“สายป่าน” รอเก้อ คู่กรณีไม่โผล่ศาล ส่งมาแต่ทนาย ยื่นข้อเสนอถอนฟ้อง แล้วจะขอโทษ ลั่นไม่จ่าย 5 ล้าน เพราะไม่ผิด ทำพูดไม่ออก ฟังแล้วค้านความรู้สึก เปิดโอกาสคุยแล้วทำไมไม่มา อยากรู้ทำแบบนี้เพื่ออะไร ศาลนัดใหม่ 16 มิ.ย.นี้ ประทับรับฟ้องเมื่อไหร่ เจอกันแน่
หลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมา “สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข” เดินทางมายังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พร้อม “ทนายเกรียงชัย วิศิษฏ์สรอรรถ” หลังศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องนัดแรก คดีที่เจ้าตัวยื่นฟ้องหมิ่นประมาท “นายวรพันธ์ อุดมพงษ์” ครูสอนดำน้ำ ที่โพสต์เฟซบุ๊กโจมตีธุรกิจขายอุปกรณ์ดำน้ำของสายป่าน ทำนองว่าอยู่ในสภาพชำรุดซื้อมาแล้วมีปัญหา ทำให้คนเข้าใจผิดจนยอดขายตก ลูกค้ายกเลิกสั่งซื้อสินค้า สูญเงินนับ 10 ล้าน
โดยเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนเข้าห้องพิจารณาคดีว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่เคยเจอตัวคู่กรณีเลยแม้แต่ครั้งเดียว และคาดหวังว่าวันนี้อีกฝ่ายจะมา แต่ปรากฏว่าสุดท้ายคู่กรณีก็หายต๋อม ส่งเพียงทนายความมาแทนเท่านั้น ทั้งยังยืนกรานว่าตนเองไม่ผิด และจะไม่จ่ายค่าเสียหาย 5 ล้านบาทตามที่สายป่านเรียกร้องมาอย่างแน่นอน
ทนาย : “ผมว่าแนวโน้มดีนะครับ เพราะว่าศาลท่านก็ให้ความเมตตา บันทึกเรื่องราวตามความจริง วันนี้ก็ไต่สวนเสร็จของน้องป่านไปปากหนึ่ง เหลือพยานอีกปากหนึ่ง ที่จะเข้ามาสืบในชั้นไต่ศาลมูลฟ้องนี้นะครับ วันนี้คู่กรณีไม่มาครับ แล้วก็ส่งทนายมา เสนอเงื่อนไข”
สายป่าน : “เงื่อนไขของเขานะคะ คือเขายื่นข้อเสนอมาว่า อยากให้ป่านถอนฟ้อง แล้วเขาก็จะขอโทษ แต่ไม่ได้มีในเรื่องของการชดใช้ค่าเสียหาย ตามที่เราเรียกไป ป่านก็บอกว่า คือไกล่เกลี่ย ป่านเปิดตั้งแต่แรกอยู่แล้วนะคะ อย่างที่บอกมาตลอด ว่าป่านก็รอให้เขาโทร.มา แต่เขาไม่โทร.ไม่ติดต่อ เขาไม่มาขอเจรจา
จนกระทั่งถึงวันนี้ ในส่วนที่เขายื่นข้อเสนอมา ป่านก็รู้สึกว่ามันยังไม่พอ เพราะตอนที่กระทำมันเสียหายมากกว่านี้เยอะ แล้ว ณ ตอนนี้เลยมันก็ไม่ได้มีการแก้ข่าว ชื่อเสียงป่านก็ยังไม่ได้กลับมาเท่าเดิม ของของป่านก็ขายได้น้อยลงค่ะ ก็เลยอยากได้ทั้ง 2 อย่างค่ะ ทั้งคำขอโทษ แล้วก็ค่าเสียหาย ในส่วนที่ป่านเสียหายไป แต่ก็ยังไม่ได้คุยกันค่ะ เพราะวันนี้ตัวเขายังไม่ได้มา”
