่มาถ่ายทำรายการคุยแซ่บโชว์ ก็เลยขอสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถึงได้อาเจียนออกมาเป็นเลือด ซ้ำยังล้มหัวฟาดพื้น

“จริงๆ มันเป็นรูปเมื่อวันที่ 1 นี่เอง แต่ผมพยายามปกปิด ไม่ให้คุณพ่อคุณแม่รู้ ต้องขอโทษด้วย เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่ผม เพิ่งจะเกษียณมาอายุ 65 แล้วยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ผมก็เลยกล่าวไปว่าเป็นเรื่องเก่ารูปเก่า ขอเล่าใหม่ แต่จริงๆ แล้วทั้งหมดทั้งมวลเนี่ย ผมอยากจะเล่าถึงบุคลากรทางการแพทย์เฉยๆ ว่าเป็นยังไง ต่อให้คุณมีเงินเป็นร้อยล้านพันล้าน แต่ตอนนี้คุณซื้อความสบายไม่ได้ คุณก็ต้องไปอยู่ในห้องรวม

เท่าที่เคยผ่านมา ห้องสามัญชายก็คือห้องที่พร้อมจะเสียชีวิต บางรายเนี่ยเสียชีวิตแล้ว เพียงแค่ดึงสายออกมาเขาก็ไปแล้ว อยากจะพูดถึงเรื่องของบุคลากรทางการแพทย์มากกว่า เขาทำงานกันเหนื่อยมาก ห้ามเยี่ยม ห้ามมีคนเฝ้า ต้องระดมหมอ ระดมแพทย์ทั้งหมด มาเฝ้าคนไข้ แล้วคนไข้เป็นร้อยคน

ที่ผมเห็น ที่ผมผ่านมาเมื่อตอนเด็กๆ คุณแม่ทำงานอยู่ที่ ICU คุณพ่อทำงานตึกสงฆ์ ทำงาน 24 ชั่วโมง แค่นี้ผมก็คิดถึงจะตายอยู่แล้ว เมื่อไหร่จะเลิกงาน เมื่อไหร่จะได้ไปเที่ยว แต่นี้ 72 ชั่วโมง 3 วัน 3 คืน ผมเห็นหน้าพยาบาลคนเดิม คุณหมอคนเดิมตลอดที่ดูแลผม ก็เลยอยากจะเล่าเรื่องนี้ ให้ทุกคนฟัง”

เหตุการณ์วันนั้น คือขับรถลงจากดอยที่แม่ฮ่องสอน ใช้เวลา 7 ชั่วโมงมาถึงนครสวรรค์ ดื่มไวน์หนึ่งแก้ว แล้วก็อาเจียนเป็นเลือด หมดแรงล้มหัวฟาดโต๊ะ ก่อนจะกระอักเลือด เริ่มไม่รู้สึกตัว จนถึงมือหมอ 2 ชม.ต่อมา
“วันที่ 1 เราลงมาจากทุ่งสองห้อง ไปสร้างโรงเรียน แล้วเราดื่มไวน์ไปแก้วหนึ่ง แล้วเราก็รู้สึกเหนื่อย เพราะว่าวันนั้นผมขับรถจากทุ่งสองห้อง แม่ฮ่องสอน แม่สอด ลงมา 7 ชั่วโมง มาถึงนครสวรรค์ แล้วก็ขับจากนครสวรรค์มาที่สิงห์บุรี มาทานข้าว เรารู้สึกว่าเราเหนื่อย เลยจอดพักดีกว่า เช้าเราค่อยกลับ ก็ดื่มไวน์ไปแก้วหนึ่ง

หลังจากนั้นอาการมันออก ท้องมันเริ่มบวม พอเข้าห้องอาบน้ำเสร็จ มันก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด แต่ในความโชคดีเนี่ย 2 ชั่วโมงกว่า บุคลากรทางการแพทย์ หรือว่ากู้ภัยก็ไม่กล้าเข้ามาเพราะว่าไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร ทั้งกระอักเลือด ทั้งนอนตาเหลือกไปแล้ว ตอนนั้นไม่รู้ตัวแล้วครับ จำได้แค่ว่ามันเพลียแล้วก็รู้สึกปวดท้อง พอออกมาหัวผมก็ล้มฟาดไปกับโต๊ะ แล้วก็กระอักเลือด (ตอนนั้นมีคนอยู่ด้วยไหม?) มีๆ

