xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “อแมนด้า” มองบวกไม่มงฯ ก็ไม่ได้แปลว่าแพ้ แย้มมีหนุ่มดูใจแล้วแต่ไม่พร้อมเปิดตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อแมนด้า” แย้มมีหนุ่มดูใจมานานแล้ว แต่ยังไม่พร้อมเปิดตัว จากนี้พร้อมเปิดรับประตูบานใหม่ในชีวิต อยากลองงานบันเทิง โวช่วงเวลาไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2020 เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ได้รับประสบการณ์มากมาย มองบวกไม่ได้มงฯ ก็ไม่ได้แปลว่าตนแพ้ และตนทำเต็มที่ที่สุดแล้ว



หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเวที Miss Universe 2020 ที่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว “อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม”ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยพร้อมทีมงาน เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา และทำการกักตัวจนครบ 14 วันแล้ว วันนี้ (4 มิ.ย.64) อแมนด้า ก็ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนในทุกเรื่องราวหลังจากได้ขึ้นเวทีประกวด ขอบคุณแฟนนางงามที่ให้การต้อนรับตนอย่างอบอุ่น

“ขอบคุณทุกท่านเลยที่ให้การต้อนรับอย่างดี หลังจากที่กักตัวไป 14 วัน เมื่อคืนตื่นเต้นนอนไม่หลับเลย เพราะวันนี้จะได้ออกมาแล้ว 14 วันก็สวยทุกวัน รู้สึกเหมือนเก็บตัวมากกว่ากักตัว ไม่เบื่อค่ะ เพราะในแต่ละวันเราก็มีเรื่องที่จะต้องทำ วันไหนว่าง รู้สึกเหงาก็ทำคอนเทนต์ไป ก็เลยไม่รู้สึกว่ามีวันไหนเหงาเลย

ตอนที่ประกวดเราไปด้วยมายด์เซ็ตที่ว่าเราอยากจะทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด เราอยากจะไปด้วยอารมณ์ที่มีความสุข ตอนอยู่ที่สนามบินด้าก็ได้บอกไปแล้วว่าด้าไม่อยากจะแบกความหวังของใคร แต่เราจะไปด้วยความสุขและรอยยิ้มที่เราไปในฐานะตัวแทนประเทศไทยจริงๆ ใครได้ติดตามจะเห็นว่าทุกเช้าด้ามีความสุขมากถึงแม้วันนั้นอาจจะนอนน้อย แต่เราดีใจที่เราไปอยู่ตรงนั้น เราที่ใจที่ถึงแม้จะมีสถานการณ์โควิด-19 อยู่ เราก็ยังได้มาประกวด

เรามีความสุขทุกย่างก้าวที่อยู่ตรงนั้น เราสนุกกับทุกกิจกรรม ทุกก้าวบนเวที มันคือความภาคภูมิใจของด้าที่มาถึงจุดนี้ได้ นี่มันคือความฝัน ฉะนั้นมันเลยเต็มไปด้วยความสุข”

รับมีเสียใจบ้างไม่เข้ารอบท็อป 5 รู้สึกดีและมีความสุขที่ได้ทำหน้าที่ของตัวเองบนเวทีอย่างเต็มที่แล้ว
มันก็มีบ้างที่เรารู้สึกว่าเราทำเต็มที่แล้วนะ แต่ถ้าให้ด้ากลับไปได้แล้วจะเปลี่ยนอะไร ด้าไม่สามารถทำได้ เพราะด้าทำทุกอย่างอย่างดีที่สุดที่ไทยจะทำได้แล้วมันไม่มีอะไรที่จะต้องเสียดายหรือเสียใจ เราทำดีที่สุดแล้ว เราไม่ใช่คนที่จะเลือกว่าใครจะเป็นผู้ชนะ มันนอกเหนือการควบคุมของเรา ก็ไม่เป็นไร เรารู้ตัวเองดีว่าเราทำหน้าที่ตรงนั้นมาดีที่สุดแล้ว

ไม่รู้เลยค่ะว่าด้าพลาดอะไรไป ตอนที่ย้อนกลับไปดู เราก็ว่าเราทำดีที่สุดแล้วนะ ยิ้มแบบแฮปปี้จริงๆ ใครดูจะรู้เลยว่าเราไม่ได้มีความกดดัน หรือรู้สึกกลัว อะไรเลย ตอนที่เรายืนอยู่บนเวทีตรงนั้นเรายิ้มอย่างมีความสุขจริงๆ ตอนที่เขาประกาศท็อป 5 เราเริ่มได้เห็นแล้วว่าใครได้เข้า เรามองรอบๆ ตัวเราที่เขาดีมากเลย แต่เขายังไม่ได้เข้า เราก็เริ่มรู้ว่าเราอาจจะไม่ได้ไปตามแพลนของเรา ก็ไม่เป็นไร เราก็ไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีไหนในการเก็บคะแนน”