ทนาย : “จริงๆ เราแจ้งนะครับ เราบอกตอนที่ไกล่เกลี่ยกับทางศาล แล้วก็ทางทนายของเขา คือคุณจะเยียวยาเท่าไหร่ ลองเสนอมา เผื่อมันคุยกันได้ก็จบกันไป แต่ทางตัวความของเขาเนี่ย ไม่ประสงค์ที่จะจ่ายเลย เพราะเขามองว่าเขาไม่ผิด เขาบอกว่าเขาไม่ผิด เราก็เลยไม่รู้ว่ายังไงคือไม่ผิดเหมือนกัน อันนี้ผมก็งง เพราะความเสียหายมันก็ชัดเจน น้องเสียหายค่อนข้างเยอะ แล้วส่วนหลักฐานความเสียหาย เราก็นำสืบแค่บางส่วนเอาไว้ก่อน เพราะเดี๋ยวในชั้นพิจารณา ถ้าหากว่าศาลท่านประทับรับฟ้องเนี่ย ก็คงจะได้เห็น ว่าเสียหายมากน้อยแค่ไหน”
ทนาย : “ถามว่าถ้าเขาไม่จ่ายเราเรียกร้องได้ไหม ตรงนี้ก็เดี๋ยวอาจจะต้องดำเนินการ พวกบังคับคดีหรืออะไรก็ค่อยว่ากันไปอีกทีหนึ่งครับ ตามกระบวนการยุติธรรม เพราะยังไงเราก็ดำเนินการตามกฎหมายอยู่แล้วครับ เรื่องนี้จัดการได้ครับ (ยังไงก็ต้องหาอย่างอื่นมาจ่ายแทนให้ได้?) ก็ลักษณะประมาณอย่างนั้นครับ”
แค่คำขอโทษอย่างเดียว ตอนนี้มันไม่พอ เพราะเสียหายไปหนักมาก
สายป่าน : “ประมาณนั้นค่ะ”
ทนาย : “คืออยากให้ลองมองว่า ป่านเนี่ยเสียหายตั้งแต่ 16 ก.ค.63 ตอนนี้มันล่วงเลยเวลามานานมากแล้วครับ ไม่เคยมีแม้แต่คำขอโทษ ไม่เคยมีการติดต่อมาแสดงความจริงใจใดๆ ไม่มีเลย ทางน้องก็เสียหายเรื่อยๆ ทุกวันนี้ขนาดเวลาน้องไปดำน้ำ ช่วงโควิดซาลง ก็ยังมีคนมาถามเรื่องนี้อยู่ ว่าตกลงมันเป็นยังไง”
สายป่าน : “คือมันก็เป็นกอสซิป ว่าได้ยินข่าวเรื่องนี้ไหม อะไรประมาณนั้น แล้วมันก็เข้าหูป่านอยู่ ว่ามีคนเคยถามเรื่องนี้ ว่าเคยมีการเสียหาย”
เผยหลักฐานที่ทนายอีกฝ่ายนำมาวันนี้ ไม่ได้เยอะมาก
ทนาย : “หลักฐานเขาก็ไม่ได้เยอะมากในวันนี้ อาจจะส่วนหนึ่งเป็นเพระว่าเป็นชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ก็อาจจะยังเก็บข้อมูลอะไรของเขาเอาไว้ แต่ว่าทางเราก็นำเสนอไปค่อนข้างชัดเจน ในส่วนขององค์ประกอบความผิด แต่ค่าเสียหายบางส่วน ถ้าเกิดว่าเดี๋ยวประทับรับฟ้อง ได้เห็นแน่นอนว่าเราเสียหายมากขนาดไหน”
ฟังแล้วค้านความรู้สึก อีกฝ่ายไม่ตอบเหตุผล ไม่ยอมรับผิด และไม่จ่ายค่าเสียหายอะไรเลย