เราได้ไปโรงพยาบาล หลังจากนั้นอีก 2 ชั่วโมงครับ เพราะว่าต้องรอเครื่องปฐมพยาบาลเอย รอคนใจกล้าเอย รอชุด PPE มา ก่อน 2 ชั่วโมงกว่า ต้องนอนอยู่อย่างนั้น มารู้สึกตัวตอนที่มีคนกรี๊ดๆ เยอะๆ มีฝรั่งมาดู แล้วก็ถามว่า ยูโอเค? เราก็ตอบ โนๆ ไม่โอเค ฝรั่งเขาคิดว่าผมโดนแทง ทะเลาะกับแฟนแล้วโดนแทง เขาบอกว่ายูต้องนอนตะแคงนะ (หัวเราะ) เราก็ก็บอกโนไม่ใช่ ผมไม่ได้เป็นแบบนั้น คือเราก็พอมีสติอยู่บ้างครับ แต่ช่วยตัวเองไม่ได้เลย”

พอถึงโรงพยาบาลก็วุ่นวายมาก ทั้งให้เลือดและให้ยา
“เขาก็มาโน่นนี่นั่น มาเจาะ 6-7 รู ให้เลือด ให้ยาหยุดเลือด แต่มันมีจุดฮาอยู่นะครับ ฮาตรงที่ว่า ตั้งแต่เกิดมาในโรงพยาบาลเนี่ย ผมเพิ่งเคยได้ยินว่า ขอโทษนะคะ เดี๋ยวเราจะทำการระเบิดกระสวย คือสวนท่อฉี่ เพราะว่าเราไม่สามารถควบคุมอะไรได้ ศัพท์ใหม่ ขยายกระสวย”

สักพักเริ่มขยับตัวได้ แต่น้อยมาก เพราะระบบร่ากายทำงานเพี้ยนไปหมด ต้องเข้าห้อง ICU
“พอได้ครับ เริ่มรู้ตัวขยับได้ แต่น้อยมาก เพราะว่าเราช็อก เราเสียเลือดไปเยอะ ต้องเข้าห้อง ICU ครับ เพราะทุกอย่างทำงานเพี้ยนไปหมด น้ำตาลขึ้นไป 190 ทั้งๆ ที่ไม่เคยกินน้ำตาล คุณหมอบอกว่าเขาเป็นโรคเบาหวานหรือเปล่า เราก็บอกไม่ใช่ๆ ครับผมไม่กินหวาน แต่เหมือนกับว่าระบบมันรวนหมด”

หมอบอกเป็นอาการของตับโป่งพอง
“เกิดจากตับโป่งพองครับ จึงทำให้เส้นเลือดในทางเดินอาหาร มันพองตัว เหมือนกับห้อเลือด แล้วมันระเบิดออกมา พอระเบิดแล้วมันไม่สามารถหยุดได้ เพราะลำไส้ของเรามันขยับตลอดเวลา มันก็เหมือนกับว่า เราขยับตลอดเวลา มันก็จะออกมาเต็มกระเพาะ ก็จะต้องใส่สายเข้าไประบายเลือดออกมา

ที่กินไวน์เข้าไปก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่เป็นส่วนน้อย อาการมันผสมผสานกัน ระหว่างที่เราขึ้นไปบนดอยด้วย เส้นทางมันค่อนข้างจะลำบาก แต่ไม่ใช่เพราะความกดอากาศนะ คือมันโยกไปโยกมา มันสะเทือน มันก็เลยสะสม คุณหมอบอกว่ามันอาจจะค่อยๆ ออก แล้วมันเต็ม มันก็มาดันปอด สุดท้ายแล้วมันระบายออกไม่ได้”

อาการนี้สามารถเกิดได้กับคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับตับ และมีสภาวะแบบเดียวกับตน
“สามารถเกิดกับคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับตับ แล้วก็เป็นสภาวะเดียวกับผม ซึ่งมันไม่มีทางหาย นอกซะจากว่าต้องดูตัวเอง คุณหมออธิบายว่า ตับเนี่ยไม่ชอบอยู่ 2 อย่าง คือแอลกอฮอล์และของหมักดอง ให้หลีกเลี่ยง แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วครับ ล่าสุดที่ไปตรวจเนี่ย ก็เหลือแค่จุดหนึ่ง เท่ากับครึ่งเม็ดถั่วเขียว”