ไม่เห็นภาพตนมีน้ำตาเพราะไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจ มองบวกไม่ได้มงฯ ก็ไม่ได้แปลว่าตนแพ้
“ก็ทำดีที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรที่เราจะต้องเสียใจ ถึงจะย้อนเวลากลับไปได้เราก็ไม่สามารถทำให้มันดีขึ้นได้มากกว่านี้อีกแล้ว เราย้อนดูตัวเอง เราก็รู้สึกว่าเราทำดีที่สุดของเราแล้วจริงๆ ไม่มีอะไรจะต้องเสียใจมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ส่วนหนึ่งของการแข่งขัน ที่จะต้องมีผู้แพ้ ผู้ชนะ การที่เราไม่ได้มงกุฎก็ไม่ได้แปลว่าเราแพ้ มันเป็นแค่อีกย่าวก้าวนึงที่อาจจะไปสู่ประตูอื่นหรือความสำเร็จอื่นก็ได้

(แฟนนางงามโมโหแทนเรา?) ทุกอย่างมีแพ้ มีชนะ ไม่เป็นไรนะคะ ปีนี้เราก็ทำให้สายสะพายไทยแลนด์มันสตรองขึ้น ก็ไม่ต้องเสียใจนะคะ ด้าโอเคค่ะ ด้าพร้อมสำหรับประตูบานอื่น บานนี้ไม่เปิดไม่เป็นไร เราไปบานอื่นได้ค่ะ หลังจบการประกวดก็ยังมี WhatsApp กลุ่มเพื่อนๆ นางงาม บางวันตื่นมาข้อความก็เพียบเลยคะ ลุกเป็นไฟอยู่ค่ะ ด้าจะคุยกับรูมเมท มิสสิงคโปร์ ด้าโชคดีมากเลยที่ได้เขาเป็นรูมเมท มันมีความคลิกกันใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันง่าย ขอบคุณมิสสิงคโปร์มากๆ นะคะที่น่ารักมาก”

กับดรามาผู้คว้ามงฯ ในปีนี้ เจ้าตัวบอกเราควรให้เกียรติและร่วมแสดงความยินดีกับผู้คว้ามงฯ
เราพูดอะไรไปตอนนี้มันไม่สามารถกลับไปเปลี่ยนผู้ชนะได้ ฉะนั้นเราก็ควรให้เกียรติเขาในฐานะที่เขาก็เป็นมิสยูนิเวิร์ส 2020 อยากจะให้ทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกันดีกว่าค่ะเราก็ได้ร่วมแสดงความยินดีกับเขา (อย่างช่างทำผมเขาก็บอกว่าเราคือผู้ชนะ เรารู้สึกอย่างไรบ้าง?) ก็ขอบคุณค่ะที่เขาเห็นความตั้งใจเรา ขอบคุณที่เห็นเรา เราก็ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว”

โวช่วงเวลาไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2020 เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ได้ประสบการณ์มากมาย
“ได้รับความสุข ถึงการไปประกวดครั้งนี้ด้าจะไม่ได้มงฯ กลับมา แต่พอได้คิดถึงช่วงที่ประกวดมันมีความสุข เราไม่ได้รู้สึกเสียดายหรือเสียใจเลย เรารู้สึกว่าช่วงเวลา 10 วันมันไม่พอ มันควรมีนานกว่านั้น เคยพูดถึงโมเมนต์นึงที่รู้สึกประทับใจมากนั่นคือตอนที่แต่ละประเทศจะขึ้นไปบนเวที แน่นอนการที่จะขึ้นไปในโมเมนต์นี้ทุกคนมีความตื่นเต้น ทำอะไรไม่ถูก แต่เพื่อนๆ ข้างหลังก็คอยให้กำลังใจ ปรบมือ มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้เราขนลุก การที่เรารู้สึกว่าการที่เราจะพัฒนาตัวเองขึ้นไป การที่เราจะชนะมันไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปกดขี่คนอื่น แต่เราสามารถยินดี ปรบมือให้เพื่อนได้ มันเป็นโมเมนต์ Empowerment (การเพิ่มอำนาจ) จริงๆ”