ทนาย : “คือทางทนายเขาก็แจ้งแต่ว่าทางนั้นไม่ผิด แล้วก็ลักษณะว่าเขาแสดงความเห็นโดยชอบ ประมาณนี้ครับ ซึ่งจริงๆ แล้วมันชัดเจนนะ เหมือนที่ทุกคนเห็นนะฮะ แล้วเขาก็ไปเอารูปจากคนอื่นมาด้วย โดยที่ไม่ได้รับความยินยอม แต่คือทางเจ้าของฟินเขาก็ไม่ได้แจ้งอะไรเราเพิ่มเติม”
สายป่าน : “ที่เขาบอกว่าเขาไม่ผิด เราได้ฟังแล้วมันก็ค้านกับความรู้สึกนะคะ คือป่านก็รู้สึกแหละ ป่านถึงฟ้อง (หัวเราะ) ป่านก็รู้สึกว่าเขากระทำความผิด อย่างน้อยก็คือเขาหมิ่นประมาทเรา ป่านถึงตัดสินใจที่จะฟ้อง ซึ่งในส่วนของหลักฐานของเขา ป่านไม่มั่นใจเลย ว่าเขามีอะไรอยู่บ้างนะคะ แต่ป่านมั่นใจในส่วนของป่านมากกว่า ว่าป่านมีหลักฐานที่ชัดเจน ว่าเขาผิด เขากระทำไปแล้ว”
ทนาย : “เหตุผลที่เขาไม่ยอมจ่ายเงิน เขาก็ไม่ได้แจ้ง ขนาดผมได้มีการถามเรื่องไกล่เกลี่ยวันนั้น อันนี้ก็เลยเพิ่งทราบเหมือนกัน ว่าทนายเขาก็เพิ่งแต่งขึ้นมาวันนี้ แต่ว่าคนที่ว่าวันนั้นไกล่เกลี่ยแล้วติดต่อไม่ได้ ก็เป็นทางทนายเขาติดต่อ เขาบอกว่าเขาก็แจ้งแล้วว่าจะขอโทษ อาจจะเป็นเรื่องปัญหาของการสื่อสาร อันนี้เราก็ไม่ได้โทษอะไรกัน แต่ว่าการแสดงความจริงใจในการที่จะเยียวยาแก้ไข ตรงนี้มันไม่มีจริงๆ”
ศาลนัดไต่สวนพยานอีกหนึ่งปาก 16 มิ.ย. นี้
ทนาย : “วันนี้ไต่สวนของป่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวพยานอีกปากหนึ่ง ที่จะเอามาเบิกในชั้นไต่สวนในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ก็ไม่น่าจะยาวมาก เพราะว่าเป็นปากสั้นๆ เป็นเรื่องของลูกค้าที่เขายกเลิกไป ที่เขาหลงเชื่อตรงนี้ ก็เป็นล็อตใหญ่เหมือนกัน ซึ่งแนวโน้มจะเป็นยังไง ผมก็คิดว่าเราก็เอาความจริงเสนอศาล เหมือนที่ป่านเอาความจริงเสนอศาลวันนี้ คิดว่าความยุติธรรมก็น่าจะชัดเจนเปล่งประกายออกมาให้เห็นครับ”
หวังได้รับข่าวดี ตามดุลยพินิจของศาล
ทนาย : “ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลท่าน แต่เราก็นำเสนอไปตามความจริง”
สายป่าน : “ก็หวังว่าท่านจะเมตตาค่ะ”
อยากถามอีกฝ่าย ถ้าเจอแบบนี้บ้าง จะรู้สึกยังไง
ทนาย : “ก็ถ้าวันนี้เขาดูอยู่ ก็คุณทำอะไรไว้ เราก็เปิดโอกาสที่จะให้คุณแสดงความจริงใจนะครับ มันไม่ใช่แค่คนหนึ่งที่เสียหาย มันเป็นบริษัทของน้องเขา รวมถึงมีการแจ้งทางบริษัทที่กรีซ ที่มีปัญหาด้วย มันกระทบหลายฝ่าย แล้วโควิดมา เขามีคนต้องเลี้ยงดู แล้วมาเจอเรื่องอย่างนี้ ถ้าเป็นคุณ คุณจะรู้สึกยังไงในเรื่องที่เกิดขึ้นตรงนี้”