ก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไรเลย
“ไม่มีครับ เราก็เพิ่งมารู้ว่าเป็น เราตรวจสุขภาพตลอดครับ”

เลิกขาดแล้วกับแอลกอฮอล์ เพราะหมอบอกคราวหน้าคงไม่รอด
เรียกว่าเลิกเลยดีกว่า คุณหมอบอกว่าถ้าเป็นอีก ครั้งนี้ไม่ต้องมาแล้ว (หัวเราะ) คงมาไม่ทันแล้ว คงไปอีกทีหนึ่ง ไปสวดดีกว่า”

แจงไม่ได้ดื่มเหล้าหนัก แต่มันกัดกระเพาะ เพราะไม่ได้กินข้าวก่อน มีแต่เหล้าเพียวๆ
“ถ้าเป็นคนธรรมดา ผมว่าดื่มไม่หนัก แต่เราไม่ทานข้าวมากกว่า กินตอนท้องว่า เพียวๆ เลย มันก็เลยไปกัดกระเพาะ แล้วก็เป็นลำไส้พองขึ้นมา”

คิดทุกครั้งว่าอาจจะตายได้ เวลาที่หมอบอกให้เลิกนะ
“ทุกครั้งที่คุณหมอเข้ามาบอกว่า เลิกนะ เพราะว่าอาจจะช่วยไม่ทัน มันมีสภาวะความเสี่ยงสูงมาก เลิกนะ คราวนี้เลิกนะ เราก็ครับๆ ครับคุณหมอ”

ไม่ถึงขั้นติดแอลกอฮอล์ ดื่มแค่อยากให้หลับ โดยไม่ต้องใช้ยา แต่กลับทำร้ายร่างกายมากกว่า
“ไม่ได้ติดครับ ผมแค่ดื่มให้หลับ ผมต้องการหลับ จากที่เราใช้ยานอนหลับ แล้วเรารู้สึกว่า เราทำลายสมองส่วนกลาง จนมันลืมไปหมดเราคุยกันอย่างนี้ แต่อีกสักพักผมลืมแล้ว ว่าผมคุยอะไร ก็เลยเลิก แล้วมาใช้แอลกอฮอล์แทน เพราะมันสลายออกง่าย ภายใน 24 ชั่วโมง แต่มันกลับไปทำร้ายร่างกายมากกว่า”

โต้เป็นโรคแอลกอฮอล์ลิซึ่ม
“ไม่ใช่ครับ ไม่ถึงครับ เพราะว่าเราสามารถหยุดได้เลย ตอนที่เข้าโรงพยาบาล ผมมีเพื่อนอยู่ 3 คน คือปลายเท้าจะเป็นลุงเนื้อเปื่อย ข้างๆ นี่เป็นลุงน้ำตาล ส่วนบนหัวจะเป็นลุงลิซึ่ม”

ดื่มแอลกอฮอล์เพื่อให้นอนหลับอยู่นานเป็นปี
“เป็นปี เรียกว่าสะสม มันหลับได้จริง แต่หลับไม่นาน บางทีตีหนึ่งตีสองก็ต้องตื่นขึ้นมา ตื่นก็มาจิ๊บใหม่”

รับเครียดหนักจนนอนไม่หลับ เพราะทุกอย่างมันถาโถม ทั้งคดีความค้างค่าไฟ-แอบใช้ไฟหลวง ทั้งไม่มีงานทำ
เรียกว่าทุกอย่างดีกว่ามันถาโถมเข้ามาหมด ทั้งคดีความ ทั้งไม่มีงาน เพราะก่อนหน้านี้เราเป็นคนที่ทำงาน 7 วัน 24 ชั่วโมง รับละครทีละ 3-4 เรื่อง วันดีคืนดี มาไม่มีละคร ไม่มีงานขึ้นมาเฉยๆ มันเหมือนตายทั้งเป็น ไม่รู้จะทำยังไง ไปไม่ถูก มันเครียดมากครับ”

