หมดความอดทน “ม้า อรนภา” เปลือยหมดใจ! จะไม่ทนอีกแล้ว หลังทัวร์ลงฉีดวัคซีน ขอบคุณรัฐบาลถูกโยงว่ารับเงินมาช่วยโปรโมต เผยตนเองไม่ใช่ “บุคคลสาธารณะ” ขอถามกลับจะด่ากันไปถึงไหน รับไม่ได้เมนต์ด่าว่า “แม่เป็นกะ..” ตอนนี้แคปทุกคอมเมนต์ เตรียมดำเนินคดีเอาผิด
จะว่าเป็นการเปิดใจแบบหมดเปลือก ทุกซอกทุกมุมในสิ่งที่ “ม้า อรนภา กฤษฎี” อยากจะพูด เพราะหลังจากเจ้าตัวต้องเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ในชีวิตจนต้องถูกปลดทุกรายการ ต้องไปขายห่อหมกแทน แต่ก็ไม่วายถูกทัวร์ตามไปลงอย่างต่อเนื่อง อย่างล่าสุดเจ้าตัวไปออกรายการ “แฉ” ทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25 พร้อมเปิดใจว่าไม่เข้าใจการที่ตนเองไปฉีดวัคซีนและขอบคุณรัฐบาล ก็ถูกกล่าวหาทำเพราะรับเงินมา จากนั้นก็เผยอีกว่าทุกวันนี้รายได้จากหลักแสนหรือแค่ศูนย์ เศร้าใจที่สุดคือการไม่ได้ให้เงินเดือนแม่ พร้อมบอกไม่ทนแล้ว หลังจากถูกชาวเน็ตบางคนเมนต์ด่าแม่ตนเอง แคปเอาไว้หมดแล้ว เตรียมดำเนินคดีทั้งหมด
“ทุกวันนี้ห่อหมกขายดี แต่ถ้าเทียบกับค่าตัวที่เคยได้ มันเทียบกันไม่ได้เลย เพราะเมื่อก่อนเดือนๆ นึงคือได้เยอะ แต่การขายห่อหมกคือเป็นความสุขทางใจ มันไม่ต้องคิดอะไร สบายๆ ทำให้แม่เท่านั้นเอง
วันนั้นที่ทัวร์ลง แต่สิ่งที่ทำให้เรามีสติคือธรรมะ ธรรมะทำให้เรามีสติ ปล่อยวางได้ เห็นกับความถ่องแท้ เห็นกับปัจจุบันตลอดเวลา อยากจะบอกทุกคนว่าการที่คนไทยนับถือศาสนาพุทธ มีการปฏิบัติธรรม ไม่สุดมากเกินไป ไม่ลงดิ่งมากเกินไป เราเข้าใจทุกเรื่องทุกอย่าง สติเป็นเรื่องสำคัญที่สุด การปฏิบัติธรรม ทำให้เรามีสติ พอมีสติแล้วจะทำให้เกิดปัญญา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แล้วเรารู้เท่าทันนะ มันก็สามารถจะควบคุมได้ทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่เสียใจ ไม่ตีโพยตีพาย ไม่ฟูมฟายในหน้าเฟซ เพราะฉันผอมแล้ว เอวเอสแล้ว และสิ่งที่ฉันเจอคือหนักหนาที่สุดคือหลุดออกจากทุกรายการ แต่ก็ไม่เห็นจะต้องทำใจอะไรเลย แต่ถามว่าเสียดายไหม คือเสียดายตังค์ แต่ไม่เสียใจ เพราะว่าเราทำมาตลอดเวลาแล้ว มันจะมีวันที่สูงสุดและสู่สามัญ อันนี้เป็นทุกคน มันเป็นทุกคน แต่สำหรับของเรานานมากกว่าจะมาถึงตรงนี้ กว่า 40 ปี ต้องขอบคุณที่ทำให้อยู่ได้นานขนาดนี้ คุ้มค่ากับสิ่งที่เราได้รับมาก มากเกินจนไม่รู้จะขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างยังไง และอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต อะไรมันจะเกิด เราก็รับไว้ และก็ขอบคุณ