บอกความโกรธมันเบาบางลงแล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำแบบนี้ทำไม
สายป่าน : “ถามว่ายังโกรธเขาไหม มันก็เบาบางลงนะคะ อย่างที่ป่านบอกว่าป่านไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ป่านไม่เคยทำอะไรให้เขามาก่อน แล้วโดยส่วนตัว นิสัยป่านก็ไม่เป็นคนที่ชอบมีปัญหาอะไรกับใครอยู่แล้ว ป่านไม่เข้าใจเหตุผล ไม่เข้าใจประเด็นของเขา ว่าแล้วเราจะมาทำอย่างนี้กันทำไม เขาจะมาทำป่านแบบนี้ทำไม ทั้งที่เราต่างคนต่างอยู่ก็ได้ ป่านไม่เข้าใจตรงนี้แหละ”
ถ้า 5 ล้านมันเยอะไป ทำไมไม่คุยกัน เปิดโอกาสไกล่เกลี่ยแล้ว แต่ก็ยังไม่ติดต่อมา ปล่อยเวลาผ่านเป็นปี
สายป่าน : “ก็อยากที่พี่ทนายบอก ว่าเราเปิดมาตลอด ว่าเขาไหวเท่าไหร่ คือมันต้องมีการคุยกันก่อน ต้องเจรจากันก่อน ว่าประมาณไหนจะโอเคทั้งสองคน แต่ว่าผ่านมาไม่เคยมีเลย แม้แต่ครั้งเดียว แม้กระทั่งวันนี้ มันคือโอกาส คือในทุกๆ วัน พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ก็คือโอกาสอยู่ แต่ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปีที่แล้วเดือนกรกฎาคม จนถึงตอนนี้มันจะปีหนึ่งแล้ว ไม่เคยมีเลย ทั้งๆ ที่ป่านก็ให้โอกาสเขามาตลอด”
คาด 16 มิ.ย. ที่นัดศาลต่อ คงไม่มีอะไรยืดเยื้อ
ทนาย : “ผมว่าก็คงไม่แล้วแหละครับ เพราะว่าสืบพยานแค่ปากเดียว หลังจากนั้นศาลก็คงนัดฟัง ว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่อย่างไร”
ยืนยันค่าเสียหาย 5 ล้าน เรียกตามความเหมาะสมแล้ว
ทนาย : “จริงๆ ถ้าเห็นความเสียหายของป่าน แล้วก็ที่มันส่งผลไปถึงที่ประเทศกรีซเนี่ย มันเกินกว่าที่เราเรียก 5 ล้านนะจริงๆ แล้ว ถ้าถามผมน้องก็คือมีจิตใจเมตตาแล้วนะ”
สายป่าน : “ป่านมองตรงนี้ว่า 5 ล้านมันเป็นราคาที่ ถ้าเทียบกับความเสียหายจริงๆ ป่านรู้สึกว่ามันเมกเซ้นส์แล้ว มันไม่ได้เยอะน่าเกลียด ถ้าเทียบกับความเสียหายที่ป่านเสียไป”