เข้าโรงพยาบาลไป 2 ครั้ง ครั้งแรก 5 วันหมดเป็นล้าน แต่ครั้งที่สองล่าสุดเบิกได้
“เข้าโรงพยาบาล 2 ครั้ง ครั้งละ 5 วัน รอบแรกเข้าที่โรงพยาบาลเปาโล 5 วันเป็นหลักล้าน รอบสองเมื่อวันที่ 1 อีก 5 วัน แต่ไม่ต้องจ่าย คุณพ่อผมเป็นหัวหน้าห้องทำบัตรทอง ก็เบิกได้ครับ”

ก่อนจะรู้ว่าเป็นภาวะตับโป่งพอง ไม่เคยกลัวตาย เพราะรู้สึกว่าชีวิตไร้ค่า อยู่ไปก็เท่านั้น แต่พอเข้ารพ.จริง ก็ไม่เอาแล้ว ไม่อยากเป็นภาระให้ใคร
ส่วนตัวไม่กลัวตาย เพราะว่ากินยาด้วย กินเหล้าด้วย คุณพ่อบอกว่ามันอันตรายมาก เรารู้สึกว่าชีวิตมันไร้ค่าอยู่ไปก็เท่านั้น ไม่กลัวตาย แต่พอได้เข้าโรงพยาบาลแล้ว ไอ้คำว่าไม่กลัวตาย มันไม่ใช่แล้ว มันกับกลายเป็นว่า เราไม่อยากเป็นภาระใคร มันมีคำนี้ขึ้นมาแทน มันเลยกลัว การนอนติดเตียงอยู่ 5 วัน โดยที่ขยับตัวไม่ได้ รู้สึกว่ามันทรมาน”

เผยก่อนหน้านี้เคยคิดว่า ไม่มีงานก็ตายดีกว่า
“ใช่ กล้าพูดเลยตรงๆ ว่าตายดีกว่า (ดื่มเยอะไม่กลัวมันทำลายสมองเหรอ?) ตอนนั้นไม่กลัวเลย เพราะว่ามันทำลายไปแล้ว กว่ามันจะฟื้นฟูมากได้ โห.. เรื่องหนึ่งคิดเป็นชั่วโมงสองชั่วโมง เรื่องหนึ่งคิดเป็นครึ่งวัน ว่าอันนั้นเราไปทำอะไรว่ะ ยิ่งคิดยิ่งเครียด”

เกินกว่าภาวะซึมเศร้าคือจะเป็นไบโพลาร์แล้ว
“มันคือไบโพลาร์ มันเกินคำว่าซึมเศร้า มันเป็นไบโพลาร์ที่คิดจะกลัวก็กลัวขึ้นมาเลย คิดจะเป็นอะไรก็เป็นได้”

บำบัดตัวเองโดยการออกกำลังกาย สู้และทำใจให้เข้มแข็ง
“ผมบอกได้คำเดียวเลย คือออกกำลังกาย สู้กับมัน ทำใจให้เข้มแข็ง ออกกำลังกายอย่างเดียว”

เคยมีความคิดแว๊บเข้ามา ว่าอยากฆ่าตัวตาย
“เคยคิด แต่ไม่มาก มีแว๊บเข้ามา ทำยังไงดีวะ ทรมานน้อย ทรมารมากไม่เป็นไร ให้ศพสวย ทำไงดี สรุปแล้วไม่เอาดีกว่า เป็นหนทางที่ผิด ไม่แนะนำครับ แนะนำให้สู้อยู่กับมันให้ได้ ตอนที่ผมตกต่ำมากๆ พี่เจี๊ยบ เชิญยิ้ม สอนผม เรียกผมไปคุย บอกว่ามึงต้องอยู่กับมันให้ได้ เพราะว่าพี่เจี๊ยบห่างกับผม 12 ปี เกิดวันเดียว เดือนเดียวกัน ปีนักษัตรเดียวกัน ดวงค่อนข้างเหมือนกัน มึงต้องอยู่กับมันให้ได้ ถ้ามีปัญหาอะไรให้มาหาพี่ อย่าหายไป”

