งานเข้าบรรดาสาวหน้าเหมือน “ฟ่านปิงปิง” โดนฟ้องกระจายหลังหาเงินจากความคล้าย

ทำเอาบรรดาสาวๆที่ฝันอยากเป็น “ฟ่านปิงปิง” นักแสดงสาวชื่อดังชาวจีนต้องซวยกันถ้วนหน้า เมื่อเหล่าสาวๆหน้าคล้ายต่างกำลังถูกเรียกตัวดำเนินคดี

การมีชื่อเสียงจากความหน้าคล้ายคนดังอาจมาพร้อมกับข้อดีบางอย่าง เพราะอย่างน้อยสามารถทำรายได้จากมันได้ แต่สำหรับ เฉินซินหลิง สาว ผู้มีความคล้ายคลึงกับซูเปอร์สตาร์ชาวจีนระดับอินเตอร์อย่าง ฟ่านปิงปิง มันกลายเป็นความผิดทางกฎหมาย


เมื่อเดือน ก.ย. 2020 เฉินซินหลิง วัย 32 ปี ถูก ฟ่านปิงปิง ยื่นฟ้องในฐานละเมิดสิทธิ์ภาพลักษณ์ส่วนบุคคล ในเวลานั้น   เฉินซินหลิง ค่อนข้างได้รับความนิยมในโลกออนไลน์ในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ของการขายผ่านไลฟ์สตรีม ในเว็บไซต์ Taobao พร้อมกับมีผู้ติดตามนับล้านคน

อย่างไรก็ตามแม้ว่าเธอจะไม่ได้เรียกตนเองว่า ฟ่านปิงปิง แต่เธอก็เลือกจะใช้ชื่อที่คล้ายๆกันอย่างว่า “ฟ่านเย่ปิง” พร้อมกับใช้ช่องของเธอขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงาม และทรีทเมนต์


เฉินซินหลิง เชื่อมั่นว่าเธอมีชื่อเสียงเพราะเธอได้รับความนิยม เธอได้พูดถึงเรื่องนี้เป็นคลิปสั้นๆผ่านทาง Douyin ว่า “ผู้คนนับหมื่นต่างเรียกฉันว่า ฟ่านปิงปิง แบบนั้นกันเอง”

ต้องบอกว่า เฉินซินหลิง ไม่ใช่คนเดียวที่หาผลประโยชน์จากความหน้าเหมือนคนดัง เพราะยังมีหลายคนที่พยายามผ่าตัดศัลยกรรมให้ตนเองดูสวยและคล้ายซุปตาร์ ฟ่านปิงปิง ให้ได้มากที่สุด


เฮ่อเฉิงซี วัย 28 ปี ก็มีรายงานว่าเธอใช้เวลาถึง 8 ปีและหมดเงินหลายล้านหยวนไปกับการทำศัลยกรรมพลาสติกเพื่อให้เหมือน ฟ่านปิงปิง สาวที่เป็นคนดัง สร้างชื่อในจีนตั้งแต่ปี 2007


หลังจากที่ เฮ่อเฉิงซี ได้เข้าไปร่วมรายการเรียลลิตี้ Super Girl ทางช่อง Hunan Satellite TV เมื่อปี 2016 ก็กลายเป็นที่พูดถึงที่ผู้คนให้ความสนใจจนโด่งดังภายในข้ามคืน เพราะความหน้าเหมือน ฟ่านปิงปิง ซึ่งเธอมีผู้ติดตามใน Weibo ถึง 1.4 ล้านคน และยังได้แสดงภาพยนตร์รวมถึงเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ต่างๆ


จั้วเฮิงหยู อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่หน้าคล้าย หยางมี่ อย่างกับฝาแฝด ถึงขนาดที่ว่าในปี 2012 มีข่าวลือว่า หยางมี่ ถึงขั้นทำศัลยกรรมเพื่อให้เหมือนกับจั้วเฮิงหยู เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามแม้ทั้ง 3 สาวอินฟลูเอนเซอร์ จะไม่ได้ใช้ชื่อของ ฟ่านปิงปิง ในการทำกิจกรรมโปรโมทต่างๆโดยตรง แต่ก็มีบางคนที่ฝันอยากเป็นคนดังอย่างกรณีของ ไช่หยวนเฟิง ที่ได้ใช้ทั้งชื่อและรูปภาพของนักร้องดัง วาวกี้ จาง ในการโฆษณา และโฆษณาร้านอาหารซีฟู้ดเมื่อปี 2018 ส่งผลให้ วาวกี้ จาง ออกแถลงข่าวว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะฟ้อง ไช่หยวนเฟิง


เจียงไช่อิง ทนายที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ได้กล่าวว่า พวกฝันอยากเป็นเหมือนคนดังสามารถทำอะไรก็ได้ ตราบใดที่ไม่ได้ใช้ชื่อของคนดังคนนั้น

“มันยากที่จะพิสูจน์ว่า 2 ใบหน้ามีลักษณะเหมือนกัน จึงยากที่จะบอกว่าหน้าคนหนึ่งไปละเมิดสิทธิทางลักษณะหน้าตาของอีกคนหนึ่ง พวกเหล่าคนดังเองก็สามารถไปทำศัลยกรรมได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นหน้าแบบไหนกันที่เราควรจะยึดในการดำเนินคดี?” ทนายกล่าว