ตอนนี้เงินที่ได้คือเป็นศูนย์ จากเมื่อก่อนเคยได้แบบสุดๆ ก็เสียดายนะแต่ไม่เสียใจนะ เพราะไม่รู้จะเสียใจไปทำไม เพราะมันก็ช่วยอะไรไม่ได้ และไอ้ทัวร์ลง สุดท้ายก็เป็นอย่างที่ฉันที่พูดหมดเลยใช่ไหมล่ะ อย่างล่าสุดดิฉันพาแม่ไปฉีดวัคซีน และวันที่ดิฉันไปฉีดวัคซีนในแอปฯ หมอพร้อม ลงทั้งหมด 4 ครั้งกว่าจะได้ก็ครั้งที่ 4 ลงได้วันที่ 7 กับโรงพยาบาลใกล้บ้าน เขาก็ส่งมายื่นคอนเฟิร์ม พอเราไปถึงที่นี่ เราก็ต่อคิวเหมือนคนอื่น กรอกข้อมูล แต่พอพีอาร์เขาเห็นเขาก็อำนวยความสะดวกให้เรา
ซึ่งจริงๆ มันสะดวกอยู่แล้ว และพอเราเสร็จทุกขั้นตอน สิ่งที่ได้สัมผัสคือระบบของโรงพยาบาลทำไว้ได้ดีมาก คือคนไม่แน่น เขาจะปล่อยไปทีละกรุ๊ปกำลังงาม เราเห็นแล้วทำไว้ดี เราก็เขียนขอบคุณ และสิ่งที่เราได้ฉีดวัคซีนได้เพราะรัฐบาลเป็นคนจัดการ ก็ขอบคุณรัฐบาลนี้ สรุปทัวร์ลงฉิบหาย ดิฉันผิดตรงไหน ฉันไม่ใช่ดาราแล้ว ประชาชนไล่ฉันออกจากวงการแล้ว ออกมา 8-9 เดือนแล้ว ฉันก็ไมได้ไปตีโพยตีพายอะไร ไม่ได้มาถามว่าไล่ฉันทำไม ไล่ฉัน ฉันก็ไป และพอฉันไปขายห่อหมก ก็มาด่าฉันว่าตกอับ
ซึ่งสิ่งที่ฉันทำไม่ได้คดโกงใครเลยในอาชีพ มันผิดมาก ฉันงงมาก และการขอบคุณบุญคุณที่โรงพยาบาลและรัฐบาลทำให้ มันผิดมากหรือไง และฉันก็ไม่ใช่คนสำคัญ และยังมาบอกว่าฉันรับเงิน 4-5 แสน เพราะฉันลงทะเบียนตามปกติ และพอฉันไปขายห่อหมกก็ไปตามด่าฉัน และถ้าฉันจะไปขายครีมจะตามมาด่าฉันอีกไหม ฉันไม่เข้าใจตรงนี้ คือตอนนี้ฉันเป็นปุถุชนเหมือนทุกคนแล้ว ฉันไม่เคยไปพูดเรื่องการเมืองหรือบลูลี่ใคร ฉันก็อยู่ของฉัน ลงในไอจีของฉัน และฉันจะอยู่ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ในอดีตหรือปัจจุบัน มันจะยังไง ฉันงง ด่าฉันทำไม
บางคนด่าถึงแม่ฉันด้วย แม่ฉันไปทำอะไรให้ แม่ฉันอายุ 96 แม่ฉันทำอะไรให้คุณ ถ้าคุณไม่พอใจ หมั่นไส้ อิจฉาดิฉัน คุณอิจฉาดิฉันทำไม ฉันเป็นคนตกงาน จากรายได้เป็นแสนต่อเดือน ตอนนี้กลายเป็นศูนย์ คุณอิจฉาฉันทำไม สภาพที่แต่งตัวสวยอยู่ เป็นเสื้อผ้าที่เคยมีอยู่ และดิฉันทำตัวเองให้ผอมอยู่ เพื่อจะไม่ต้องซื้อเสื้อผ้าไซส์ใหม่ ฉันผิดตรงไหน ของทุกอย่างเป็นของที่มีมาแล้วในอดีตทั้งหมด
เกือบ 2 ปีไม่ได้ช้อปปิ้งเลย ฉันไม่ประมาทในตัวเอง ฉันพยายามควบคุมทุกอย่าง ให้อยู่ด้วยความพอประมาณในชีวิตที่จะใช้อยู่ และฉันผิดตรงไหน อยู่ดีๆ ก็ลุกขึ้นมาด่า ด่าฉันไปทำไม อิจฉาฉันทำไม และฉันไม่เคยไปร้องแร่แห่กระเฌอ ไปขอร้องใครว่าเห็นใจฉันเถอะ เพราะดิฉันรู้ว่าวิถีชีวิตของดิฉันยืนอยู่ด้วยสัจธรรมทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น(พิธีกรร้องไห้)
