“น้ำเพชร” ช็อกมาก โดนไล่ออกจากวงสัมภาษณ์ แต่ตอนนี้ไม่ติดใจ เข้าใจผู้จัดงาน ส่วนดรามา “พิมรี่พาย” จบแล้ว

“น้ำเพชร” รับช็อกถูกตะเพิดออกจากวงสัมภาษณ์ ไล่ให้ออกจากแบล็กดร็อปไปสัมภาษณ์ข้างนอก ลั่นเข้าใจทุกฝ่าย ไม่ติดใจอะไรแล้ว อยากให้ทุกอย่างจบแค่นี้ ขอบคุณทุกคนที่เห็นใจ ปล่อยผ่านคนด่าเพราะชินแล้ว ไม่ติดใจ “พิมรี่พาย” แฮปปี้ได้รับของสมนาคุณแล้ว ขอโทษหากโพสต์อะไรที่เป็นอารมณ์ ชื่นชมเป็นคนเก่ง ติดตามมาตลอด

กรณีที่ “น้ำเพชร ฏีญาภาร์ กฤษณสุวรรณ” มิสเอิร์ธไทยแลนด์ Miss Earth Thailand 2019-2020 ถูกเชิญออกไปสัมภาษณ์นอกบริเวณแบล็กดร็อป ระหว่างให้สัมภาษณ์กลางงานแถลงข่าวมิสเอิร์ธไทยแลนด์ 2021 จนทำให้สาวน้ำเพชรออกอาการเหวอ นักข่าวงงว่าเกิดอะไรขึ้น ล่าสุดในงาน Exclusive SHAKILA เสริมความปัง ด้วยพลังจักรวาล กับ กระเป๋าหนังจระเข้พลังจักรวาล ณ โรงแรม InterContinenatal น้ำเพชรได้ชี้แจงถึงดรามาที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าช็อก แต่อยากให้จบลงแค่นี้

“เหตุการณ์ตอนนั้นก็เป็นตามที่ทุกคนเห็นเลยค่ะ สำหรับตัวหนูก็ไม่ได้อยากที่จะพูดอะไร เพราะพูดไปก็มีแต่เสียกับเสียหมดเลย แต่ความรู้สึกตอนนั้นก็ช็อกค่ะ (หัวเราะ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับหนูคิดว่าคงไม่มีใครตั้งใจอยากให้มันออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตัวหนูหรือตัวผู้ใหญ่เอง สำหรับหนูมานั่งคิดๆ ดูแล้วมันก็อาจจะจริง เพราะเราเองก็ต้องเข้าใจคนจัดงานด้วย และเราก็เข้าใจพี่ๆ นักข่าวด้วย คือพี่ๆ ก็ไม่ค่อยได้เจอเพชรเนอะ ยิ่งมีช่วงโควิดด้วย พอเราได้มาเจอกันก็อยากสัมภาษณ์กัน และเพชรก็เข้าใจทางผู้จัดงานด้วย คือเข้าใจทั้งสองฝ่าย ก็อยากให้เหตุการณ์นี้มันจบลงแค่นี้ค่ะ

ไม่ได้มีเคลียร์กับทางผู้ใหญ่ค่ะ ไม่ได้มีการติดต่อไปค่ะ ถามว่าร่วมงานกันได้อีกไหม คือถ้าเป็นงานหนูก็ยินดีที่จะร่วมทุกงานค่ะ แต่มันก็ต้องอยู่ในสโคปของงาน ต่อไปเราอาจจะต้องคุยให้มันดีขึ้น ว่าอาจจะให้พีอาร์บอกกับผู้จัดการเราก่อนว่าสัมภาษณ์ได้ไหม หรือสัมภาษณ์ตรงไหน มันจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ถามว่าสนิทกับผู้ใหญ่ท่านนี้ขนาดไหน (นิ่งคิด) ก็ร่วมงานกันได้ค่ะ ส่วนที่เพชรเรียกท่านว่าแม่ก็คือทุกคนก็เรียกว่าแม่เหมือนกันค่ะ

ถามว่าก่อนหน้านี้มีแจ้งไว้ก่อนไหมว่าห้ามพูดเรื่องอะไรบ้าง คือตัวหนูลงไปอยู่ที่ภูเก็ตมาเกือบเดือนแล้ว หนูก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียดอะไรเท่าไหร่ พอเขาเชิญมาที่งาน คือหนูก็ยังดำรงตำแหน่งมิสเอิร์ธไทยแลนด์ 2020 อยู่ ยังไม่ได้อำลา หนูก็คิดว่ามันคงเป็นหน้าที่หนูที่จะต้องมาร่วมงาน หนูก็บินมาจากภูเก็ต ส่วนในงานหนูก็ไม่รู้ว่าพีอาร์เป็นใคร ไม่มีใครบิวต์อะไรหนูก่อนเลย และพอเสร็จจากการแถลงข่าวแล้ว กำลังจะกลับ พอพี่ๆ ขอสัมภาษณ์หนูก็ยินดี เพราะหนูก็ไม่ได้เจอพี่ๆ มานานแล้ว ก็สัมภาษณ์ก่อนที่จะกลับภูเก็ต ก็ไม่คิดเหมือนกันค่ะ แต่เอาเป็นว่าหนูก็ต้องขอโทษด้วย ขอโทษทางพี่ๆ นักข่าวด้วย เพราะในวันนั้นทุกคนก็คงตกใจ และต้องขอโทษทางผู้จัดงานด้วยนะคะ หนูเองก็รู้สึกไม่ดีเลยที่เหตุการณ์มันออกมาเป็นแบบนี้ ไม่อยากให้ใครต้องมาว่าใคร อีกอย่างก็เป็นเวทีของหนูเองด้วยค่ะ