เจียงไช่อิง ยังระบุอีกว่า สาวนักสตรีมเมอร์ ไม่เคยกล่าวอ้างว่าเธอคือ ฟ่านปิงปิง “ถ้าเธอทำก็หมายความว่าเธอทำผิดกฎหมายแถมเธอก็ไม่ได้เลียนแบบกิริยาท่าทางของ ฟ่านปิงปิง ดังนั้นคนทั่วไปจึงรู้ว่าเธอไม่ใช่ฟ่านปิงปิง แค่ใครคนหนึ่งที่หน้าตาคล้าย ฟ่านปิงปิง เท่านั้น ฉันได้แนะนำว่า เฉินซินหลิง ควรต่อสู้ต่อจนจบเพื่อที่เธอจะได้ใช้ประโยชน์จากความสนใจของสื่อที่เกิดจากคดีนี้ต่อไป”


เฉินชินหลิง ไม่ใช่คนเดียวที่ถูกฟ้องเรื่องหาประโยชน์จากความหน้าคล้าย ฟ่านปิงปิง รายงานจากเมื่อเดือน ก.ย. 2018 ระบุว่า ฟ่านปิงปิง เกี่ยวข้องกับคดีแพ่งที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของเธอถึง 6 คดีด้วยกัน ซึ่งเธอชนะคดีทั้งหมด ก่อนจะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมในเดือน ธ.ค. 2018 อีก 99 คดี ซึ่งระบุไว้ในเว็บไซต์ของศาลสูงเทศบาลกรุงปักกิ่งเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ภาพเหมือนของ ฟ่านปิงปิง

ส่วนคดีที่ ฟ่านปิงปิง ต่อสู้กับ เฉินซินหลิง นักแสดงสาวเรียกร้องให้ เฉินซินหลิง หยุดใช้ชื่อ ฟ่านเย่ปิง ในการไลฟ์สตรีมทาง Taobao และให้จ่ายค่าชดเชยประมาณ 500,000 หยวนรวมถึงจ่ายค่าธรรมเนียมทางกฏหมายให้เธอด้วย พร้อมกับให้ขอโทษทางออนไลน์ทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อย 60 วัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นข้อเรียกร้องบางส่วนจาก ฟ่านปิงปิง


หลังการดำเนินการทางกฎหมาย เฉินซินหลิง ได้เปลี่ยนชื่อในวงการออนไลน์ของเธอแล้ว และได้ทำศัลยกรรมจมูกใหม่เมื่อเดือน เม.ย.ด้วย เพื่อที่เธอจะได้ดูเหมือน ฟ่านปิงปิง น้อยลง

ซึ่ง เฉินซินหลิง ได้กล่าวว่า การที่เธอดึงดูดผู้คนให้เข้ามาในไลฟ์สตรีมไม่ใช่เพราะความคล้าย ฟ่านปิงปิง แต่เป็นเพราะสไตล์ส่วนตัวของเธอในฐานะบุคคลที่ทำงานไลฟ์สตรีมอย่างหนักที่แคร์ความรู้สึกของแฟนๆมากที่สุด

“ฉันถึงขั้นจำวันเกิดของพวกแฟนพันธุ์แท้ได้ ฉันทำไลฟ์สตรีมซึ่งปกติจะทำประมาณ 10 ชม.ต่อวัน ยาวนาน 350 วันต่อปี ไม่เหมือนพวก KOLs ( Key Opinion Leaders คือ คำจำกัดความของกลุ่มคนที่ที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อผู้บริโภค ) รายอื่นๆ ที่มีทีมคอยช่วยเหลือพวกเขา ฉันมีแค่ผู้ช่วยเพียงคนเดียว ฉันต้องทำวิจัยออนไลน์เกี่ยวกับสินค้าที่ฉันโปรโมท เป็นเวลาหลายชั่วโมงทุกวัน ในฐานะ KOLs ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากแบบฉัน ต้องมาคอยนั่งพูดโปรโมทสินค้าเป็นเวลา 30 นาที - 1 ชั่วโมงก่อนที่สินค้าจะถูกขาย ฉันยังจัดแจงการขายของฉันด้วยการพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตของฉันเพื่อให้ดูไม่ได้ตั้งใจขายมากเกินไปด้วย”


พร้อมกันนั้นยังระบุ ฟ่านปิงปิง เป็นเหมือนไอดอลของเธอ พร้อมระบุด้วยว่าอนาคตของเธอในฐานะไลฟ์สตรีมเมอร์ตอนนี้ยังคงดูมืดมน

“ฉันค่อนข้างเศร้าเพราะว่าฉันอาจไม่สามารถเป็นไลฟ์สตรีมเมอร์ได้อีกในอนาคต งานของฉันทำให้ฉันมีเงินพอที่จะซื้อบ้านให้พ่อแม่ ฉันสามารถผ่อนบ้านและรถหมดได้ภายใน 2 ปี ขณะที่ตอนนี้ฉันไม่ได้ต้องการเงินจากงานไลฟ์สตรีมมิงหรอก แต่ฉันแค่มีความสุขกับการได้ทำสิ่งนั้น”