ทนาย : “ฝั่งทนายเขาก็พูดลักษณะเหมือนเราไม่ได้เสียหายนะ แต่ว่าเราก็มีเอกสารบางส่วนที่ให้ดู อย่างเช่นว่า หลักฐานที่มีลักษณะเหมือน group by แล้วยกเลิกเกือบล้าน มันเยอะนะ เราส่งแค่บางส่วนเอง เขาก็ได้เห็นแล้ว แต่จริงๆ คือมันมีมากกว่านี้ ถ้าเขาเห็นผมว่าเขาน่าจะตกใจ แต่วันนี้เขาก็พูดแต่ว่าเราไม่เสียหายหรอก ลักษณะนี้ แต่คือทางเรามันชัดเจน ถ้าเราไปดูในช่วงก่อนที่จะมีเรื่อง ก็จะมีคนโพสต์ตลอด แต่ตอนนี้แบรนด์นี้แทบจะคนอุดหนุนน้อยไปเลย ทั้งๆ ที่สินค้ามันก็ดี จริงๆ ที่เราจะทำสืบเนี่ย มันมีส่วนที่เขาวางจะทำโครงการดีๆ ไว้ด้วยครับ”
คู่กรณีคิดว่าเขาไม่ผิด เขาก็เลยไม่จ่าย
ทนาย : “ประมาณนั้นครับ”
สายป่าน : “คือพูดยากค่ะ เขาไม่ใช่ป่าน เขาก็ไม่รู้หรอก ว่าเราเสียหายอะไรไปบ้าง ถ้าเขาออกมาแก้ข่าวให้ผ่านสื่อ อันนี้ก็คืออยู่ในข้อเรียกร้องหนึ่งอยู่แล้ว ถ้าในกรณีที่ศาลท่านเมตตานะคะ สิ่งนั้นต้องเป็นสิ่งที่เขาต้องทำอยู่แล้ว แต่นอกเหนือจากนั้น มันก็ยังมีอื่นๆ อีก ที่เราเรียกร้องไป”
ทนาย : “ซึ่งที่เขาบอกว่าจะขอโทษ ก็แค่ขอโทษเฉยๆ ไม่ได้บอกว่าขอโทษอะไรด้วย เราก็เลยรู้สึกว่าเอ๊ะ มันเป็นความจริงใจหรือเปล่า ขนาดศาลท่านยังบอกว่าดูแล้วแนวโน้มไม่น่าจะคุยกันได้นะ เพราะท่านก็ถามว่าเราเปิดโอกาสคุยไหม เราก็แจ้งแต่แรกว่าเราเปิด หลักฐานวันนี้ที่เอามา ก็เป็นที่เขากระทำความผิดต่างๆ ว่ามีบุคคลหลงเชื่อ ความเสียหายเบื้องต้นเท่าไหร่ แล้วในส่วนเรื่องของความถูกต้อง ที่เขาบิดเบือนไป ในเรื่องที่เขาแจ้งเป็นเท็จ เราก็มีหลักฐานมาเสนอศาล ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร”
สายป่าน : “จริงๆ เจ้าของภาพสินค้านั้น เขาก็มาคอมเมนต์ข้างล่างแล้วเหมือนกัน อยู่ในโพสต์ที่เขาโพสต์ลงไป แต่ว่าเจ้าของเรื่อง ก็คือตัวความที่เราฟ้องไปเนี่ย เขามาคอมเมนต์ตอบ ว่ายังไม่เชื่อ แล้วก็พยายามจะเบี่ยงประเด็นไป แล้วก็ตอบด้วยประโยคคำถาม ว่าจริงเหรอ แบบนี้จริงหรือเปล่า อ๋อ เหรอครับ ชี้แจงหน่อยนะครับ อะไรประมาณนี้”
ทนาย : “เขามาแจงแล้ว ยังมาถามอีก ว่าเป็นไปได้เหรอครับ ลักษณะแบบเป็นประโยคปลายเปิด คำถามเหมือนไม่เชื่อ ว่ามันเป็นไปได้เหรอ”
ถ้าศาลประทับรับฟ้อง ได้เจอกันแน่ไม่ต้องห่วง
ทนาย : “สำหรับฝั่งเขา ถ้าเกิดศาลประทับรับฟ้อง เขาได้มาแน่ครับ ไม่ต้องห่วง ก็อยากจะเจอเขาเหมือนกัน ก็อยากรู้ว่า ทำไมถึงทำแบบนี้กับคนที่ไม่ได้รู้จักกัน แล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันด้วย”