ถามว่าเหตุการณ์นี้กระทบกับชื่อเสียงของหนูไหม ไม่เลยค่ะ คือเหตุการณ์นี้ก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นใจ หนูก็ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่เห็นใจหนู แต่หนูรู้สึกว่าเรื่องนี้เราไม่เอามาพูดกันแล้วดีกว่า อยากให้มันผ่านไป อยากให้ทุกคนลืมมันไปเถอะเนอะ (ยิ้ม) ในส่วนคนที่มาซ้ำเติมคือหนูรู้ว่าชีวิตหนูอยู่กับเหตุการณ์ที่คนรุมด่า รุมซ้ำเติมมาโดยตลอดอยู่แล้วค่ะ ครั้งนี้มันก็ไม่ได้แรงไปกว่าครั้งแรกที่หนูโดน หนูก็ชินแล้วค่ะ (ยิ้ม) แต่ถามว่าน้อยใจไหม มันก็มีบ้างค่ะ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากที่จะไม่สนใจ ไปเที่ยวซะ ไปทำอย่างอื่นซะ แล้วก็ทำงานต่อไป”

ได้รับของสมนาคุณจาก “พิมรี่พาย” พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์แล้ว ไม่ติดใจ พร้อมขอโทษหากโพสต์อะไรที่เป็นอารมณ์ ชื่นชมความเก่ง ติดตามมาตลอด
“เรื่องของสมนาคุณ คือเมื่อวานประมาณ 4-5 โมงเย็นก็มีพัสดุเคอรี่มาส่งที่บ้านค่ะ ตอนแรกก็ลังเลใจว่าจะเปิดดีไหม หรือจะส่งกลับ หรือจะยังไง เพราะเป็นของที่เราไม่ได้สั่ง แต่เพชรเองก็ต้องการจะจบดรามาเรื่องนี้ คือส่วนตัวเพชรก็เป็นคนที่ชอบพี่พิม ชื่นชมในความเก่งของเขา และในการช่วยเหลือคนของเขา เพชรก็ตามมาตลอด เพชรก็ไม่ได้อยากให้เหตุการณ์มันออกมาเป็นแบบนี้หรอก แต่อยากที่จะให้ทุกคนเข้าใจนิดนึงว่าในฐานะที่เป็นแฟนคลับชื่นชอบ แต่ในส่วนของการซื้อของซึ่งเป็นผู้บริโภคเป็นลูกค้ามันก็อีกพาร์ตนึง คือรอของนานน่ะไม่เป็นไร เพชรแค่อยากได้ของครบจบในออเดอร์เดียว สุดท้ายพอมันไม่ได้ เพชรก็ทวงถามเป็นเรื่องปกติ

สุดท้ายพอมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วบอกจะส่งของนั่นนี่มาให้ เพชรก็อยากพิสูจน์ว่าจริงหรือเปล่าแค่นั้นเองค่ะ แล้วพอเปิดออกมามันไม่ใช่ ในเหตุการณ์ตรงนั้นที่ขำ คืออยากมองมันเป็นเรื่องตลก คือเปิดออกมาแล้วไม่ตรง และของก็ไม่ตรงปกอีก ก็เป็นเรื่องตลกเนอะ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องขอบคุณบริษัท พิมรี่พาย คอสเมติกนะคะที่ส่งของสมนาคุณมาให้ แต่จริงๆ แล้วอยากที่จะบอกทุกคนว่าเวลาที่เราซื้อของออนไลน์ เราซื้อของก็แค่อยากได้ของ เราไม่ได้อยากได้ของแถมหรืออะไรหรอกค่ะ แต่สุดท้ายแล้วเพชรก็นอยด์นะ เพราะสุดท้ายเพชรเปิดกล่องก็โดนด่า ไม่เปิดก็โดนด่า อัดคลิปก็โดนด่า ไม่อัดคลิปก็โดนด่า คือทำอะไรก็โดนด่าหมด แล้วสุดท้ายเพชรจะต้องทำยังไงคะ (หัวเราะ)

กับพี่ทีมงานคนที่เป็นประเด็น ตั้งแต่วันนั้นเพชรก็ไม่ได้ไปสนใจพี่คนนั้นอีกเลย คืออยากให้มันจบๆ ไป และที่ไลฟ์ตอนที่เห็นของ เจตนาก็อยากให้ทุกคนเห็นชัดๆ ไปเลย คือเพชรรู้สึกนอยด์นะว่าเราแค่สั่งของ เราซื้อของมาแล้วก็เอามาโพสต์ตามหาของ ขอความช่วยเหลือหาคำตอบที่เรายังไม่ได้คำตอบ แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันแล้ว แต่ยังไงก็ขอบคุณทางบริษัทมากๆ นะคะที่เซอร์วิสลูกค้าได้อย่างดีและทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดแล้ว

หนูเองก็อยากจะขอโทษ คืออะไรที่โพสต์แล้วมันเป็นอารมณ์ หนูก็รู้สึกว่าถ้าอะไรที่หนูผิด มันก็ต้องขอโทษ อันนี้หนูก็ต้องขออภัยทางทีมงาน ทางบริษัท บมจ.พิมรี่พาย จำกัด ถ้าเกิดว่าเราโพสต์อะไรที่มันเป็นข้อความที่เป็นอารมณ์ แต่พอเคลียร์เสร็จแล้ว มองในมุมของเรา มองในมุมของเขา เราก็เข้าใจได้ ก็ปล่อยให้มันผ่านไปค่ะ ไม่ได้ติดใจอะไรแล้วค่ะ”