เผยความเศร้าเคยนั่งร้องไห้ จากพระเอกมาเป็นคนธรรมดา ที่ไม่มีงานทำ
“เอาจริงๆ เคยไปนั่งร้องไห้ด้วย เห็นกองถ่ายเขาถ่ายเดินไปเดินมา เรารู้สึกว่างานเราจะไม่ได้ทำแล้วเหรอ หรือว่าเราจะอยู่ในรถ นั่งมองเขาแบบนี้เหรอ แล้วก็ร้องไห้ออกมาเอง มันเป็นความเศร้ามากๆ”

กรณีโดนโพสต์ด่า อย่าทำตัวเหี้_ อย่าตอแห_ ให้ทนายเป็นคนจัดการ รับคำขอโทษเป็นเงินสด เพราะจะเอาไปบริจาค
“ผมไม่ได้อยากที่จะทะเลาะเอง เพราะว่าผมไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร เราเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันมาตลอด แต่วันหนึ่งผมก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ว่าอยู่ดีๆ เขามาด่าผมทำไม ผมเลยเลือกที่จะไม่ทะเลาะเอง ให้ทนายเป็นคนคุย เพื่อนฝูงของผมก็บอกว่า เราจะไม่รับคำขอโทษ เราไม่รับอะไรทั้งนั้น เราจะขอเป็นเงินไปบริจาคให้กับทางโรงพยาบาล เพราะว่าผมออกจากโรงพยาบาลมา ผมก็โดนด่า ถ้าอย่างนั้นเราก็เอาเงินไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลดีกว่า”

บอกรู้จักดีเลยกับคนนี้ พอรู้สาเหตุ แต่พูดไม่ได้
“รู้จักดีเลย พอรู้สาเหตุครับ ว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้ แต่พูดไม่ได้”

ไม่ติดต่อ ไม่ถาม ไม่อยากคุยกับคนแบบนั้น ให้ทนายคุยน่าจะดีกว่า ยังงงๆ ไม่รู้ปีชงหรือเปล่า
“ไม่ครับ เพราะด่าผมไม่มีเหตุผลแบบนั้น ผมคงไม่คุยแล้ว ให้ทนายคุยดีกว่า น่าจะรู้เรื่องมากกว่า แล้วก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันเลย ตั้งแต่เที่ยงคืนยันตีสี่โดนด่า ประมาณนั้นนะครับ ก็งงอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ปีชงหรือเปล่า มีเพื่อนในวงการหลายๆ คน ถามว่าทำไมเขาด่าหนักขนาดนั้น ก็บอกเขาว่ากูก็ไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ)”

การจัดการชีวิตตัวเองหลังจากนี้ คือทำใจอยู่กับมันให้ได้ ยิ่งเครียดยิ่งทำร้ายตัวเอง
“อันดับแรกเลย ทำใจอยู่กับมันให้ได้ แล้วก็พยายามให้กำลังใจตัวเอง พยายามอย่าไปเครียดกับมัน ไม่ใช่เราคนเดียวที่เป็น ทุกคนก็เป็น อยู่กับมันให้ได้ยิ่งเครียด ยิ่งทำร้ายตัวเอง ยิ่งเครียดยิ่งไป”

จบทุกคดีความที่ผ่านมา เหลือแค่เรื่องไฟ แต่ก็ชดใช้ไปหมดแล้ว
หมดแล้วครับ เหลือเรื่องไฟอย่างเดียว แต่ก็ชดใช้ไปหมดแล้ว

ยังไม่เป็นบุคคลล้มละลาย แค่ยอมสละสิ่งไม่จำเป็น
“ไม่ถือว่าเป็นบุคคลล้มละลาย แต่อะไรที่ไม่จำเป็น อะไรที่ยอมสละได้ มันก็ต้องสละเพื่อรักษาสิ่งส่วนใหญ่ไว้ สิ่งสำคัญคือคนรอบข้างและที่อยู่อาศัย คิดแค่นี้ ธุรกิจอะไรที่ล้มไป อะไรยอมได้เราก็ต้องยอม”

