ย้อนช่วงเวลาทองของ “ลุงพล” หรือนาย “ไชย์พล วิภา” จากผู้ต้องสงสัยฆ่า “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่หายตัวจากบ้าน ในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 ก่อนจะถูกพบเป็นศพอยู่กลางป่า บนเขาภูเหล็กไฟ ซึ่งห่างจากบ้านราว 2 กม. เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 63 สู่การเป็นดาราคนดัง 1 ปีมีทั้งงาน มีทั้งเงิน รายได้อื้อเกิน 5 ล้าน
ก่อนจะถูกออกหมายจับใน 3 ข้อหา พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป จากผลตรวจดีเอ็นเอที่ชี้ชัดว่ามีความเชื่อมโยง
โดยเส้นทางการเป็นคนดังของ “ลุงพล” เริ่มจากความสงสาร และความเห็นใจ ที่ถูกตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าน้องชมพู่ ด้วยน่าซื่อๆ ดูไม่มีพิษมีภัย เปลี่ยนให้คนร้ายกลายเป็นเน็ตไอดอล มีคนไปให้กำลังใจกันถึงบ้าน มีสื่อตามติดชีวิตเรียลไทม์อยู่นานเป็นเดือนๆ
ก่อนมือปราบสัมภเวสีอย่าง “หมอปลา” จะอาสามาติดกล้องวงจรปิดให้ ทั้งรอบบ้านและตัวรถ เพื่อดูแลความปลอดภัย ญาติดีกันอยู่สักพัก จนความดังที่ฉุดไม่อยู่ ได้นำพา “อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ” นักปั้นมือทอง เข้ามาเป็นผู้จัดการ จัดหางานให้แบบฟรีๆ
เริ่มจากไปถ่ายเอ็มวีเพลง “เต่างอย” ร่วมกับลูกทุ่งดัง “จินตหรา พูนลาภ” รับค่าตัวหลักแสน ไม่รวมออกคอนเสิร์ตและโชว์ตัวตามจังหวัด ซึ่งเพลงดังกล่าว ก็มียอดวิวพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชนิดที่ว่า 1 วัน 1 ล้านวิว
ต่อมาก็ประเดิมงานเดินแบบ ทำเอาห้างแทบแตกเพราะเอฟซี กลายเป็นกระแส “ลุงพลฟีเวอร์” ฮอตฮิตเป็นซุป’ตาร์คนดัง ขึ้นแท่นเซเลบแห่งบ้านกกกอก อยู่บ้านคอยรับแขก ที่แวะเวียนมาหาเป็นคณะทัวร์ ทั้งถ่ายรูปคู่ แจกลายเซ็น เลยมีไอเดียเปิดช่องยูทิวบ์ลุงพลป้าแต๋น แฟมิลี่ ลงคลิปชีวิตประจำวัน
จากนั้นก็มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย ทำเอาหมอปลา พร้อมด้วยอุ๊บ วิริยะ และนักข่าวคนดัง ไอซ์ สารวัตร ช่องอมรินทร์ 34 ต้องตั้งกรุ๊ปคอยสกรีนงานให้ ไม่ว่าเป็นพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่ได้ “ปิ๋ม ซีโฟร์” แห่ขันหมากไปขอกันถึงกกกอก หรือสถาบันเสริมความงาม, คอนโดหรู, โชว์รูมรถ ไหนจะหนังที่ไปเล่นเป็นนักแสดงรับเชิญ รายการบันเทิงต่างๆ อีกทั้งงานบุญ งานบ้าน งานกฐินที่เดินสาย นับดูแล้วน่าจะรับทรัพย์ไปเกิน 5 ล้าน ไม่รวมค่าโฆษณารีวิว กับรายได้จากช่องยูทิวบ์ และเงินบริจาคจากเหล่าแฟนคลับ
นอกจากนี้ยังมีเพลงฮิตติดโซเชียล ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะแต่งมาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ กับเพลง “อยากเป็นป้าแต๋นแฟนลุงพล” ที่แต่งโดย “ยิ่งยง ยอดบัวงาม” โดยมี “พิมจ๋า ยอดบัวงาม” เป็นคนร้องแต่สุดท้ายก็ได้ลบไปในที่สุด เพราะเริ่มมีกระแสด้านเข้ามาเรื่อยๆ ถึงขนาดมีแฮชแท็ก #แบนลุงพล
ซึ่งงานนี้ก็ทำให้คนสนิท อย่างหมอปลาและอุ๊บ วิริยะ ค่อยๆ เฟดตัวออกมา เหตุเริ่มแตกคอกัน เพราะลุงพลเปิดรับบริจาค รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับเหล่ายูทูปเบอร์ ที่ถ่ายทำแบบติดตามเป็นเงา ไม่เห็นหัวสื่อน้อยใหญ่ ถึงขนาดมีการกระทบกระทั่ง ผลักอกนักข่าวที่ตามสัมภาษณ์
พอหมดพื้นที่สื่อในหน้าจอทีวี ก็รับงานตามใจฉัน เดินหน้าทำช่องยูทิวบ์แบบเต็มตัว จนปัจจุบันลงไปกว่า 980 คลิป แถมยังทำเพลง พร้อมมิวสิกวิดีโอของตัวเองด้วย เหมือนยิ่งดัง มีเงินเยอะ ชีวิตยิ่งไปกันใหญ่ หาทำแต่อะไรไม่รู้ อย่างการสร้างพญานาคองค์ใหญ่ รุกที่ป่าสงวน จนเป็นประเด็นให้ทุบทิ้ง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังคงมีเอฟซี มีแฟนคลับติดตามกันอยู่ จึงไม่ได้หวั่นกลัวใดๆ หากินกับคอนเทนต์ไม่มีสาระไปวันๆ จนในที่สุด ความจริงก็ปรากฎแล้ววันนี้ วันที่ตำรวจออกหมายจับ ว่าเป็นผู้ต้องหาซ่อนเร้นอำพรางศพ ในคดีฆ่าน้องชมพู่ หลานสาวของตัวเอง ถึงการอวสาน ปิดฉากซุป’ตาร์ คนดัง ลุงพลแห่งบ้านกกกอก หลังเสวยสุขมา 1 ปีเต็มๆ