ก้าวต่อไปหลังจากนี้ พร้อมเข้าสู่วงการบันเทิง
“จริงๆ เดี๋ยวน่าจะมีนัดคุยกับผู้ใหญ่ ถึงเรื่องอนาคต ถ้ามีผู้ใหญ่ใจดีเปิดประตูให้ด้าก็พร้อมที่จะรับ แต่อยากจะพูดถึงโครงการ Have You Listened ที่เรารู้แล้วว่าเราจะแพลนต่อ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ อยากทำงานในวงการบันเทิง ก็อยากลองดู น่าจะสนุก อยากเล่นละคร , ภาพยนตร์ (หัวเราะ) ก็มีคนเคยถามว่าอยากเล่นบทบาทไหน คือด้าเคยดูเรื่อง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ หนังผี ก็น่าจะเล่นแบบนี้ๆ (หัวเราะ) แต่ไม่ว่าจะบทอะไรก็คือพร้อมค่ะ ถามว่ามีค่ายละครติดต่อมาไหม เห็นว่ามคุยกับทางแม่ปุ้ย (ปิยาภรณ์ แสนโกศิก) มาค่ะ แต่ด้าไม่รู้รายละเอียด เพราะกักตัวอยู่ ยังไม่มีโอกาสที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องในอนาคต จะเป็นการพูดคุยเรื่องของแต่ละวันมากกว่า เดี๋ยวออกจากโรงแรมแล้ว ก็น่าจะได้คุยค่ะ ขอบคุณทุกคนนะคะ เดี๋ยวมาดูกันอีกทีว่าผู้ใหญ่คุยอะไรกันค่ะ”

ดีใจกักตัว 14 วัน เรียบร้อย มีแฟนๆ มารอต้อนรับ
“ดีใจค่ะ ทุกคนน่ารักมากจริงๆ เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นมากค่ะ ขอบคุณทุกคนที่มานะคะ ขอบคุณที่คอยมอบความรัก กำลังใจ พูดแล้วจะร้องไห้ (ยิ้ม) ส่วนคนที่อยากเจอ แต่ไม่ได้มา ไม่เป็นไรค่ะ ด้าเชื่อว่าในอนาคตเดี๋ยวเราต้องเจอกันแน่นอน แต่ด้วยสถานการณ์หลายๆ อย่าง มันความปลอดภัยนะคะ เป็นไรค่ะ ในอนาคตมีแน่นอนค่ะ อยากจัดแฟนมีตติ้งมาก แต่สถานการณ์จัดไม่ได้ จริงๆ อยากจัดก่อนที่จะไปประกวดอีกค่ะ ในอนาคตถ้าจัดทุกคนต้องรู้แน่นอนค่ะ”

แย้มมีหนุ่มคบหาดูใจแล้ว
“(หัวเราะ) หัวใจแฮปปี้ดีค่ะ ก็คบนานแล้วค่ะ เขาเป็นกำลังใจที่ดี ไม่ว่าเราจะทำอะไรเขาก็ซัปพอร์ต แต่จริงๆ การที่เราจะหาใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็ต้องคอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน คอยซัปพอร์ตไม่ว่าความฝันจะคืออะไร ต้องคอยอยู่เคียงข้าง คอยผลักดันซึ่งกันและกัน นั่นคือสิ่งที่ด้าคิดว่าสำคัญที่สุด ถามว่าจะเปิดตัวเลยไหม ยังก่อนค่ะ (ยิ้ม)

ขอเป็นกำลังใจเล็กๆ ให้ทีมแพทย์ ที่กำลังต่อสู้วิกฤตโควิด-19
“ด้วยสถานการณ์หลายๆ อย่าง โควิดยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง ยังเป็นเรื่องที่ซีเรียสมาก อยากจะให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนนะคะ ขอบคุณที่เป็นฮีโร่ตัวจริง เพราะว่าในโลกเรานี้ไม่ต้องการสไปเดอร์แมน ซุปเปอร์แมน หรือใครทั้งนั้น แต่คุณคือฮีโร่ของเราค่ะ ด้าอยากเป็นกำลังใจเล็กๆ ให้นะคะ ขอให้เราทุกคนผ่านสถานการณ์แย่ๆ นี้ไปให้ได้ และฝากถึงทุกคนการ์ดอย่าตกนะคะ ใส่มาสก์ พ่นสเปรย์แอลกอฮอล์ ด้าเชื่อว่าเราจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ค่ะ”

















กำลังโหลดความคิดเห็น