เล่าโมเมนต์ตอนพ่อรู้ว่าเพิ่งเข้าโรงพยาบาล ก็ตกใจและช็อกอยู่นานมาก
“เขาก็ตกใจ ช็อก พ่อบอกว่าจริงๆ เขาไม่ได้กลัวหรอกโควิด แค่ใส่มาสก์เดินเข้าไปเยี่ยม เราก็บอกว่าเอาสิ ตึกสามัญชาย ไปสิป๊า ข้างๆ ก็เป็นตึกโควิด ผมก็เลยเริ่มโครงการกับพี่ๆ ว่าบุคลากรทางการแพทย์หรือโรงพยาบาลไหนต้องการอะไร เราจะทำไปบริจาค”

งานในวงการตอนนี้ ละคร มั่งมีศรีศพ ยังไม่ได้ออนแอร์ ขอโอกาสกลับมางาน บทไหนก็ไม่เกี่ยง
“ตอนนี้ก็มี มั่งมีศรีศพ ที่ยังไม่ได้ออนแอร์ หลังจากนี้ต้องเข้าไปกราบขอโทษผู้จัดทุกๆ ท่าน ที่ตอนนั้นเราไม่พร้อมทำงาน หรือว่าเราทำผิดพลาดไป เราก็อยากที่จะกลับมาทำงาน ไม่ว่าจะบทไหนมัน เป็นสิ่งที่เราถนัดและทำมาตลอดชีวิต”

เขินคนแห่แชร์ภาพแฟนสาว “นิวนิว เอวเด้ง” อดีตแชมป์โคโยตี้สุดเซ็กซี่ของประเทศไทย
“เด็กข้างบ้านเหรอ โอเค๊…เราคุยกันรู้เรื่องครับ เป็นงานบริการเหมือนกัน เป็นงานที่ให้ความสุขคนอีกรูปแบบ ผมชอบผู้หญิงที่ทำงาน ไม่ใช่ว่าสวยใสไร้สติ อันนี้ก็ไม่ไหว แต่ถ้าสวยใสเซ็กซี่ แต่ทำงานมีความคิด ผมว่าโอเคนะ”

สเปกไม่ได้เปลี่ยนไป พร้อมเปิดรับทุกคน อยู่ที่ว่าคุยกันรู้เรื่องไหม แล้วกับคนนี้มันก็ใช่แค่นั้นเอง
“ไม่ได้เปลี่ยน แต่เราเปิดพร้อมรับทุกคนที่จะเข้ามา แต่คุยกันรู้เรื่องหรือเปล่า บางคนเข้ามาคุยไม่รู้เรื่องก็ต้องไป บางคนเข้ามาคุยกันรู้เรื่อง ก็คุยต่อกันไป มันเหมือนกับการใช้ชีวิตร่วมกัน ถ้าวันหนึ่งมันไม่มีความสุข อยู่ไปมันก็ฝืน (คนนี้คุยกันรู้เรื่องแค่ไหน?) รู้เรื่องดีครับ (ยิ้ม)”

ไม่หวงแต่ห่วง พยายามบอกตลอดว่าอย่าหวือหวามากเกินไป
“ไม่หวง ใช้คำว่าห่วง แล้วก็ใช้คำว่า อย่างเราก็มีผู้ใหญ่ในสายงานที่รู้จักเยอะ ก็เรียกว่าเป็นห่วงมากกว่า ภาพลักษณ์ที่ออกไป ก็จะเตือนเขาว่า คิดก่อนนะ คุมตัวเองให้อยู่นะ อย่าหวือหวามากไป เดี๋ยวมันจะกลายเป็นอีกรูปแบบหนึ่งไปประมาณนั้นมากกว่าครับ”

สุดท้ายนี้อยากขอโทษผู้จัดทุกคน อะไรที่เคยทำผิดพลาด ก็ขอโอกาสแก้ตัว
“อันดับแรกขอโทษผู้จัด ขอโทษทุกๆ คนที่ทำให้ผิดหวัง ขอโทษที่ผมกระทำความผิดที่ผ่านมา ผมก็ยอมรับ ขอโอกาสแก้ตัวครับ แล้วอยากจะฝากถึงบุคลากรทางการแพทย์ ตอนนี้สำคัญมาก 5 วันที่ผ่านมา ผมรู้สึกว่ามันเร็วร้ายมาก สำหรับพวกเขาทุกๆ คน ที่ผ่านมา ก็เป็นกำลังใจส่วนหนึ่ง ที่อยากจะให้ก้าวผ่านไปด้วยกันครับ”











กำลังโหลดความคิดเห็น