เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวการเสียชีวิตของนักแสดงรุ่นใหญ่ที่ชื่อว่า มาริลิน บุนนาค อดีตดาวยั่วที่มีผลงานในหนังไทยหลายเรื่องแต่ส่วนใหญ่เป็นหนังไทยในยุคเก่าแก่ ที่คนรุ่นปัจจุบันแทบจะไม่รู้จักกันอีกแล้ว
แต่กลายเป็นว่า ผลงานในอดีตของคุณ มาริลิน บุนนาค ที่พอจะผ่านตาแฟนหนังรุ่นปัจจุบัน กลับกลายเป็นหนังจีน ระดับตำนานที่ชื่อว่าไอ้หนุ่มซินตึ๊ง หรือ The Big Boss ที่คุณ มาริลิน บุนนาค ได้ฝากการแสดงเอาไว้ และยังมีบทเลิฟซีน กับราชาบู๊ ในตำนานอย่าง "บรูซ ลี" ด้วย
...
The Big Boss เล่าเรื่องของ "เฉาอัน" ชายหนุ่มชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาพักอาศัยอยู่กับลุงและเหล่าคนงานในโรงงานผลิตน้ำแข็งของเถ้าแก่หาว และแล้วเมื่อได้มีเหตุการณ์น้ำแข็งแตก ก็ได้พบว่ามียาเสพติดซ่อนอยู่ข้างใน
ที่ซึ่งแท้จริงแล้ว โรงงานแห่งนี้เป็นเพียงฉากบังหน้าของการลักลอบขนยาเสพติดที่นำโดยเถ้าแก่หาว พวกคนงานต่างปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ พวกเขาจึงถูกสังหารและทำลายหลักฐาน
ครั้นเมื่อลูกพี่ลูกน้องสองคนได้รับการส่งไปยังบ้านของเถ้าแก่หาวก็ได้ถูกสังหาร และเหล่าชายฉกรรจ์ได้ก่อการจลาจลที่โรงงาน เพื่อบรรเทาความตรึงเครียด จึงได้มีการแต่งตั้งให้เฉาอันขึ้นเป็นหัวหน้า พร้อมกับจัดหาเครื่องดื่มและสาว ๆ ให้ ครั้นเมื่อผู้หญิงคนหนึ่งได้บอกความจริงแก่เฉาอัน เขาก็ได้เข้าไปในโรงงานในเวลากลางคืน และได้พบกับร่างที่ไร้วิญญาณของลูกพี่ลูกน้อง แล้วเขาก็ถูกพบตัวโดยเหล่าแก๊งอันธพาล
เฉาอันได้ทำการต่อสู้เพื่อหาทางออก และได้สังหารลูกชายของเถ้าแก่หาว เมื่อเขากลับถึงบ้าน เขาก็พบว่าทั้งครอบครัวของเขาได้ถูกฆ่าตาย และเขาได้ตั้งใจที่จะล้างแค้นด้วยการกำจัดเถ้าแก่หาวในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นเขาก็ได้ยอมมอบตัวกับทางตำรวจไทย ที่ได้เดินทางมาถึงหลังจากที่เขาได้โค่นล้มเจ้านายใหญ่ลง
คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หนังเรื่องนี้จะมีดาราไทยร่วมแสดง เพราะไอ้หนุ่มซินตึ๊งที่เล่าเรื่องของหนุ่มชาวจีน ที่เดินทางมาหางานทำในเมืองไทยและเป็นหนังที่เดินทางมาถ่ายทำในประเทศไทยแทบจะตลอดทั้งเรื่องจึงทำให้หนังเรื่องนี้ มีคนไทยร่วมแสดง อยู่หลายคนเลยทีเดียว
หนังมีการลงทุนเดินทางมาถ่ายทำในหลายฉากของประเทศไทย จนทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นภาพบันทึกของเมืองไทย ในยุคเมื่อครึ่งศตวรรษที่แล้ว ที่ปรากฏสู่สายตาของคนทั้งโลกมาจนถึงปัจจุบัน และที่สำคัญหนังเรื่องนี้กลายเป็นการแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการ ให้กับ "บรูซ ลี" จากตัวประกอบในหนังฝรั่งได้กลายเป็นพระเอก หนังกังฟูคนแรกของประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ฮ่องกง