หนูอย่าร้องเดี๋ยวพี่ร้องตาม แม้ฉันถูกออกจากงานทุกอย่าง แต่ไม่เคยร้องไห้เลย นั่งอยู่กับแม่วันนั้น วันที่หนุ่ม กรรชัยประกาศในข่าวใส่ไข่ว่าคุณม้าอรนภาไม่ได้ทำหน้าที่นี้แล้ว ฉันกับแม่ก็นั่งนิ่งเฉย กับสิ่งที่เราปฏิบัติธรรมมา เราอยู่กับปัจจุบันเสมอ ไม่ว่าอะไรมันจะเกิด มันก็ต้องเกิด เราต้องมีสติอยู่กับมัน ก็ไมได้ร้องไห้อะไร แต่ฉันร้องไห้เพราะทุกคนเข้ามากอดฉัน ให้กำลังใจฉัน มีคนเห็นใจดิฉันเยอะมาก จนทุกวันนี้ก็ยังมีคนบอกว่าเป็นกำลังใจให้นะ สู้ต่อไปนะ”
ถึงเจอวิกฤตในชีวิตแต่ไม่เคยงอมืองอเท้า เศร้าต้องหยุดให้เงินเดือนแม่
“จนทุกวันนี้ทำไมต้องออกมาขายห่อหมก ทำไมต้องมาขายเครื่องสำอาง ทำไมต้องมาไลฟ์ขายเสื้อผ้า ซึ่งบางอย่างฉันไม่เคยทำเลย แต่บางอย่างฉันก็ไม่อยากเริ่มต้นใหม่แล้ว แต่ในเมื่อเจอวิกฤตในชีวิต เราไม่เคยงอมืองอเท้า และฉันอยากจะพูดอันนึงนะว่าตลอดชีวิต ฉันให้เงินเดือนแม่มาตลอด ตั้งแต่ฉันเจอวิกฤต ฉันหยุดให้เงินเดือนแม่เลยนะ มันเป็นเรื่องเศร้ามาก มันเป็นเรื่องเศร้ามากนะที่ฉันไม่ได้ดูแลแม่ แต่สิ่งที่ฉันทำคืออดออม สองฉันช่วยโปรโมตห่อหมกให้แม่มีรายได้ อย่าด่าฉันอีกเลย ฉันทำดีที่สุดแล้ว
ที่ผ่านมาฉันสู้มาด้วยตัวดิฉันตลอด อย่าได้เที่ยวบลูลี่หรือว่าด่าดิฉันไปเรื่อยเปื่อย คุณหาว่าดิฉันเป็นคนเลว ฉันไม่ใช่คนดีกับทุกคนอยู่แล้ว ฉันบอกเลยว่าพระพุทธเจ้ายังมีมารผจญเลย เราล่ะ เป็นแค่ปุถุชนคนธรรมดาคนนึงเราก็ต้องโดนเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราแค่สงสัยว่า สิ่งที่ด่าทำไปเพื่ออะไร สุดท้ายก็มาเสียใจกันทุกคน ทำก่อนคิดเสมอ ทุกอย่างเวลาทำอะไรต้องคิดเสมอ และคำขอโทษต้องเก็บไว้เป็นคำสุดท้าย ที่พยายามจะไม่พูด เราต้องเริ่มทำด้วยการไม่ต้องใช้คำขอโทษตอนจบ คิดให้ดีทุกเรื่องราว
ดิฉันไม่เคยตามอ่านอะไร แต่แฟนคลับก็ส่งมาให้ ขอบคุณที่ยังเป็นแฟนคลับของดิฉันอยู่ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นบุคคลสาธารณะแล้ว เขาส่งมาบอกว่ามันเกินไปแล้วแบบนี้ คุณลืมไปแล้วเหรอว่าดิฉันเป็นผู้ใหญ่คนนึง และก็ไม่เคยตอกกลับไป (หลังจากนี้คือไม่ยอมแล้ว?) ดิฉันไม่มีที่ยืนแล้ว คุณทำให้ดิฉันเป็นแบบนี้ ดิฉันเคยมีที่ยืนเหมือนทุกคน แต่พอวันนี้ไม่มีที่ยืนแล้ว คุณจะมาทำแบบนี้กับดิฉันทำไม ก็รับไม่ได้เหมือนกัน ตอนนี้ก็ได้ปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวกับสื่อทางโซเซียล และรับไม่ได้คือด่าแม่ฉัน ตามไปด่าถึงในเพจห่อหมกแม่ม้า แต่ก็แคปไว้หมดแล้ว ด่าแม่ฉันเป็นกะ... แม่ฉันไปทำอะไรให้”