ไอ้หนุ่มซินตึ๊งสร้างขึ้นหลังจาก ซีรีย์เรื่อง "แตนอาละวาด" หรือ The Green Hornet ที่บรูซลีแสดงได้ถูกผู้ผลิตสั่งแคนเซิลนานถึง 4 ปี ซึ่งตอนนั้นเขาก็เลยเคว้งไปเหมือนกัน
ตัวของ บรูซ ลี อ้างว่าเขาพยายามพัฒนาโปรเจคซีรีส์และหนังอยู่หลายเรื่อง รวมถึงซีรีส์แนวกังฟูที่จะเล่าเรื่องราวของหนุ่มชาวจีน ที่เดินทางอยู่ในดินแดนคาวบอยของอเมริกัน ซึ่งต่อมาผู้ผลิตหยิบเอาไอเดียนี้ไปต่อยอดกลายเป็นซีรีย์ Kung Fu ที่มี "เดวิด คาร์ราดีน" แสดงนำ แม้ผู้สร้างซีรีส์เรื่องนี้จะพยายามปฏิเสธอยู่ก็ตาม
ระหว่างที่กำลังวาง บรูซ ลี มีโอกาสได้เดินทาง มาเยือนบ้านเกิดที่ฮ่องกง โดยเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตัวเอง โด่งดังเป็นขวัญใจของคนฮ่องกง จากซีรีส์ The Green Hornet ที่สำหรับคนฮ่องกงแล้วพระเอกของเรื่องนี้ไม่ใช่ตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ประจำเรื่องแต่เป็นตัวละคร "เคโต้" ที่แสดง บรูซ ลี ต่างหาก
สุดท้ายบรูซลีได้ออกรายการโทรทัศน์ของทีวีบี แต่กลับกลายเป็นคู่แข่งของทีวีบีและชอว์บราเดอร์ ที่กลายเป็นคนดึงให้บรูซลีมาเล่นหนังฮ่องกงเป็นครั้งแรก
เมื่อเริ่มรับรู้ว่าตัวเองมีชื่อเสียงอยู่ที่นี่พอสมควร "บรูซ ลี" ก็เลยพยายามที่จะหาลู่ทางเล่นหนังที่ฮ่องกง และติดต่อไปยังบริษัททำหนังอันดับหนึ่งของฮ่องกงในขณะนั้นอย่างชอว์บราเดอร์ ซึ่งทางชอว์บราเดอร์เองก็สนใจในตัวบรูซลีอยู่ไม่น้อย และยื่นข้อเสนอ เป็นเงิน 2,000 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับการเล่นหนังหนึ่งเรื่อง
แน่นอนว่า บรูซ ลี ปฏิเสธทันที
กระทั่งกลายเป็นผู้อำนวยการสร้างที่เพิ่งเปิดบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า Golden Harvest อย่าง "เรย์มอนด์ เชา" ที่เทหมดหน้าตัก ทุ่มทุนจ่ายค่าตัวให้บรูซลี 15,000 เหรียญฯ จนสามารถดึงเอา บรูซ ลี มาเล่นหนังให้กับ Golden Harvest ได้สำเร็จ
ตำนานของ Golden Harvest และ บรูซ ลี จึงเริ่มต้นขึ้นด้วยหนังที่ชื่อว่า The Big Boss กับการเดินทางมาถ่ายทำที่ประเทศไทยนานถึงสี่สัปดาห์ โดย บรูซ ลี มีโอกาสได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ปากช่อง ตลอดการถ่ายทำหนังเรื่องนี้
แต่ที่น่าสนใจก็คือเขาเคยเขียนจดหมายถึงภรรยาเล่าถึงความรู้สึกในการถ่ายทำที่เมืองไทยว่า รู้สึกไม่ค่อยแฮปปี้กับการมาทำงานที่นี่เท่าไหร่ เพราะเมืองไทยเป็นดินแดนที่อยู่กันเหมือนไม่มีกฎหมายอะไรเลย แถวที่เขาอยู่ก็ดูเป็นหมู่บ้านซอมซ่อ บ้านเมืองดูไร้การพัฒนา
แต่สุดท้ายถึงจะถ่ายทำแบบไม่มีความสุขเท่าไหร่ ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง กลายเป็นงานระดับตำนาน เป็นจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ของราชานักบู๊ที่ชื่อว่า บรูซ ลี ซึ่งถ้าย้อนกลับไปถึงจุดกำเนิดอย่างแท้จริงในฐานะดาราแอ็กชันฮ่องกงของเขาแล้ว ทุกอย่างเกิดขึ้นที่เมืองไทย ของเรานี่เอง
